The Silence of the Lambs ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญจิตวิทยาที่ดีที่สุดตลอดกาล
The Silence of the Lambs เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่นำเอาศาสตร์ด้านจิตวิทยาเข้ามาทำให้เรื่องราวนั้นเต็มไปด้วยความหลอนและความรุนระทึก จะเป็นอย่างไรหากคนที่ฉลาดปราดเปรื่อง มีอาชีพเป็นถึงหมอ แต่กลับมีปัญหาด้านจิตเวชและอีกด้านนึงของเขานั้นเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
ฆาตกรคนนี้จะต้องเป็นคนที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุดอย่างแน่นอน เพราะเขานั้นสามารถก่อเหตุได้อย่างชาญฉลาดและไม่มีใครสามารถเอาผิดได้ จะเป็นฆาตกรที่สามารถสร้างความหวาดกลัวได้ทั่วทั้งเมือง
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวคร่าวๆ ในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เป็นการดัดแปลงเอาเนื้อหาในนวนิยายของผู้แต่งอย่าง Thomas Harris เขียนเป็นบทและนำเสนอออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ กำกับโดยโจนาธาน เดมมี่
ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายตั้งแต่ปี 1991 เป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้วที่ภาพยนตร์เรื่องนี้โลดแล่นในวงการ แต่มันยังได้รับการพูดถึงอยู่เสมอในปัจจุบันเมื่อมีการพูดถึงภาพยนต์แนวระทึกขวัญ เป็นผลงานการแสดงมาสเตอร์พีซอีก 1 ชิ้นของแอนโทนี่ ฮอปกินส์ และโจดี้ ฟอสเตอร์
แม้ว่าภาพยนตร์ออกฉายตั้งแต่ปี 1991 แต่มันกลับสามารถกวาดรางวัลมาได้อย่างยาวนานจนถึงปี 1997 เลยทีเดียว นับเป็นสุดยอดผลงานของผู้กำกับอย่าง Thomas ที่เลือกหยิบเอานวนิยายขายดีมาดัดแปลงและถ่ายทอดออกมาในรูปแบบภาพยนตร์
เพราะนอกจากมันจะได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมและกลายเป็นหนังในใจของใครหลายๆ คนแล้ว มันยังสามารถทำรายได้ถล่มทลายจนสามารถสร้างภาคต่อออกมาได้มากมายอีกด้วย หากใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวการก่ออาชญากรรมสุดระทึกขวัญ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่องThe Silence of theLambs
The Silence of the Lambsจะเล่าถึงเรื่องราวของนักเรียนตํารวจหญิงที่มีชื่อว่าสตาร์ลิ่ง เธอนั้นเป็นนักเรียนตำรวจที่มากความสามารถและได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ มันจึงทำให้เธอได้รับโอกาสดีๆ มากมาย
โดยในครั้งนี้แจ็คผู้เป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนของ FBI นั้นได้มอบหมายให้เธอเข้าร่วมสืบคดีฆาตกรรมคดีหนึ่ง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคดีนี้จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล โดยข้อมูลของคดีดังกล่าวเป็นเรื่องของการหายตัวไปของหญิงสาวซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรโรคจิตที่ก่อเหตุฆาตกรรมอย่างต่อเนื่องซึ่งมีฉายาเรียกกันในวงการว่า Buffalo bill
หน้าที่สำคัญของเธอในคดีนี้นั่นก็คือการเข้าไปสัมภาษณ์และล้วงความลับข้อมูลที่เกี่ยวกับฆาตกรโรคจิตรายนี้จากนักโทษที่มีชื่อว่าดร.ฮันนิบาล ฆาตกรโรคจิตที่มีดีกรีเป็นถึงนายแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา แต่เขานั้นต้องประสบปัญหากับการป่วยทางจิตทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องเพราะต้องการกินเนื้อมนุษย์
การเข้าไปคุยกับนักโทษคนนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ เพราะมันง่ายที่จะถูกเขาปั่นหัวเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่ฮันนิบาลนั้นจะชื่นชอบตำรวจสาวเป็นพิเศษเพราะเขานั้นได้ยื่นข้อเสนอ ว่าเขานั้นจะให้เบาะแสเกี่ยวกับฆาตกรที่เธอกำลังตามตัวอยู่แต่เธอนั้นจะต้องเล่าเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของตัวเองให้เขาฟัง
แม้เธอจะรู้ดีว่าเขานั้นกำลังพยายามเล่นเกมกับเธออยู่แต่เธอก็ยินดีที่จะเล่าเรื่องราวในวัยเด็กให้เขาฟังเพื่อแลกกับเบาะแสของฆาตกร มันจึงกลายเป็นเกมจิตวิทยาของพวกเขาทั้งสองที่เต็มไปด้วยความระทึกขวัญและเรื่องราวสุดเข้มข้นที่จะทำให้ผู้รับชมลุ้นจนนั่งเก้าอี้ไม่ติดตลอดทั้งเรื่องอย่างแน่นอน
รู้หรือไม่ว่าภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Lambsเกือบไม่ได้มีชื่อของฮันนิบาล
ดร.ฮันนิบาลนั้นเป็นตัวละครหลักในภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Lambsที่เป็นตัวสร้างชื่อเสียงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้และยังเป็นตัวละครโปรดของใครหลายๆ คนอีกด้วย ดังนั้นเราคงจะนึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวไม่มีชื่อฮันนิบาล
แต่ทราบหรือไม่ว่าเดิมทีนั้นเกือบแล้วที่ภาพยนตร์ซีรีส์นี้จะไม่มีชื่อของฮันนิบาล โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2002 หลังจากภาพยนตร์ภาคแรกนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและกำลังมีการวางแผนจะสร้างภาคต่ออย่างเรื่อง Red Dragon ซึ่งเป็นการเล่าที่ว่าย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาค 1 ถึงเรื่องราวในอดีตว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เหตุใดดร.ฮันนิบาลจึงถูกจับกุม ฆาตรกรคนนี้มีปมอะไรในใจที่ทำให้เขานั้นชื่นชอบในการลิ้มรสเนื้อมนุษย์ และเหล่าเจ้าหน้าที่ทำอย่างไรจึงสามารถจับกุมฆาตรกรระดับอัจฉริยะเช่นนี้ได้
เป็นเรื่องราวการก่อเหตุฆาตกรรมของดร.ฮันนิบาล แต่เดิมทีนั้นเคยมีการสร้างภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของโทมัสเช่นเดียวกันชื่อเรื่องว่า Manhunter ซึ่งมีตัวละครหลักเช่นเดียวกับในภาพยนตร์เรื่องแรก
ซึ่งตอนแรกนั้นบริษัทซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Manhunter ตั้งใจที่จะไม่อนุญาตให้ตัวละครหลักไม่ว่าจะเป็นฮันนิบาล แจ็ค และตัวละครอื่นๆ ปรากฏในภาพยนตร์ซีรี่ย์นี้ ทำให้ผู้เขียนบทนั้นต้องไปปรึกษากับผู้เขียนนวนิยาย โดยเขาได้รับคำปรึกษาว่าให้มีการเปลี่ยนชื่อของตัวละคร
แต่แล้วในที่สุดบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Manhunter ก็เกิดเปลี่ยนใจอนุญาตให้ทางผู้สร้างนั้นสามารถใช้ชื่อตัวละครดังเดิมได้ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะได้รู้จักกับดร.ผู้เป็นฆาตกรโรคจิตในอีกชื่อหนึ่งก็เป็นได้