แนะนำหนังไทย อุโมงค์ผาเมือง เราจะใช้อะไรตัดสินว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นมีความเท่เป็นอย่างมาก บางคนอาจตัดสินจากตัวละครภายในเรื่องอย่างเช่นภาพยนตร์ฮีโร่ต่างๆ บางคนอาจตัดสินจากเทคนิคการถ่ายทำและความสวยงามของงานภาพ แต่บางคนนั้นก็ตัดสินจากเนื้อเรื่องที่หยิบยกนำเอาประเด็นง่ายๆ มาเล่าให้มีอะไรมากยิ่งขึ้น
อย่างเช่นประเด็นเรื่องการโกหก ในแง่ของจิตวิทยาแล้วเรื่องราวแต่ละเรื่องนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเดียวกันแต่เมื่อมองจากมุมมองของแต่ละคนการเล่าเรื่องของพวกเขานั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปจนบางครั้งถึงขั้นเป็นคนละเรื่องกันเลยทีเดียว
ภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมืองเป็นการหยิบยกนำเอาประเด็นเรื่องนี้มาเล่าได้แบบเท่ไม่เหมือนใคร จนแทบไม่น่าเชื่อว่าในอดีตนั้นประเทศไทยมีภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน แม้ว่ามันจะเป็นการเล่าเรื่องจากมุมมองของคนหลายๆ คน
แต่ภาพยนตร์กลับเต็มไปด้วยความสนุก ความน่าติดตาม และความน่าสงสัย ทำให้ผู้รับชมนั้นต้องคิดตามว่าใครกันแน่ที่กำลังโกหกแล้วเรื่องจริงคืออะไรกันแน่ เป็นผลงานการกำกับของหม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล
ที่นอกจากจะสามารถรังสรรค์เรื่องราวที่เป็นไปด้วยความน่าสนใจได้แล้วยังมีงานภาพที่สวยงาม และข้อคิดรวมถึงการเสียดสีสังคม ที่ทำให้ผู้รับชมนั้นจะมีประเด็นในคิดต่อ
ใครที่ชอบภาพยนต์ที่เมื่อรับชมแล้วจะได้มีประเด็นมานั่งขบคิดต่อแล้วล่ะก็ ต้องห้ามพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด
แนะนำหนังไทย อุโมงค์ผาเมือง
- อุโมงค์ผาเมือง นั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2110 เมืองที่มีชื่อว่านครผาเมืองนั้น ได้มีภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ไฟไหม้ หรือแม้แต่แผ่นดินไหวที่คร่าชีวิตชาวเมืองไปมากมายจนประชากรลดน้อยลงเหลือเพียงครึ่งเมืองเท่านั้น
- พวกเขานั้นเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดจากสิ่งเหนือธรรมชาติหลังจากที่สามารถจับมหาโจรป่าที่มีชื่อว่าสิงห์คำทำได้และทำการประหารชีวิตลงไปทุกคนก็เชื่อว่าภัยพิบัติเหล่านั้นจะหยุดสิ้นลง
- พระรูปหนึ่งเกิดความสงสัยในเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ถึงขั้นที่ต้องการจะค้นหาคำตอบด้วยการลาสิขาบทเลยทีเดียว แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องการที่จะเดินทางไปหาแม่ก่อน แต่ระหว่างทางฝนก็ตกเขาได้พบกับคนตัดฟืนทั้งสองจึงได้พากันไปหลบฝนในอุโมงค์ผาเมือง
- คนตัดฟืนคนนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในเหตุการณ์การประหารเช่นเดียวกัน ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ได้มีสัปเหร่อคนหนึ่งโผล่ออกมาจากในอุโมงค์และขอให้ทั้งสองเล่าเรื่องให้เขาฟัง
- คนตัดฟืนจึงเล่าว่า ในขณะที่เขาเดินทางเข้าไปในป่าเพื่อตัดฟืนนั้นเขาก็ได้พบกับปิ่นปักผมและหญิงสาวคนหนึ่งใกล้ๆ กันนั้น มีศพของขุนศึกถูกแทงด้วยดาบอยู่ ส่วนพระนั้นเป็นคนที่ได้พบกับขบวนของขุนศึกและหญิงสาวที่คนตัดฟืนพบ ทั้งสองนั้นถูกเรียกไปเป็นพยานในคดีเนื่องจากโจรป่าสิงห์คำถูกจับตัว
- โจรป่าได้เล่าว่า เขานั้นเป็นคนที่ลงมือปลิดชีพขุนศึก เนื่องจากได้เห็นขบวนและเมียของขุนศึกที่มีใบหน้าสวยงามมันต้องการที่จะได้เธอมาเป็นเมียมัน จึงทำการหล่อขุนศึกให้แยกจากขบวนก่อนที่จะมัดเขาเอาไว้ แล้วแสร้งไปตามตัวแม่หญิงให้มาพบกับสามีของตนที่ถูกมัดไว้ก่อนจะลงมือขืนใจเธอต่อหน้าผู้เป็นสามี
- เธอขอให้ขุนศึกได้กู้คืนเกียรติยศของตนเอง โดยใช้มีดสั้นทำทีว่าจะฆ่าตัวตาย โจรป่าจึงได้ปล่อยคุณสึกออกมาต่อสู้กัน เขาฆ่าขุนศึกตาย ส่วนแม่หญิงก็หนีไป แต่การสืบสวนคดีดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแต่จนป่านเท่านั้นที่ได้มาให้การ
- แต่แม่หญิงซึ่งสามารถเอาตัวรอดกลับมาได้ ก็มาเป็นพยานให้การในคดีดังกล่าวเช่นเดียวกัน และยังมีการอัญเชิญขุนศึกให้เข้าร่างทรงมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกด้วย ที่น่าแปลกใจก็คือคำให้การของทั้ง 3 คนนั้นต่างกันราวกับเป็นคนละเรื่อง แล้วใครกันที่เล่าเรื่องจริง ส่วนใครที่โกหก
ตัวอย่างภาพยนตร์ไทย อุโมงผาเมือง
การเล่นกับคำโกหกได้อย่างสมบูรณ์แบบในภาพยนตร์ไทยเรื่องอุโมงค์ผาเมือง
เวลาที่เราเล่าเรื่องราวต่างๆ นั้นเราต่างต้องการให้ตนเองดูเป็นคนดีอยู่เสมอ ทำให้เมื่อเวลาที่เราเล่าเรื่องเรามักจะเป็นตัวละครที่ดีในเรื่องแม้ว่าความจริงจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตาม บางครั้งบางคนนั้นไม่ต้องการที่จะโกหกด้วยซ้ำไปแต่พวกเขานั้นบิดเบือนเรื่องราวโดยที่ไม่รู้ตัวเพื่อให้ตัวเองดูดี
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมืองนั้นได้หยิบยกนำเอาประเด็นนี้มาตีแผ่ให้เห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในตัวละครคนตัดฟืน แม้ว่าสุดท้ายสัปเหร่อจะสามารถเค้นเอาความจริงทั้งหมดจากคนตัดฟืนได้ แต่สุดท้ายผู้รับชมก็ยังต้องตั้งคำถามอยู่ดีว่าเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนั้นสรุปแล้วเป็นความจริงหรือเรื่องโกหกกันแน่
