แนะนำภาพยนตร์ The Martian ภาพยนตร์แนวที่มนุษย์ไปติดอยู่ยังสถานที่ต่างๆ นั้นก็ถือว่ามีมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะบนโลเคชั่นที่เป็นเกาะร้างไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Cast Away หรือ The Blue Lagoon ติดอยู่ในสมรภูมิรบอย่าง Saving Private Ryan หรือติดอยู่ในห้วงอวกาศอย่าง Gravity
หากคุณเป็นคนชอบภาพยนตร์แนวเอาตัวรอดจากการติดอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีคนอื่นอยู่เลยแม้แต่คนเดียวอย่างภาพยนตร์ที่เราได้ยกตัวอย่างมานั้นเราขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง The Martian ที่นำเสนอขั้นกว่าของการติดอยู่บนดาวอังคารเพียงลำพังทั้งยังถูกเข้าใจผิดว่าเสียชีวิตไปแล้วอีกด้วย
กว่าที่คนบนโลกจะรู้ว่าคนที่ติดอยู่บนดาวอังคารนั้นรอดชีวิตก็กินเวลานานจนหากคนที่ติดอยู่บนดาวอังคารไม่มีความรู้ความสามารถแล้วล่ะก็อย่างไรก็ไม่รอดแน่นอน ครั้งหนึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นภาพยนตร์ภาคต่อของภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องอินเตอร์สเตลลาร์ซึ่งมีฉากพื้นหลังอยู่บนห้วงอวกาศเช่นเดียวกัน
แม้ว่าจะใช้นักแสดงหนุ่ม Matt Damon เป็นนักแสดงนำทั้งสองเรื่องก็ตามแต่ทั้งสองเรื่องนี้ความจริงแล้วไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่นิดเดียว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เดิมทีดัดแปลงมาจากนวนิยายแนวไซไฟยอดนิยมในชื่อเดียวกัน เป็นบันทึกการเอาชีวิตรอดของนักอวกาศหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องติดอยู่บนดาวอังคารเพียงลำพัง สถานที่ซึ่งไม่มีน้ำ อากาศ หรือปัจจัย 4 ที่จะสามารถยังชีพได้เลย
แนะนำภาพยนตร์ The Martian ชายผู้เอาตัวรอดเพียงลำพังบนดาวอังคาร
เขานั้นจะสามารถเอาตัวรอดได้อย่างไรท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและความหวังริบหรี่ที่คนบนโลกจะมาช่วยเขา นิยายเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยความสนุก เข้มข้น กดดัน และลุ้นระทึก เป็นผลงานสร้างของวิศวกรซอฟต์แวร์ที่มีความชื่นชอบเรื่องฟิสิกส์สัมพันธภาพและอวกาศ
ทำให้การเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของเขานั้นออกมาสมจริงและเคยมีการพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เขาให้ตัวละครทำบนดาวอังคารนั้นมีโอกาสที่สามารถทำสำเร็จได้จริงอีกด้วย
ที่สำคัญคือคนที่มานั่งแท่นกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือผู้กำกับที่สร้างตำนานจนภาพยนตร์เรื่องเอเลี่ยนโด่งดังและออกภาคต่อมาจนถึงปัจจุบันได้ก็คือริดลีย์ สก็อตต์ ที่มีความชำนาญในการสร้างภาพยนตร์ที่มีฉากหลังอยู่บนอวกาศอีกคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Martian
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้ชื่อภาษาไทยว่า เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์
- The Martian เล่าถึงการปฏิบัติภารกิจบนดาวอังคารของทีม Ares ที่ถูกส่งมาไกลจากโลกถึง 140 ล้านไมล์ เพื่อทำการสำรวจดาวดวงนี้ ที่กำลังได้รับความสนใจจากองค์การอวกาศต่างๆ ทั่วทั้งโลก
