แนะนำภาพยนตร์ผจญภัย Jack The Giant Slayer แจ็คผู้สยบยักษ์
แนะนำภาพยนตร์ผจญภัย Jack The Giant Slayer แจ็คผู้สยบยักษ์ เชื่อว่าเด็กๆ หลายๆ คนคงเติบโตมาพร้อมกับนิทาน แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ นิทานที่เราเคยได้อ่านกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งภาพยนต์เรื่องแจ็คผู้สยบยักษ์นี้เป็นภาพยนตร์ที่ถูกอ้างอิงมาจากเทพนิยายแจ็คผู้ฆ่ายักษ์นิทานเทพนิยายที่เด็กๆ ชอบฟังก่อนนอน ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซีที่สนุกตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปตามๆ กัน เนื้อหาและเรื่องราวถูกนำมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของคนตัวเล็กที่ใจใหญ่ ความมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหา มีความเชื่อมั่นในตัวเองซึ่งการดูหนังเรื่องนี้อาจจะเป็นแรงบันดานใจ หรือให้ข้อคิดกับใครหลายๆคนได้ดีเช่นเดียวกัน
โดยในเรื่องเล่าว่าในอดีตเคยมีกลุ่มนักบวชกลุ่มหนึ่งพยายามคิดค้นหาวิธีที่จะติดต่อเดินทางไปหาพระเจ้า พวกเขาได้ใช้ถั่ววิเศษที่พวกเขาคิดว่ามันจะเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับพระเจ้า แต่ทว่าระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์นั้นกลับถูกคั้นกลางด้วยโลกของยักษ์ตัวใหญ่ ซึ่งพวกยักษ์ก็ได้ใช้ถั่วไปทางเชื่อมต่อลงมายังโลกมนุษย์ และทำการปล้นฆ่ากัดกินพวกมนุษย์ ทำให้มนุษย์ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก
จนกระทั้งพระราชาอีลิคได้ใช้หัวใจและมนต์ดำหล่อหลอมเข้าด้วยกันทำเป็นมงกุฎขึ้นมา และได้ออกคำสั่งให้พวกยักษ์พากันกลับไปยังโลกของตัวเองทำการขังพวกยักษ์ให้อยู่แต่โลกของตัวเองตลอดไป
วันเวลาล่วงเลยผ่านรุ่นสู่รุ่นจากตำนานกลายเป็นเพียงนิทานที่ถูกนำมาเล่าขานยุคต่อยุด ถึงแม้กษัตริย์อีริคจะมีจริง แต่คนสมัยใหม่กลับไม่ได้ให้ความเชื่อกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ มองว่าเป็นเพียงนิทานที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อความสนุก ซึ่งแจ็ค พระเอกของเราก็ได้ชื่นชอบนิทานเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับเจ้าหญิงอิสซาเบลซึ่งมีเชื้อสายของกษัตริย์อีริคนางมักจะขอให้แม่ของนางเล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟังทุกคืนและการผจญภัยก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อแจ็คได้รับถั่วจากนักบวชที่ไปรู้แผนชั่วร้ายของลอร์ดโรเดอร์ริค และถูกส่งต่อมายังแจ็ค การผจญภัยที่แสนสนุกก็ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้น
ความลับของลอร์ดโรเดอริค ในภาพยนตร์เรื่องตำนาน แจ็คผู้สยบยักษ์
แท้จริงแล้วลอร์ดโรเดอริคก็มีเม็ดถั่วพิเศษและมงกุฎของพระราชาอีริคในตำนาน และตัวเขาเองก็เชื่อในตำนานเป็นอย่างมาก เขาได้เก็บของวิเศษทั้งสองอย่างไว้เพื่อจะได้ดำเนินแผนการร้ายของเขาให้สำเร็จ ระหว่างนั้นก็มีกลุ่มนักบุญที่ล่วงรู้ถึงแผนนี้ จึงได้ทำการขโมยเมล็ดถั่วออกมาเมื่อลอร์โรเดอริคทราบ ก็สั่งทหารปิดเมืองทันทีเพื่อตามหานักบวชที่ขโมยถั่วนั้นไป นักบวชหันไปเห็นแจ๊คพระเอกของเราที่กำลังยืนขายม้าอยู่พอดีเขาจึงได้ทำการนำถั่วไปมัดจำกับม้าของแจ็คไว้และบอกแจ็คว่าหากอออกไปข้างนอกเมืองได้ก็ให้นำถั่วไปแลกกับเงิน ซึ่งก่อนที่นักบวชจะไปก็ได้กำชับกับแจ็คไว้ว่าอย่าให้ถั่วโดนน้ำเป็นอันขาดและได้ทำการขี่ม้าเพื่อหลบหรือการจับกุมตัว
พอแจ๊คกลับมาถึงบ้าน โดยที่ไม่มีม้ามาด้วยแถมเงินก็ไม่ได้มีแต่เมล็ดถั่วที่เขาได้รับมาจากนักบวช มันทำให้ลุงของเขาโกรธเป็นอย่างมากทุบโต๊ะเสียงดัง มันเลยทำให้เมล็ดถั่วเม็ดหนึ่งตกลงไปพื้นใต้บ้านเป็นจังหวะเดียวกันกับอิสซาเบล นางเอกของเราก็ได้ทำการหนีออกจากวังเหมือนกันเพราะน้อยใจผู้เป็นพ่อกษัตริย์บราห์มเวลที่บังคับให้นางแต่งงานกับคนที่นางไม่ได้รัก
