Final Destination ภาพยนตร์ที่เมื่อดูจบคุณจะใช้ชีวิตระวังมากยิ่งขึ้น Final Destination นั้นเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวความตายออกมาได้อย่างน่าสยดสยอง มีจุดเด่นตรงที่ไม่ว่าสิ่งของอะไรก็ตามหรือสถานการณ์ใดก็สามารถทำให้คนภายในเรื่องนั้นเสียชีวิตลงได้ บางฉากนั้นน่ากลัวจนบางคนถึงขั้นใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังตนเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่จะต้องไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวละครภายในภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่หากลองพิจารณาดูให้ดีมันก็แฝงไปด้วยปรัชญาเช่นเดียวกันที่ว่าไม่มีใครหนีความตายพ้น แม้ว่าครั้งนี้จะรอดชีวิตแต่อย่างไรในอนาคตเราก็ต้องตายกันอย่างแน่นอน เพียงแต่ภาพยนตร์เลือกที่จะนำเสนอภาพที่ออกมาดูน่าสยดสยองเท่านั้น
ปัจจุบันนี้ภาพยนตร์ซีรีส์ Final Destination ออกมาทั้งสิ้นจำนวน 5 ภาค ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะออกภาคใหม่มามากแค่ไหนคนก็ยังติดตามรับชมอยู่เสมอ จะดูเหมือนว่าสำหรับภาพยนตร์ซีรีส์ชุดนี้จะจบลงภายในภาคที่ 5 เท่านั้น โดยเฉพาะฉากจบของภาคที่ 5 ที่มีการถกเถียงกันมากมายว่านี่อาจจะเป็นภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ชุดนี้ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่หลายๆ คนคิด เรียกว่าเป็นการปิดฉากตำนานภาพยนตร์สุดระทึกขวัญพี่ออกฉายกันมาอย่างยาวนานถึง 20 ปีได้เป็นอย่างดี
แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นผลงานของผู้กำกับอย่างเจฟฟี่ เรดดิก ที่นั่งเก้าอี้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ในภาคแรก หลังจากนั้นภาคต่อๆ มาก็ได้ยึด Concept และวิธีการเล่าที่คล้ายคลึงกับภาคแรกมาโดยเสมอ แม้ว่าจะมีวิธีการเล่าเรื่องที่คล้ายคลึงกันในแต่ละภาคแต่เนื้อเรื่องก็มีความแตกต่างกันและมีจุดเด่นตรงที่สามารถออกแบบการตายได้อย่างสมบูรณ์แบบและน่าสยดสยอง
รูปแบบของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าเรื่องถึงเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ตัวละครภายในเรื่องต้องเสียชีวิต แต่กลับมีบางคนในกลุ่มที่สามารถมีมิติภาพของเหตุการณ์เหล่านั้นก่อน ทำให้พวกเขานั้นสามารถรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่หลังจากนั้นผู้รอดชีวิตแต่ละคนก็จะทยอยตายไปเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุที่ค่อนข้างหน้าเหลือเชื่อและสยดสยองเป็นอย่างมาก ผู้รอดชีวิตที่เหลือจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะรักษาชีวิตของตนเองไว้ให้ได้
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง Final Destination ในแต่ละภาค
- ปฐมบทของภาพยนตร์เรื่อง Final Destination ภาคแรกนั้นเกิดจากการที่นักศึกษากลุ่มหนึ่งกำลังออกเดินทางไปยังปารีสด้วยเครื่องบินลำหนึ่งเพื่อทัศนศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 40 คน แต่แล้วหนึ่งในนั้นก็ได้มีการนิมิตรเห็นภาพอุบัติเหตุทางเครื่องบินที่ทำให้คนบนเครื่องบินทั้งลำต้องเสียชีวิต นิมิตเหมือนจริงจนเขาเกิดอาการสติแตกหลังจากได้สติกลับคืนมา
เขาจึงถูกเชิญลงจากเครื่องพร้อมเพื่อนอีก 6 คน และเมื่อเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ไม่นานอุบัติเหตุที่เขาเห็นในภาพนิมิตนั้นก็เกิดขึ้นจริงสร้างความแปลกประหลาดใจให้กับกลุ่มผู้รอดชีวิตทั้ง 6 คนเป็นอย่างมาก แต่ไม่นานหลังจากนั้นผู้รอดชีวิตแต่ละคนก็ทยอยตายตามลำดับที่เสียชีวิตในภาพนิมิตที่เขาเห็น ในภาคแรกนี้มีหญิงสาว 1 คนที่สามารถรอดชีวิตแต่เธอต้องอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชและมีข้อห้ามมากมาย