- แต่ด้วยความที่สภาพอากาศบนดาวอังคารนั้น ยังมีความแปรปรวนอยู่มากทำให้ในขณะที่ทุกอย่างกำลังสงบ และภารกิจกำลังดำเนินไปอย่างสวยงามนั้น พายุก็พัดถล่มเข้ามากระทันหัน ด้วยความรุนแรงและมันเป็นอันตรายต่อลูกทีมทุกคน
- ทำให้ผู้การเลวิสตัดสินใจที่จะสั่งให้ลูกทีมทั้งหมดของเขา กลับยานในทันทีและยกเลิกภารกิจ รวมถึงเดินทางกลับโลกเพื่อรักษาความปลอดภัย ให้กับชีวิตของทุกคน แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะหนึ่งในลูกทีมที่มีชื่อว่ามาร์ค ไม่สามารถหนีออกจากพายุได้เนื่องจากเขานั้นถูกของแข็งกระแทกร่างกาย และจมหายไปในพายุ
- สัญญาณชีพของเขาขาดหายเนื่องจากเครื่องวัดสัญญาณชีพได้รับความเสียหายจากการกระแทก ในครั้งนั้นทำให้ลูกทีมทุกคนเข้าใจว่าเขาได้เสียชีวิตลงไปแล้ว ทุกคนจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับโลก โดยทิ้งเขาไว้บนดาวอังคารโดยที่ไม่ทราบเลยว่าแท้ที่จริงแล้วมาร์คยังไม่ตาย
- หลังจากรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ มาร์คก็ได้พยายามติดต่อกับองค์การนาซ่า เพื่อส่งสัญญาณว่าเขานั้นยังมีชีวิตอยู่ และต้องการความช่วยเหลือ มาร์คได้ทำการคำนวณว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ กว่าจะได้รับความช่วยเหลือซึ่งเมื่อคำนวณออกมาแล้วเขาก็พบว่าเขาต้องใช้เวลาเอาตัวรอดอยู่บนดาวอังคาร เป็นเวลานานถึง 4 ปี
- เขาจึงต้องพยายามหาวิธีกา รที่จะดำรงชีพและหาอาหารรวมถึงน้ำ ให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตขั้นต่ำ 4 ปี บนดาวอังคาร ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่เลยนอกเหนือจากเขา
- ในขณะเดียวกันบนโลก มินดี้ก็ได้รับข่าวจากการที่มาร์คพยายามติดต่อลงมาบนโลก เธอจึงได้ทำการแจ้งผู้อำนวยการใหญ่อย่าง Teddy และ Vincent ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการในการสำรวจดาวอังคารเพื่อพยายามทำการช่วยเหลือ
- จากนั้นทุกคน ก็ได้รวมทีมกันและระดมสมองเพื่อช่วยกันคิดวิธีการ ที่จะช่วยเหลือมาร์คให้สามารถเอาชีวิตรอดบนดาวอังคารได้ จนกว่าจะมีการส่งความช่วยเหลือไปถึง
- แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะสุดท้ายแล้วทางนาซ่าต้องคำนวณและตัดสินใจว่าคุ้มค่าหรือไม่ กับการที่จะส่งยานอวกาศพร้อมนักบินไปยังดาวอังคารอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือชีวิตมาร์คเพียงแค่คนเดียว
- และมาร์คเองจะสามารถเอาชีวิตรอดอยู่บนดาวอังคาร ที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย รวมไปถึงน้ำและอาหารที่หาได้ยากได้หรือไม่ สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
The Martian การเอาตัวรอดบนดาวอังคารที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่น
ดูเหมือนว่าภาพยนตร์แนวเอาตัวรอดบนอวกาศนั้น จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่ อินเตอร์สเตลลาร์ Gravity มาจนถึง The Martian หากใครที่อ่านเรื่องย่อแล้วอาจจะเข้าใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์เรื่อง Gravity เป็นอย่างมากต้องบอกเลยว่ามันแทบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เพราะ Gravity นั้นฉากหลังจะอยู่ในห้วงอวกาศ ไม่ได้อยู่บนดวงดาวและพยายามที่จะกลับโลกตามลำพัง เพราะเธอนั้นยังอยู่ไม่ไกลจากโลก เมื่อเทียบกับดาวอังคาร การที่เธอติดอยู่ในห้วงอวกาศนั้น มันจะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่กดดันตึงเครียดและเงียบเหงา