ด้วยเหตุการนี้ทำให้ทั้งแจ็คและอิสซาเบลได้พบเจอกันอีกครั้ง อิสซาเบลนางเอก ของเราได้หนีออกจากวังต้องมาขอพักอาศัยที่บ้านของแจ็ค เพื่อหลบฝน ถึงพอได้พูดคุยกันด้วยความชอบเหมือนๆกัน หนังสือที่อ่านทำให้ทั้งสองคนเข้ากันได้อย่างง่ายดายระหว่างที่ทั้ง2คนพูดคุยกันอย่างถูกคอน้ำฝนก็ไหลไปโดนเมล็ดถั่ว ทำให้ให้ต้นถั่วเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ยกบ้านทั้งหลังของเขาขึ้นไปด้วยรวมทั้งตัวแจ็คและอลิซาเบล แจ็คที่พยายามช่วยอิซาเบลอย่างสุดความสามารถแต่สุดท้ายก็ช่วยไม่ได้ทำให้กษัตริย์บราห์มเวลต้องส่งทหารฝีมือดีขึ้นไปช่วยอิสซาเบลลูกสาวของเขา รวมถึงแจ็คที่อาสาขอขึ้นไปด้วย และด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้เองก็ทำให้ลอร์ดโรเดอริคได้เริ่มแผนการณ์ที่ชั่วร้ายของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น
บทสรุปของภาพยนตร์เรื่องตำนาน แจ็คผู้สยบยักษ์
ฉากจบสุดท้ายของเรื่อง พระเอกของเราสามารถช่วยนางเอกของเราออกมาจากยักษ์ได้เป็นฮีโร่ผู้ปกป้องเมืองทำให้ได้รับการยอบรับจากกษัตริย์บราห์มเวลจนได้แต่งงานกับอิสซาเบล และตอนจบของลอร์ดโรเดอริค บทสรุปของความโลภทำให้เขาถูกยักษ์จับกิน
หนังเรื่องนี้ให้ทั้งความสนุกแต่ตื่นเต้น ดูเพลินๆ ได้ไม่เบื่อ การสื่ออารมณ์ของนักแสดงที่ออกมาให้ผู้รับชมคล้อยตามและตามติดเรื่องราว สามารถรับชมได้ทุกวัย การให้แง่คิดและบทเรียนหลายๆอย่างที่สอดแทรกในเรื่องวิธีการใช้ชีวิต การไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคที่พบเจอ ดูหากใครต้องการความผ่อนคลายก็ไปดูหนังเรื่องนี้ได้เลย
ตัวอย่างภาพยนตร์ แจ็คผู้สยบยักษ์
รีวิวหนัง แจ็คผู้สยบยักษ์
เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับเด็ก 7/10
ซึ่งแตกต่างจากเทพนิยายของฮอลลีวูดหลายเรื่อง แต่จริงๆแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสม เราสามารถปล่อยให้เด็ก ๆ ดูสิ่งนี้ในลักษณะเดียวกับที่ปู่ย่าตายายของเรากำลังอ่านนิทานต้นฉบับ มันมีศีลธรรมมันน่ารักนักแสดงเล่นได้ดีและที่สำคัญที่สุดมันไม่ได้งี่เง่า แต่เราสามารถสนุกกับสิ่งนี้ได้ในเกือบทุกระดับ
เป็นเรื่องตลกที่ได้เห็นนักแสดง Ewan McGregor และ Ewen Bremner เล่นภาพยนตร์ด้วยกันอีกครั้ง (Rents and Spud) แต่พวกเขาไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่แท้จริง Nicholas Hoult เป็นพระเอกของเรื่องและ Stanley Tucci ตามปกติเป็นวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ค่อนข้างน่าผิดหวังคือเจ้าหญิงซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นบทบาทที่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า “หญิงสาวที่น่ารักในความทุกข์พร้อมสำหรับการช่วยเหลือ” พ่อของเธอก็ไม่มากนัก แต่อย่างน้อยเขาก็มีเส้น นอกจากนี้สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “made in USA” มีนักแสดงชาวอังกฤษจำนวนมาก แม้แต่เรื่องราวก็เกิดขึ้นในอังกฤษอย่างที่เราเห็นในตอนท้าย
บรรทัดล่าง: แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ก็เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ให้ความบันเทิงที่ยังคงความรู้สึกและเนื้อเรื่องของเทพนิยายดั้งเดิมไว้มากมาย นอกจากนี้ยังสามารถตรวจนับร่างกายที่บ้าคลั่งได้โดยไม่ต้องแสดงเลือด ระบบการให้คะแนนของสหรัฐฯนั้นงี่เง่าอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหนังก็สนุก ฉันสามารถแนะนำให้ดูได้ง่ายๆ
siderite-1 June 2013
เทพนิยาย สำหรับครอบครัว 7/10
