รีวิว หนัง PREY

รีวิว หนัง PREY

รีวิว หนัง PREY กลับมาอีกครั้งของตำนาน PREDATOR ที่นำเอามนุษย์อวกาศมาปะทะกับชนเผ่าพื้นเมือง

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ไซไฟอวกาศน่าจะคุ้นหูคุ้นตากันดีกับชื่อ PREDATOR มันคือมนุษย์ต่างดาวที่ได้รับการเรียกขานว่าเป็นพรานบนอวกาศเนื่องจากมีความสามารถในการไล่ล่าเหยื่อเพื่อเป็นอาหารอย่างโหดร้าย พวกเขาไม่ได้มีภาพลักษณ์เป็นมนุษย์อวกาศที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเหลือล้นแต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชื่นชอบการล่าอย่างเป็นชีวิตจิตใจและยังชื่นชอบการทรมานเหยื่ออีกด้วย ครั้งหนึ่งเคยมีภาพยนตร์ที่นำเอา PREDATOR มาต่อสู้กับ XENOMORPH เอเลี่ยนที่โตเต็มวัยจากภาพยนตร์เรื่องเอเลี่ยนอีกด้วย 

มันคงจะสนุกดีไม่น้อยหากนำเอาผู้ที่มีความสามารถในการล่ามาลงสนามประลองความสามารถกัน มันจึงกลายมาเป็นไอเดียของภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ PREY ภาพยนตร์ที่จะทำให้พรีเดเตอร์หวนกลับมาเป็นตำนานอีกครั้งหลังจากห่างหายไปจากวงการภาพยนตร์ยาวนานหลายปี แถมคู่ต่อสู้ของสัตว์ประหลาดอวกาศในครั้งนี้ยังเป็นชนเผ่าพื้นเมืองอีกด้วย มันจึงเป็นการผสมผสานการที่แปลกใหม่แต่ทว่าลงตัวไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง 10 โคลเวอร์ฟิลด์เลน แดน แทคเทินเบิร์กด้วย นอกจากนี้เขายังนั่งแท่นร่วมกับนักเขียนบทเพื่อสร้างสรรค์บทภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ออกมาเต็มไปด้วยความสนุกสนานและน่าตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม การหยิบยกนำเอาตำนานทั้งสองมารวมกันที่แตกต่างแต่กลับสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเน้นความสยองขวัญระทึกขวัญมากกว่าการต่อสู้แบบเอาจริงเอาจัง มันจึงเป็นความน่ากลัวผสมกับความดราม่าที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศแปลกใหม่ให้กับภาพยนตร์ในตระกูล PREDATOR มันจะมีความสนุกสนานและน่าสนใจอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน

หนัง disney plus น่าดู

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง PREY

PREY เป็นภาพยนตร์ที่จะพาเราย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ 300 ปีที่แล้ว มีชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ของประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน หนึ่งในสมาชิกของชนเผ่าพื้นเมืองดังกล่าวคือเด็กสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่านารู เธอเป็นเด็กสาวธรรมดาทั่วไปที่ได้เรียนรู้ชีวิตการเอาตัวรอดท่ามกลางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้หรือแม้แต่การล่าสัตว์เพื่อประทังชีวิต 

ในวันหนึ่งเธอได้พบเข้ากับเหตุการตลาดเพื่อเธอสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ชนเผ่าตั้งรกรากอยู่ ตอนนั้นเธอกำลังออกตามล่าหาหมีตัวใหญ่แต่กลับกลายเป็นว่าเธอต้องพยายามเอาชีวิตรอดและต่อสู้กับผู้ผู้มาเยือนสุดแปลกประหลาดเพื่อปกป้องชีวิตของตัวเองและชนเผ่าให้สำเร็จ 

แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือผู้มาเยือนหน้าตาแปลกประหลาดนั้นความจริงแล้วไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตบนโลกมนุษย์ ทว่ามันมาจากอวกาศแถมยังเป็นนักล่าสุดเหี้ยมโหดที่เรารู้จักกันในชื่อ PREDATOR อีกด้วย แม้ว่าจะมีทักษะความสามารถในการต่อสู้หรือการล่าสัตว์มากแค่ไหน การเอาชีวิตรอดจากพรานที่เต็มไปด้วยความสามารถและไร้ปรานีที่สุดในอวกาศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายแล้วเธอจะสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้ได้สำเร็จหรือไม่ ต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์ 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง PREY