ต่างจาก The Martian ที่ใช้ชีวิตอยู่บนดวงดาวแต่เป็นดาวอังคาร ดังนั้นบรรยากาศจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะมีความกดดันและเงียบเหงา แต่ตัวละครอย่างมาร์คนั้น กลับดูไม่เครียดเท่าไรนักและดูไม่กลัวตายอีกด้วย เพราะเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยความคิดในแง่บวกและความฉลาดที่สามารถเอาตัวรอดได้เป็นเวลานานนับปี
แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน เขาก็ยังคงสามารถมีอารมณ์ขันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และถึงแม้ว่าเขาจะติดอยู่บนดาวอังคารเพียงแค่คนเดียวแต่เขานั้นยังสามารถติดต่อกับคนบนโลกได้และได้มีการพูดคุยช่วยเหลือกันอีกด้วย
ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเต็มไปด้วยการผจญภัยและการใช้มันสมองในการเอาตัวรอด รวมไปถึงความคิดในแง่บวกที่เต็มไปด้วยความหวังที่จะทำให้มาร์คสามารถเอาชีวิตรอดอยู่บนดาวอังคารได้
ตัวอย่างภาพยนตร์ The Martian (เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์) Official Trailer
รีวิวภาพยนตร์ The Martian (เดอะ มาร์เชียน กู้ตาย 140 ล้านไมล์)
ฉันเป็นคนเดียวที่ไม่ผิดหวัง 10/10
หลังจากอ่านหนังสือและประทับใจมากฉันรอคอยที่จะได้ตีความภาพยนตร์ ฉันไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ฉันหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่เป็นเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่มีการผลิตมากเกินไปและมีคุณภาพสูงเกินไปและฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่เรื่องนี้เล่นได้โดยไม่มีการปรุงแต่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวตลกมากเกินไปซึ่งฮอลลีวูดดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับบ่อยครั้ง
มันเยี่ยมมากที่ได้เห็นว่าบทภาพยนตร์ได้เพิ่มเนื้อหาพิเศษที่ไม่มีในหนังสือได้อย่างไรและช่วยเพิ่มเรื่องราวให้ดียิ่งขึ้น ตัวละครได้รับการตีความโดยคำนึงถึงความตั้งใจของผู้แต่ง Andy Weir อย่างเต็มที่และไม่มีอะไรเกินเลย การเว้นจังหวะและการตัดต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นอันที่จริงแล้วบางส่วนของหนังสือเล่มนี้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วทำให้เรื่องราวไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันประทับใจคือทุกคนดูเหมือนจะสนุกกับตัวเองและฉันคิดว่านั่นอาจเป็นข้อพิสูจน์ถึงความคิดริเริ่มและความเป็นเอกลักษณ์ของหนังสือเล่มนี้ ฉันเชื่อว่าใครก็ตามที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะหลงใหลและมีส่วนร่วมกับเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบและเป็นไปได้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของการผลิต การแสดงชุดเสียงทุกอย่าง พวกเขาทุกคนรู้ว่าพวกเขามีวัสดุที่ดีที่จะใช้งานและวิ่งไปกับมัน
Siebert_Tenseven, 22 December 2015
