Silent Hill ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมแนวสยองขวัญชื่อดัง
หากพูดถึง Silent Hill ในยุคสมัยก่อนนั้นเชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงเกมแนวสยองขวัญที่มีเนื้อเรื่องสุดสลับซับซ้อนและมีจุดเด่นตรงที่ศัตรูที่มีความน่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่หากพูดถึง Silent Hillในปัจจุบันแล้วล่ะก็คงจะมีทั้งคนที่นึกถึงเกมและภาพยนตร์อย่างแน่นอน
เมื่อพูดอย่างนี้แล้วหลายคนที่กำลังสงสัยว่าเกมกับภาพยนตร์อะไรกันแน่ที่มาก่อนกันคงจะพอได้รับคำตอบแล้ว หรือใครที่ยังไม่เคยทราบมาก่อนอาจจะพอทราบแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการดัดแปลงเนื้อหามาจากเกมแนวสยองขวัญชื่อดังที่มีชื่อเรียกเดียวกันนั่นเอง
ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมยุคก่อนแต่ทางผู้พัฒนานั้นก็สามารถสร้างเกมออกมาให้มีเรื่องราวสุดเข้มข้นและรูปแบบเกมเพลย์ที่น่ากลัวจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเกมดังกล่าวที่มีแต่คนพูดถึงเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นในปัจจุบันนี้ยังคงมีผู้คนหยิบยกเอาชื่อเกมนี้มาพูดถึงอยู่ในปัจจุบันเวลาที่มีการกล่าวถึงเกมแนวสยองขวัญ
แต่ไม่เพียงแต่เกมเท่านั้นที่กลายเป็นมาสเตอร์พีซเพราะภาพยนตร์เองก็สามารถสร้างออกมาได้เป็นอย่างดีจนได้รับการพูดถึงมาจนถึงปัจจุบันเช่นเดียวกันถึงแม้ว่าจะเป็นหนังเก่าก็ตาม
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2549 ถูกจัดอันดับไว้ที่เรทอาร์ เนื่องจากในภาพยนตร์นั้นเต็มไปด้วยภาพความรุนแรงและเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ที่สำคัญแม้แต่ตัวเนื้อหาเองก็มีความรุนแรงไม่แพ้งานภาพ แม้แต่ผู้รับชมที่เป็นผู้ใหญ่ยังต้องอาศัยการตีความและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่ถึงแม้ว่ามันจะดัดแปลงเรื่องราวมาจากเกมแต่ก็มีหลายส่วนที่ไม่เหมือนกับเรื่องราวภายในเกม ดังนั้นหากคุณเล่นเกมแล้วแต่ยังไม่เคยรับชมภาพยนตร์ก็จะไม่เสียอรรถรสในการรับชม หรือหากคุณเคยแต่รับชมภาพยนตร์ยังไม่เคยเล่นเกมมาก่อนก็ยังสามารถเสพความสนุกจากเกมได้อย่างเต็มที่และไม่สามารถเดาเนื้อเรื่องได้เช่นเดิม
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง SilentHill
Silent Hill จะเล่าถึงเด็กสาวคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับอาการป่วยที่แปลกประหลาด เธอนั้นมีชื่อว่าชารอน ชารอนเป็นเด็กสาวที่อาศัยอยู่กับพ่อและแม่บุญธรรมที่พยายามเป็นอย่างยิ่งในการจะรักษาโรคประหลาดที่เธอกำลังเผชิญอยู่ที่แม้แต่หมอก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าโรคดังกล่าวนั้นเกิดจากอะไรกันแน่
จนสุดท้ายเธอนั้นปฏิเสธการรักษาจากแพทย์ซึ่งมาจากสถาบันผู้ป่วยทางจิต เพราะเธอคิดว่าอาการที่ลูกสาวเป็นนั้นไม่ได้เกิดจากการที่เธอป่วยทางจิตแต่มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน เพราะเธอนั้นมักจะวาดภาพหรือฝันถึงเมืองที่มีชื่อว่า Silent Hill อยู่เสมอ
