Cube ลูกบาศก์มรณะ ภาพยนตร์ต้นทุนต่ำที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม
Cube ลูกบาศก์มรณะ ภาพยนตร์ต้นทุนต่ำที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ย้อนกลับไปในช่วงยุค 90 เราจะพบว่าหนึ่งในแนวภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดนั่นก็คือภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ซึ่งก็แล้วแต่ทางทีมงานว่าจะนำเอาเรื่องราวสยองขวัญนั้นไปผูกกับอะไร อย่างเช่นเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติหรือวิทยาศาสตร์ไซไฟเป็นต้น
ต้องบอกว่าด้วยงานภาพในยุคนั้นทำให้ภาพยนตร์แนวสยองขวัญมีความหลอนและความน่ากลัวเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือการตระหนักเรื่องจำกัดอายุผู้เข้าชมหรือฉากไม่เหมาะสมทั้งหลายนั้นยังไม่เทียบเท่ากับในปัจจุบันซึ่งมีความระมัดระวังในการที่จะนำเสนอสื่อที่เต็มไปด้วยความรุนแรง
ทำให้ภาพในภาพยนตร์สยองขวัญยุคก่อนนั้นค่อนข้างจะเต็มไปด้วยฉากเลือดสาดโหดร้ายแบบเห็นกันจะๆ เป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์ยุค 90 ที่แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในภาพยนตร์ยุคปัจจุบัน
แต่ด้วยความที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากทำให้เรานั้นสามารถหาภาพยนตร์เก่าๆ มารับชมได้ ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำภาพยนตร์เรื่อง Cube ลูกบาศก์มรณะ ออกฉายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปี 1997
เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของค่ายแคนาเดียนซีลเซ็นเตอร์ที่ใช้ทุนสร้างต่ำแต่ประสบความสำเร็จและสามารถทำรายได้ไปอย่างงดงามจนมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการสร้างเกมที่อ้างอิงรูปแบบมาจากภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย เป็นผลงานของผู้กำกับอย่างวินเซนโซ นาตาลี ได้รับคะแนนบนเว็บไซต์ imdb ไปสูงถึง 7.2 คะแนนจากผู้รับชมมากกว่า 2.1 แสนคน
เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง Cube ลูกบาศก์มรณะ
- Cube ลูกบาศก์มรณะ จะเล่าถึงเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่เข้าไปติดอยู่ในห้องซึ่งมีทางออกทั้งหมด 6 ฝั่งนั่นก็คือผนังห้องทั้ง 4 ด้าน บนฝ้าเพดาน และบนพื้น แอนเดอร์สันเป็นชายหนุ่มคนแรกที่ฟื้นขึ้นมายังห้องประหลาดแห่งนี้
- สิ่งแรกที่เขาพยายามจะทำคือการหาทางออก เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเปิดประตูบานหนึ่งก่อนจะพบห้องที่มีลวดลายคล้ายกันแต่มีสีที่แตกต่างออกไป
- ด้วยความที่เขาไม่ได้รู้อะไรมากนักเขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังห้องนั้นก่อนจะพบเข้ากับกับดักที่ฟันร่างของเขาจนขาดเป็นท่อนๆ
- หลังจากที่ผู้โชคร้ายรายแรกเสียชีวิตไปเราก็จะได้พบกับอีก 1 กลุ่มผู้รอดชีวิต ซึ่งแต่ละคนนั้นก็ไม่ทราบว่าตนเองมาติดอยู่ในห้องกับกระเป๋านี้ได้อย่างไร เพราะพวกเขาแค่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติทั่วไปและหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาก็อยู่ยังสถานที่แห่งนี้แล้ว
- แต่พวกเขาก็พอจะรับรู้ได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีลักษณะเป็นลูกบาศก์ซึ่งเป็นสี่เหลี่ยมต่อกัน สิ่งที่จะต้องทำคือเดินทางไปยังห้องต่างๆ เพื่อหาทางออกให้เจอและเอาชีวิตรอดออกไปให้ได้
- แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะไม่ใช่ทุกห้องที่จะสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัย มันเต็มไปด้วยกับดักมากมายที่จะเอาชีวิตพวกเขาอย่างโหดร้ายและทารุณ ไม่ว่าจะเป็นน้ำกรด ลวด ธนู หรือใบมีด
- ในช่วงแรกพวกเขาใช้วิธีการโยนรองเท้าเข้าไปเพื่อตรวจสอบว่ามีกับดักอะไรทำงานหรือไม่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควรนัก
- หนึ่งในกลุ่มผู้รอดชีวิตมีอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์อยู่ซึ่งเธอพบว่าในแต่ละห้องนั้นจะมีตัวเลขที่แตกต่างกันสลักไว้ถึง 9 หลัก และพบว่ามันเป็นตัวเลขจำนวนเฉพาะ ซึ่งจะสามารถบอกได้ว่าห้องไหนปลอดภัยและห้องไหนเป็นกับดัก
- ช่วงแรกวิธีการคาดคะเนของเธอนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องมาโดยตลอดจนทุกคนเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้อง แต่สุดท้ายพวกเขาก็วนกลับมาที่ห้องเดิม
- เธอจึงพยายามคิดอย่างหนักก่อนจะพบว่าสิ่งที่จะต้องทำคือการแยกตัวประกอบซึ่งเธอไม่สามารถทำได้ แต่หนึ่งในกลุ่มผู้รอดชีวิตที่เป็นออทิสติกสามารถทำได้
- จนในที่สุดพวกเขานั้นก็ได้มาถึงห้องริมสุดแต่ก็พบว่าข้างนอกนั้นมีแต่ความมืดมิดและเหวลึก แม้ว่าจะมองเห็นช่องทางออกแต่มันก็อยู่ไกลออกไปเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถไปได้
- ทำให้ความตึงเครียดและความกดดันเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจะสามารถเอาชีวิตออกจากห้องปริศนาเหล่านี้ได้หรือไม่สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
Cube ลูกบาศก์มรณะ ภาพยนตร์ที่จะพาให้มนุษย์ไปถึงจุดที่กดดันมากที่สุด
Cube ลูกบาศก์มรณะ เป็นภาพยนตร์ที่สามารถผลักตัวละครภายในเรื่องให้ไปยังจุดที่กดดันที่สุดในชีวิตได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งเราจะได้เห็นว่าพวกเขานั้นจะมีวิธีการรับมืออย่างไร
แม้ว่ากับดักและห้องปริศนาเหล่านั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิตและพวกเขาจะต้องพยายามหาทางรอดออกไปให้ได้ แต่ภาพยนตร์ก็ได้นำเสนอว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่อันตรายที่สุดที่จะสามารถทำให้กลุ่มผู้รอดชีวิตเสียชีวิตลงได้
แต่ยังมีเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่เมื่อถึงจุดที่กดดันที่สุดแล้วก็ใช้สัญชาตญาณในการตัดสินใจจนกลายเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้เช่นเดียวกัน
ไม่เพียงเท่านั้นมันยังทำให้ผู้รับชมสามารถเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถึงแม้ว่าบางอย่างจะไม่รู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผล แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเหตุใดตัวละครจึงได้ตัดสินใจและเลือกที่จะทำพฤติกรรมเหล่านั้น
นั่นก็เป็นเพราะว่าสิ่งที่พวกเขาเลือกทำเป็นสิ่งที่ถูกบีบจากสิ่งแวดล้อมภายนอกจนต้องใช้สัญชาตญาณดิบในการตัดสินใจและเอาตัวรอดนั่นเอง
หากอยากทราบว่าสุดท้ายแล้วจะมีใครที่สามารถหลุดลอดออกไปจากห้องปริศนาเหล่านี้ได้หรือไม่ แล้วห้องปริศนานี้เป็นฝีมือของใครกันแน่ ขอแนะนำให้ลองไปรับชมด้วยตนเอง