ที่สุดแห่งปี 2015 …9/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของนิยายวิทยาศาสตร์และนิยายวิทยาศาสตร์รวบรวมทุกสิ่งที่จำเป็น Matt Damon ได้รับบทบาทที่ถูกต้องจนกว่าจะสิ้นสุดคดี นอกจากความจริงที่ว่าเราไม่ต้องการจริงๆ ภาพยนตร์ทั้งหมดได้ดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง เราได้เห็นตัวอย่างของเรื่องนี้เช่น Buried และ 127 Hours ของภาพยนตร์คุณภาพดีมาก นิยายวิทยาศาสตร์ของอาจารย์ริดลีย์สก็อตต์หลังจากแยกทางกันมานานได้กลับมาอีกครั้งอย่างยอดเยี่ยมกับเคสภาพยนตร์เรื่องนี้ หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ริดลีย์สก็อตต์สร้างความผิดหวังให้กับผู้ที่พูดว่าเสียงถูกตัด ขอบคุณสำหรับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเรื่องนี้ Ridley Masters อาจจะดีที่สุดในปี 2015 ตามที่ฉันพูดถึงในชื่อเรื่อง
hjpog, 14 December 2015
ภาพยนตร์เรื่องโปรดของฉันในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 10/10
ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริงกับจำนวนบทวิจารณ์ที่ไม่ดีสำหรับ The Martian ตอนนี้ฉันไม่เคยอ่านหนังสือเลย แต่ฉันชอบหนังเรื่องนี้มาก ฉันดูมันสองครั้งภายในหนึ่งสัปดาห์ เป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันถูกทิ้งให้อยู่กับความรู้สึกพึงพอใจที่ยอดเยี่ยมหลังจากลงทุนไป 2 ชั่วโมงในหนังที่ดีจริงๆและนี่ก็ทำได้ 100%
โดยปกติฉันจะผิดหวังอย่างมากหลังจากดูหนังประเภทนี้ดังนั้นฉันจึงไม่ ไม่คาดหวังมาก ฉันคิดว่าแรงโน้มถ่วงมีผลกระทบพิเศษที่ยอดเยี่ยมฉากที่น่าทึ่งและโครงเรื่องโดยเฉลี่ย แต่ The Martian เป็นภาพยนตร์ที่มีความสามารถแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้นจนจบ
ฉันถูกโยนเข้าไปในฉากที่นักบินอวกาศมาร์ควัตนีย์และลูกเรือของเขากำลังตั้งฉากเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขาบนดาวอังคารในทันที แต่การกระแทกพัดลมประมาณสิบนาทีที่พายุทำให้ Watney ถูกโยนออกจากลูกเรือและถูกทิ้งให้ตาย ไม่มีการแนะนำภาพยนตร์และตัวละครที่ยืดเยื้อยาวนานเพียงแค่การแสดงละครและการพัฒนาตัวละครในทันที การบังคับนี้ทำให้ฉันดูแลลูกเรือทั้งหมดและทำให้ฉันลงทุนทางอารมณ์จนถึงที่สุด
Matt Damon ทำได้ดีในสิ่งที่เขาทำมาตลอด แต่ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้แสดงความสามารถดิบที่แท้จริงของเขาเลยตั้งแต่ Good Will Hunting ในปี 1997 เขาทำได้ดีในเรื่องนี้ เขาหลงใหลในทุกฉากและสามารถทำสิ่งที่ทอมแฮงค์ประสบความสำเร็จใน Cast Away และดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์ (ด้วยความช่วยเหลือของสคริปต์ที่สร้างขึ้นอย่างสวยงาม) ผู้วิจารณ์อีกคนได้รับความนิยมเมื่อพวกเขาอธิบายว่า Apollo 13 ตรงกับ Castaway การเปรียบเทียบที่แน่นอนที่ฉันทำและการรวมกันซึ่งทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ซึ่งทำให้ทุกอย่างน่าเพลิดเพลินยิ่งขึ้นในการรับชม ไม่มีอะไรที่น่าสนใจและโง่เขลาเหมือนในภาพยนตร์ประเภทเดียวกันหลายเรื่องและการผสมผสานของเรื่องนี้เข้ากับพล็อตเรื่องที่มั่นคงซึ่งสร้างขึ้นเพื่อภาพยนตร์ที่น่าสนใจน่าตื่นเต้นและสนุกสนาน
มีดราม่าเอฟเฟกต์ที่ยอดเยี่ยมอารมณ์ขันช่วงเวลาที่อบอุ่นเพลงประกอบยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ที่ไร้ที่ติ หากคุณดูภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวในปีนี้ให้สร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องดูแน่นอน
Rose-Warren, 5 March 2016