ผู้เป็นแม่อย่างโรสนั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะพาลูกสาวบุญธรรมของเธอกลับไปยังเมืองที่เธอนั้นมักจะละเมอออกมาเวลาที่นอนหลับฝันอยู่เสมอ แม้ว่าสามีของเธออยากคริสโตเฟอร์จะคัดค้านหัวชนฝาก็ตามกับการที่จะนำลูกสาวไปยังเมืองแห่งนั้น
แต่โรสนั้นตอบไม่ฟังคำคัดค้านของสามีและเธอยังเชื่อว่าเมืองแห่งนี้จะสามารถมอบคำตอบให้กับเธอและลูกสาวได้อย่างแน่นอนถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับชารอน แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าสู่เขตของเมืองไซเลนฮิลด้วยซ้ำลดของทั้งสองก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อนทำให้โรสนั้นหมดสติไป
พอเธอฟื้นขึ้นมาเธอก็พบว่าลูกสาวของเธอนั้นได้หายตัวไปแล้ว ทำให้เธอต้องเดินทางเข้าไปตามหาตัวของชารอนภายในเมืองลึกลับที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาโดยที่ไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นกำลังจะได้เจอกับเรื่องราวสุดสยองขวัญที่เปรียบเสมือนฝันร้ายของเธอไปตลอดกาล
ไขข้อสงสัยเรื่องมิติต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Silent Hill
ภาพจำของภาพยนตร์เรื่อง Silent Hill ของหลายๆ คนนั่นก็คือเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหมอก ความจริงแล้วเมืองลึกลับแห่งนี้มีถึง 3 มิติด้วยกัน และแต่ละมิตินั้นแทบจะตัดขาดกันอย่างชัดเจน
เริ่มกันที่มิติแรกนั้นก็คือมิติธรรมดา เป็นมิติที่คนทั่วไปจะมองเห็นนั่นก็คือเมืองร้างที่ถูกไฟไหม้จากเหตุการณ์ไฟไหม้เหมืองถ่านหิน ซึ่งผู้ที่อยู่ในมิติดังกล่าวนี้จะไม่เห็นคนที่อยู่ในมิติอื่นๆ มันจึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดคริสโตเฟอร์และตำรวจนั้นจึงตามหาตัวของโรสและชารอนไม่พบทั้งที่ทุกคนนั้นอยู่ในเมืองเดียวกัน
ต่อมาคือมิติหมอก คนที่จะเข้าสู่มิติดังกล่าวนี้จะต้องมีบาปในใจหรือเคยมีความเกี่ยวข้องกับเมือง Silent Hill มาก่อน ในมิติแห่งนี้จะเหมือนกับมิติทั่วไปไม่ได้มีสัตว์ประหลาดหรือปีศาจที่น่ากลัว เพียงแต่ว่าทุกพื้นที่ในเมืองนี้จะเต็มไปด้วยหมอกปกคลุมหนาที่ทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่เพียงเท่านั้น เป็นมิติที่ผู้คนในเมือง Silent Hill ติดกันอยู่ในนี้
สุดท้ายคือมิติสนิม เป็นมิติที่หนึ่งในตัวละครสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้น เป็นโลกแห่งบาปและความดำมืดในใจของเธอ คนที่อยู่ในมิติหมอกนั้นจะเข้าสู่มิติสนิงแบบสุ่มเวลา ในมิตินี้ทุกอย่างจะเป็นสนิมและเต็มไปด้วยปีศาจร้ายอสูรกายที่น่ากลัวและต้องการจะคร่าชีวิตทุกคน สถานที่เดียวที่ปลอดภัยเมื่อเข้าสู่มิตินี้นั่นก็คือโบสถ์ของเมือง และนกซึ่งเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างอ่อนไหวนั้นกลายเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนเวลาที่กำลังจะเข้าสู่มิติสนิมให้ทุกคนสามารถเข้าไปหลบในโบสถ์ได้ทัน