แม้ว่าทุกคนจะได้มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาของตัวเองก็ตามแต่พอเอามาเล่าทุกคนต่างก็เล่าในมุมมองของตัวเองที่ทำให้ตัวเองดูดี เรื่องราวของแต่ละคนจึงออกมาต่างกันอย่างชัดเจน สุดท้ายภาพยนตร์ก็ไม่ได้ให้บทสรุปว่าความจริงคืออะไรกันแน่แต่ให้ผู้รับชมนำเรื่องเล่าทั้งหมดมาตีความเอาเองว่าความจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นอย่างไร
รีวิวหนัง อุโมงค์ผาเมือง จาก IMDB
ความชั่วร้าย คะแนนรีวิว 10/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นภาพยนตร์ชุดที่สองที่มีศูนย์กลางอยู่รอบ ๆ ธีมพุทธและ The Outrage โดยผู้กํากับ M.L. Pundhevanop Dhewakul พอดีกับการเขียนโปรแกรมด้วย Rashomon ของเขาแรงบันดาลใจเรื่องของความจริงและการหลอกลวงคลี่คลายความลึกลับที่บอกผ่านบัญชีพยานซึ่งตามธรรมชาติมาพร้อมกับความล้มเหลวของมนุษย์และการรับรู้ เรื่องราวนั้นขึ้นอยู่กับละครที่ชื่อว่า The Gate of the Ghost โดยหนึ่งในนักเขียนชื่อดังของประเทศไทย MR Kukrit Pramoj ซึ่งได้รับการดัดแปลงมาจาก Rashomon ของ Akira Kurosawa ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงค่อนข้างเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของบุคลิกภาพที่ยอดเยี่ยมทั้งสองนี้
M.L. Pundhevanop กลับมารวมตัวกับนักแสดงส่วนใหญ่ของเขาจากภาพยนตร์เรื่องนิรันดร์ก่อนหน้านี้ของเขานําสิ่งที่ชอบของอนันดา เอเวอร์ริงแฮม, เชอร์มาน บุญยศักดิ์ มาริโอ้ เมาเร่อ และ พงษ์พัฒน์ วชิรบุญจง ท่ามกลางคนอื่น ๆ เพื่อสร้างเรื่องราวที่จองโดยเรื่องราวของพระภิกษุสงฆ์ (เมาเร่อ) ที่กําลังพิจารณาไม่เชื่อฟังคําสั่ง en เส้นทางไปเยี่ยมพ่อของเขา ดังที่เราได้กล่าวมาเขาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในการทําความเข้าใจการรับรู้ทางพุทธศาสนา แต่สิ่งที่เขากําลังเผชิญอยู่จะท้าทายความเชื่อและศรัทธาของเขาและบางทีปัจจัยในการพิจารณาของเขาว่าพระวิหารจะทําหน้าที่เป็นสถานที่ที่ดีกว่าสําหรับผู้ลี้ภัยและยังคงแสวงหาการตรัสรู้เพื่อให้รู้สึกถึงความรู้สึกที่มีประสบการณ์ในโลก
และประสบการณ์นี้ศูนย์ฆาตกรรมลึกลับของขุนศึก (อนันดา เอเวอร์ริงแฮม) ซึ่งศพถูกพบโดยนักตัดไม้ (เพชรใต้ วงศ์คามิโอะ) ผู้แจ้งความกับตํารวจท้องถิ่น เพื่อจับกุมโจรที่โด่งดังและต้องการมากที่สุด (ดอม เฮตระกูล) ในศตวรรษที่ 16 ของยุคล้านนาของคนไทย แต่ทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเนื่องจากเกี่ยวข้องกับที่อยู่ของภรรยาของขุนศึก (ไลลา บุญยศักดิ์) ระหว่างที่ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมข่มขืนและบทบาทที่ผู้เห็นเหตุการณ์แต่ละคนเล่นไม่ว่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อม แต่ละคนให้ความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินและ The Outrage กลายเป็นการสืบสวนที่น่าสนใจและแสวงหาความจริง