- ต่อมาที่ภาค 2 จะเป็นเรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังออกเดินทางไปท่องเที่ยวขณะที่กำลังอยู่บนรถหญิงสาวคนหนึ่งก็ได้เกิดนิมิตมองเห็นภาพอุบัติเหตุทางถนนที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากโดยมีสาเหตุมาจากรถบรรทุกขนไม้ที่บรรทุกน้ำหนักมาจนเกิน หลังจากที่ได้สติเธอก็หวาดกลัวเป็นอย่างมากและเตือนทุกคนบนถนนพร้อมกับขวางไม่ให้พวกเขาออกไปเจอกับรถบรรทุกคันนั้นจนทุกคนรอดชีวิต และเช่นเดิมผู้รอดชีวิตแต่ละคนก็เริ่มทยอยเสียชีวิตไปต่างๆ กัน หญิงสาวภาค 1 ที่รอดมาได้นั้นก็ได้เข้ามาช่วยเธอไขปริศนานี้ด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าการตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลจิตเวชนั้นจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีเท่าไหร่นัก
- ภาค 3 จะเล่าถึงเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่ไปเล่นรถไฟเหาะบนสวนสนุก และได้มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้เห็นนิมิตภาพอุบัติเหตุจนทำให้มีคนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง เธอจึงเตือนเพื่อนๆ ไม่ให้ขึ้นไปเล่นรถไฟเหาะคันนั้น หลังจากนั้นรถไฟเหาะคันนั้นก็เกิดอุบัติเหตุจริงๆ
- ต่อมาภาคที่ 4 จะเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นที่ไปดูการแข่งรถ ณ สนามแข่งแห่งหนึ่ง แต่แล้วรถบนถนนที่ขับกันด้วยความเร็วสูงก็เกิดอุบัติเหตุจนทำให้ผู้คนในสนามรวมไปถึงผู้รับชมต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หลังจากที่รอดชีวิตออกมาได้จากการเห็นภาพนิมิตร พวกเขาก็เริ่มทยอยตายอย่างสยดสยองทีละคน
- ส่วนภาคสุดท้ายนั้นจะเป็นเรื่องราวของกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่เดินทางด้วยรถบัสข้ามสะพานใหญ่แห่งหนึ่ง แต่แล้วสะพานแห่งนั้นกลับพังทลาย กลายเป็นอุบัติเหตุใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก หลังรอดจาดอุบัติเหตุมาได้ไม่นานพวกเขาก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาดที่นำมาสู่ความตาย
ความตายสุดเวอร์วังที่กลายเป็นจุดขายของภาพยนตร์เรื่อง Final Destination
ในแต่ละภาคของภาพยนตร์เรื่อง Final Destination แม้ว่าจะเล่าเรื่องราวในรูปแบบเดียวกันแต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนยังคงติดตามรับชมอยู่อย่างเสมอตลอดเวลา 20 ปีที่ได้ออกมาถึง 5 ภาคนั่นก็เป็นเพราะว่าการออกแบบฉากการตายที่สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงแต่มีความสยดสยองเท่านั้นแต่ยังใช้สาเหตุที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงและเป็นข้าวของใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ช็อต เตาแก๊สระเบิด ตกจากตึกแล้วโดนบันไดหนีไฟทิ่มทะลุหัว เครื่องอบผิวแทนทำงานผิดปกติ การทําเลสิก ตกจากบาร์โหนยิมนาสติก ไฟไหม้ โดนรูปปั้นตกลงมาทับหัวจนตาย
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสาเหตุการตายที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอุบัติเหตุที่น่าเหลือเชื่อแต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้จริงในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นฉากการทำเลสิกที่เป็นที่เลื่องลือเป็นอย่างมาก ฉากก่อนทำเลสิคนั้นจะเป็นการดื่มน้ำแล้ววางแก้วน้ำที่มีน้ำเหลือไว้บนแทงค์น้ำที่กดน้ำที่เรามักจะเห็นกันตามออฟฟิศ ซึ่งข้างล่างนั้นเป็นปลั๊กไฟ ในขณะที่กำลังทำเลสิกอยู่นั้นมีเรื่องที่หมอจะต้องออกไปข้างนอก และเกิดอุบัติเหตุที่แก้วน้ำใบนั้นตกลงมารวมปลั๊กไฟและทำให้ไฟช็อตจนส่งผลให้เครื่องทําเลสิกทำงานผิดพลาด
แต่เธอก็ไม่ได้ตายด้วยเครื่องทําเลสิกเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็สามารถหนีออกจากพันธนาการซึ่งเป็นเครื่องมือที่ล็อคไว้ให้หัวอยู่นิ่งกับที่ออกมาได้ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็วิ่งหนีจนชนกระจกแตกตกตึกลงมาตายแทน เรียกได้ว่าเป็นความตายที่เกิดจากอุบัติเหตุและความประมาทที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของเราจนทำให้หลายๆ คนนั้นหลอนและใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้นนั่นเอง Final Destination ภาพยนตร์ที่เมื่อดูจบคุณจะใช้ชีวิตระวังมากยิ่งขึ้น