PREY เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ PREDATOR ได้กลับมาฟื้นคืนชีพในภาพยนตร์ยุคปัจจุบันอีกครั้งหลังจากที่มันประสบความสำเร็จอย่างงดงามถึงขั้นที่เคยประมือกับเพื่อนร่วมอวกาศอย่าง XENOMORPH มาก่อน ในครั้งนี้คู่ต่อสู้ของมันแตกต่างจากที่เคยผ่านมาเพราะไม่ใช่เอเลี่ยนด้วยกัน ไม่ใช่คนที่มีความสามารถเป็นพิเศษ และยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอวกาศอีกด้วย เพราะพวกเขาเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ชนพื้นเมืองที่อาศัยการล่าสัตว์เพื่อประทังชีวิตเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้มีทักษะการล่าและการต่อสู้ที่ไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน มันจึงเป็นการผสมผสานกันที่แตกต่างกันแต่กลับออกมาลงตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ

ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้จัดเต็มการต่อสู้ถึงขนาดนั้นแต่จะเน้นการสร้างบรรยากาศความกลัวไปพร้อมกับฉากดราม่ามากกว่า เนื่องจากคู่ต่อสู้ของพรานอวกาศในโลกนี้เป็นเพียงแค่ชนเผ่าที่ไม่ได้มีอาวุธพิเศษอะไร ดังนั้นสิ่งที่ชนเผ่านี้จะต้องใช้ในการต่อสู้ก็คือมันสมองและการหลบหนีมากกว่าการเข้าไปเผชิญหน้า ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะรับชมการต่อสู้แบบจัดเต็มก็อาจจะผิดหวังได้ ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่ถูกใจบรรดานักวิจารณ์ เนื่องจากองค์ประกอบโดยรวมของภาพยนตร์ทำออกมาได้ค่อนข้างดีโดยเฉพาะในส่วนของการออกแบบ 

แต่สำหรับในมุมมองของผู้รับชมภาพยนตร์ทั่วไปแล้วมันอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่รับชมยากซะหน่อย เพราะจั่วหัวมาว่าเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้แต่ในความเป็นจริงแล้วจุดไฟติดช้ามาก ดำเนินเรื่องช้า กว่าจะถึงจุดสำคัญของภาพยนตร์ก็ทำเอาผู้รับชมธรรมดาทั่วไปอย่างเรารู้สึกเบื่อได้ไม่ยาก เป็นการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์แนว SLOW BURN ที่อาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคนที่รับชมแต่อย่างใด กว่าจะจุดเครื่องติดก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงอย่างนั้นในช่วงหลังก็จัดเต็มเช่นเดียวกันแบบไม่มีจังหวะให้ได้พักหายใจ ดังนั้นหากคุณสามารถอดทนข้ามช่วงแรกของภาพยนตร์ไปได้รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับความสนุกอย่างถึงขีดสุดในช่วงหลังอย่างแน่นอน 

ตัวอย่างหนัง PREY

รีวิวหนัง PREY บางส่วนจาก trueid

นับเป็นการกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรี กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากแฟรนไชส์แอคชั่น-ระทึกขวัญเลื่องชื่ออย่าง Predator เพิ่งลงฉายให้รับชมกันผ่านทางระบบสตรีมมิ่ง ในวันที่ 5 ส.ค. 2022 อำนวยการสร้างโดยค่าย 20th Century โดย Prey เป็นผลงานแอคชั่น-ระทึกขวัญที่ได้ผู้กำกับมือดีอย่าง Dan Trachtenberg เจ้าของผลงานภาพยนตร์ไซไฟ-ระทึกขวัญชื่อดังเรื่อง 10 Cloverfield Lane มากุมบังเหียนภาพยนตร์เรื่องนื้ และนักแสดงที่ได้มารับบทนำให้กับ Prey ก็คือ Amber Midthunder นักแสดงสาวชนพื้นเมืองอเมริกันที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ marvel สุดอาร์ตเรื่อง Legion

เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 300 กว่าปีก่อน เมื่อสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกสุดสะพรึงเดินทางลงมาเหยียบผืนโลก พร้อมกับเทคโนโลยีอาวุธสุดล้ำสมัยเพื่อเปิดฉากเกมล่าสุดโหด และช่างเป็นโชคร้ายเหลือเกิน เมื่อชนเผ่าโคแมนชี (Comanche) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน ต้องเผชิญหน้ากับความดุดันจากสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ดุร้ายที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นและประมือกันมาก่อน Naru หญิงสาวเลือดนักสู้แห่งชนเผ่าโคแมนชี จึงต้องทุ่มสุดกำลังและความสามารถเพื่อต่อกรกับ Predator พยายามปกป้องชนเผ่าของเธอให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของนักล่าสายพันธุ์โฉดจากอวกาศ

ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การจับนักล่าสุดเหี้ยมจากนอกโลกอย่าง Predator ที่มาพร้อมกับยุทโธปกรณ์ไฮเทคเกินยุคสมัย มาปะทะกับชนเผ่าพื้นเมืองที่มีเพียงอาวุธล่าสัตว์จากวัสดุธรรมชาติแบบบ้าน ๆ ให้ใช้เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสที่จะต่อกรกับเจ้า Predator ด้วยอาวุธพื้น ๆ เหล่านี้ได้อย่างสูสีนั้นแทบจะเป็นศูนย์ และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้ Prey ดึงความสนใจของผู้ชมเอาไว้ได้อยู่หมัดแทบจะตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งการสะท้อนภาพวิถีชีวิตของชนเผ่าโคแมนชี ก็นับเป็นความโดดเด่นของ Prey ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำเชือกจากเปลือกต้นไม้ การใช้ดอก totsiyaa สีส้ม (หรือที่ผู้เขียนเข้าใจว่าอาจจะเป็น dandelion ภูเขา) ในการทำยาบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการบาดเจ็บ

การดำเนินเรื่องของ Prey มาในแนวหนังเอาชีวิตรอดที่ไม่ได้บู๊หนักทุกฉาก แต่เน้นเป็นการสร้างบรรยากาศความกดดันและความตึงเครียดซะมากกว่า โดยเนื้อหาหลัก ๆ ของหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อน เป็นหนังที่เล่าถึงความมุ่งมั่นอยากจะพิสูจน์ตัวเองและต้องการเป็นที่ยอมรับในฐานะนักสู้ของ Naru ที่ถึงแม้เธอจะไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่ง กำยำจนสามารถใช้ความแข็งแรงทางร่างกายเข้าสู้ได้มากนัก แต่เธอก็อาศัยไหวพริบและทักษะในการวางแผนเข้าต่อกรกับอสูรร้ายอย่างไม่ท้อถอย โดยฉากแอคชั่นเรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมาให้ตัวเอกอย่าง Naru เก่งกาจชนิดเกินคน ซึ่งก็เป็นจุดที่ทำออกมาได้สมเหตุสมผลค่ะ

และนอกจากนี้ การใช้โลเคชั่นเป็นป่าเขา ก็ชวนให้ผู้ชมย้อนนึกถึงความระทึกขวัญแบบดิบ ๆ เหมือน Predator ภาคแรกในปี 1987 และภาพยนตร์ชุดที่ 3 ของแฟรนไชส์ที่ปล่อยในปี 2010 อย่าง Predators อีกทั้งยังมี easter egg จากภาพยนตร์เรื่องก่อน ๆ ของแฟรนไชส์สอดแทรกเข้ามาได้อย่างแยบยล (ตัวอย่างเช่น ฉากที่ Taabe พี่ชายของ Naru ถูกกรีดที่หน้าอก ก็ทำให้นึกย้อนถึงฉากที่ Billy กรีดหน้าอกตัวเองใน Predator ภาคแรก)

แนะนำหนัง รีวิวหนัง รีวิวซีรีส์เกาหลี Netflix ซีรีส์ต่างประเทศ

นักแสดงหนัง PREY

Amber Midthunder

Dakota Beavers

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า