ทุกคนที่ได้เห็น Rashomon หรือตัวแปรใด ๆ ในภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างแตกหัก flashback และการตีความความจริงไม่ว่าจะเป็นการพึ่งพาหน่วยความจําที่ไม่ดีความจริงครึ่งหนึ่งหรือแม้แต่รุ่นที่ได้รับการตั้งค่าเพื่อสรรเสริญตัวเองหรือการกระทําของคนจะรู้ว่าสิ่งที่กําลังมาและคาดหวังในภาพยนตร์ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรสั้นของช่วงเวลาที่จับที่ The Outrage เต็มไปด้วยเพราะด้วยการเล่าเรื่องแต่ละครั้งจากบุคลิกภาพหรือมุมมองที่แตกต่างกันเพิ่มความร่ํารวยของเรื่องราวและการตรวจสอบในจิตใจของมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวขั้นพื้นฐาน ทุกคนวาดภาพที่สมบูรณ์แบบของตัวเองในการบรรยายของพวกเขาไปยังศาลเปิดและความจริงครึ่งหนึ่งที่คุณต้องลอดผ่านคือส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องที่ทําให้เรื่องราวด้านหลังร่ํารวยมากมีพื้นที่เพียงพอที่จะดูมันอีกครั้งแม้จะต้องรู้ผลลัพธ์
เครื่องแต่งกายชุดและมูลค่าการผลิตไม่มีอะไรสั้นของการเป็นรอยบนฟุ่มเฟือยที่ผู้สร้างภาพยนตร์ d
DICK STEEL, 28 September 2012
Yangdu-Duyang.com จะพาทุกท่านไปพบกับ การรีวิว แนะนำหนัง ภาพยนตร์ ทั้งในและต่างประเทศ ที่น่าดู น่าติดตาม บอกได้เลยว่าทุกท่านต้องห้ามพลาด
- รีวิวซีรีส์น้ำดี The Good Doctor ที่จะทำให้คุณเข้าใจคนเป็นออทิสติกมากยิ่งขึ้น
- รีวิวหนัง Life As We Know It ผูกหัวใจมาให้อุ้ม
การสร้าง “Rashomon” ที่มีความสามารถ แต่มีข้อบกพร่องเล็กน้อยของ คะแนนรีวิว 8/10
At the Gate of the Ghost “(2011) เป็นการรีเมคเรื่องคลาสสิกที่หาตัวจับยากของ Kurosawa” Rashomon “(1950) ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากเรื่องสั้น 2 เรื่อง” In a Grove “และ” Rashomon “ที่ตีพิมพ์ในปี 1922 หากคุณมี ‘ ไม่เคยเห็น “Rashomon” ดั้งเดิมเพียงแค่ใช้คำของฉันมันคือภาษาญี่ปุ่นเทียบเท่ากับ “Citizen Kane” ของญี่ปุ่นเช่นเดียวกับ Kane Rashomon jump เริ่มต้นภาพยนตร์สายพันธุ์ใหม่ที่สำรวจการเล่าเรื่องที่ร้าวซึ่งมีการเล่าเรื่องจากต่าง มักจะขัดแย้งกันในมุมมองคำถามสุดท้ายที่ถูกตั้งขึ้น: มีสิ่งนั้นเป็นความจริงสัมบูรณ์หรือไม่หรือทั้งจักรวาลเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่แต่ละคนต้องกำหนด?
ที่บอกว่ากลับไปที่ “At the Gate of the Ghost” กันดีกว่า โดยเจตนาภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอจากมุมมองทางพุทธศาสนาที่โจ่งแจ้งและเอนเอียง ตอนเปิดเรื่องพูดอย่างนั้น ประเภทของเลนส์ที่ทำลายเลนส์ใกล้วัตถุซึ่งเรารับรู้ถึงธรรมชาติที่เป็นอัตวิสัยของตัวละคร และในช่วง 20 นาทีแรก (ซึ่งฉันเกลียดมากจนแทบจะเอาดีวีดีนี้ทิ้งลงถังขยะ) เราจะได้รับโอวาทพุทธแปลกประหลาดมากมายพร้อมบทกลอนเกี่ยวกับคุกกี้โชคลาภที่ซับซ้อนกระจายไปทั่วหน้าจอไปจนถึงเสียงร้องเพลงโอเปร่า บางทีความหมายอาจสูญหายไปในการแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ฉันพบว่าตัวเองกำลังปวดหัวในขณะที่พยายามทำความเข้าใจกับคำขวัญเหล่านี้ตัวอย่างเช่น (นี่คือคำพูดโดยตรง) “เราควรพยายามปฏิบัติในทางที่ตรงกับความเป็นจริง วิธีการที่สอดคล้องกับความจริงพื้นฐานของสิ่งต่างๆ “
WTF? ฉันได้ยินคำพูดที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้นจากรัฐบาลบุช
แต่สมมติว่าคุณผ่าน 20 นาทีแรกไปแล้ว นั่นคือตอนที่สิ่งต่างๆเริ่มดีขึ้นจริงๆ หลังจาก 20 นาทีแรกซึ่งเป็นเรื่องยิบย่อยที่ไม่จำเป็นเกี่ยวกับฮีโร่ของเราพระภิกษุหนุ่มที่เดินไปรอบ ๆ สังเกตความหน้าซื่อใจคดของครอบครัวเขาด้วยอาการท้องผูกอย่างมากความสำคัญที่แท้จริงของหนังก็เริ่มขึ้นเมื่อเขาพบว่าตัวเองอยู่ในถ้ำที่กำลังคุยกับ วิญญาณผู้สูญเสียอีก 2 คนที่หลบฝน
พงษ์พัฒน์วชิรบรรจงนักแสดงชาวไทยที่ได้รับการยกย่อง (รับบทสัปเหร่อไร้ยางอาย) ทำให้การผลิตมีชีวิตชีวาขึ้นทันทีด้วยการแสดงภาพคนเกลียดชังที่บิดเบี้ยวและน่าขยะแขยงซึ่งคุณอดไม่ได้ที่จะหลงรัก ด้วยความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันทั้ง 3 คนเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับอาชญากรรมและการลงโทษจากนั้นพวกเขาก็เริ่มคุยรายละเอียดที่แปลกประหลาดของการพิจารณาคดีฆาตกรรม
พวกเขาเล่าคำให้การของพยานข้อเท็จจริงความคิดเห็นและท้ายที่สุดการตัดสินที่เพิ่งเกิดขึ้นและผ่านเรื่องราวที่แตกต่างกันเหล่านี้เราถูกดึงเข้าสู่ความลึกลับของประเด็นที่เป็นความจริง คำให้การแต่ละข้อขัดแย้งกับคำให้การอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เราได้ยินจากคนตัดไม้ที่พบศพผู้สืบสวนที่จับกุมผู้ต้องสงสัยผู้ต้องสงสัยที่ประกาศความบริสุทธิ์ของเขาภรรยาของเหยื่อที่มีเรื่องราวที่แตกต่างออกไปและในที่สุดคำให้การที่ดูเท่ห์มีสไตล์และน่าขนลุกจากชายที่ถูกฆาตกรรม ตัวเขาเอง.
พื้นที่ส่วนหนึ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึง “Rashomon” ดั้งเดิม (โดยไม่มีข้อผิดพลาดของ Kurosawa) คือการใช้สีที่หรูหราและมีชีวิตชีวา ภาพนั้นสวยงามมากทีเดียว ดังนั้นในท้ายที่สุดฉันขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้แม้แต่กับ Rashomon curmudgeons อย่างฉันที่บอกว่าไม่มีอะไรจะแตะต้องต้นฉบับได้ ฉากบางฉากนั้นมีมนต์ขลังอย่างยิ่งในรัศมีภาพความคมชัดสูงเช่นเดียวกับสิ่งที่คุณคาดหวังจากผู้กำกับจีนยุคใหม่ Zhang Yimou (“Hero”, “House of Flying Daggers”) แน่นอนฉันนับ “At the Gate of the Ghost” ด้วยคุ้มค่ากับราคาค่าเข้าชม
rooprect, 15 February 2015