รับประกันได้เลยว่าถ้าคุณโตมากับเทพนิยายคุณจะต้องรู้จักเรื่องราวของ Jack and The Beanstalk อย่างแน่นอน ฉันรู้ว่าฉันมี; ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กเรื่องนี้มีอยู่ทั่วไป ฉันเห็นมันเล่นโดยมิกกี้เมาส์ใน “Fun and Fancy Free” โดย Snoopy ใน “The Charlie Brown และ Snoopy Show” และโดย Bugs Bunny ใน “Jack Wabbit และ The Beanstalk” นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องราวแฟนตาซีของเด็กที่อยู่เหนือกาลเวลาและด้วยเหตุนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่
หลังจากเครดิตเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้จะเปิดตัวด้วยการแนะนำตัวละครหลักสองตัวของเรา: แจ็ค (รับบทโดยนิโคลัสโฮลท์ซึ่งเพิ่งรับบทใหม่ใน “Warm Bodies” ของเดือนที่แล้ว) และเจ้าหญิงอิซาเบล (รับบทโดยเอลานอร์ทอมลินสัน) เช่นเดียวกับในเทพนิยายดั้งเดิมแจ็คเป็นลูกมือในฟาร์มที่น่าสงสารที่ถูกหลอกให้ซื้อขายปศุสัตว์ที่มีค่า (ในภาพยนตร์เรื่องนี้มันคือม้าแทนที่จะเป็นวัว) เพื่ออ้างว่าเป็น “ถั่ววิเศษ” Princess Isabelle เป็นคำจำกัดความของเจ้าหญิงดิสนีย์ในตำราเรียน แม่ของเธอตายไปแล้วพ่อของเธอเป็นราชาผู้ปกป้องมากเกินไปที่ต้องการให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่ชอบเธอเบื่อชีวิตที่น่าเบื่อในวังและฝันถึงการผจญภัย เมื่อฉันพบตัวละครนี้เป็นครั้งแรกฉันได้วางแผนที่จะตีสอนเธอในทันทีในบทวิจารณ์นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันเริ่มดูเรื่องนี้ในบริบทของภาพยนตร์สำหรับเด็กฉันพบว่าสิ่งนี้สามารถทนได้มากขึ้น แม้ว่าจะอยู่ในภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 2013 แต่ก็ยังให้ความรู้สึกย้อนยุค
ผู้ที่คาดหวังว่า “Hansel and Gretel: Witch Hunters” จะต้องผิดหวัง ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างเหมาะสำหรับครอบครัวโดยรวมและมีทัศนคติที่ไม่ดีตลอด แม้จะมีจำนวนร่างกายที่หนักหน่วงของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ตัวละครก็ยังคงล้อเลียนและทำให้ตัวเองกลายเป็นคนโง่เขลา มันอาจจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่คาดหวังว่าจะมีแฟนตาซีที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นตามการจัดเรตและการโฆษณาเนื่องจากบางครั้งมันก็รู้สึกโง่เกินไป อย่างไรก็ตามในฐานะภาพยนตร์สำหรับครอบครัวการผสมผสานระหว่างความรุนแรงและความโง่เขลาทำให้มันเป็นการผสมผสานระหว่างภาพยนตร์ครอบครัวในยุค 80 และ 90 ตามลำดับ
ตัวละครที่เหลือได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมรวมถึง Lord Roderick ผู้ชั่วร้าย (รับบทโดย Stanley Tucci) และอัศวินผู้สูงศักดิ์ Elmont (รับบทโดย Ewan McGreggor) ไม่มีตัวละครใดได้รับการพัฒนามากขนาดนั้นซึ่งจริงๆแล้วฉันไม่ได้รังเกียจ ฉันรู้เกี่ยวกับตัวละครแต่ละตัวมากพอและในเทพนิยายที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้การทำให้เนื้อเรื่องมีความเคลื่อนไหวและน่าสนใจเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด
ยักษ์ใหญ่ก็น่าสนใจเช่นกัน ในอีกแง่หนึ่งพวกเขาทำให้ฉันนึกถึงพวกโทรลล์ใน “The Hobbit: an Un expected Journey” เมื่อปีที่แล้วเนื่องจากพวกเขามีขนาดใหญ่เกินไปไม่มีอารยธรรมและมีอารมณ์สูง ฉันมั่นใจว่าเด็ก ๆ จะได้รับเสียงหัวเราะจากวิธีการกินอาหารที่ทำให้ท้องอืด ตอนแรกฉันกังวลว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนร้ายที่ผ่านพ้นไม่ได้และไม่มีบุคลิก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้พวกเขาออกมาเล็กน้อยและเป็นแรงจูงใจในการกระทำของพวกเขา แน่นอนว่าฉันคงไม่รังเกียจหนังพรีเควลที่ให้ความเกลียดชังต่อมนุษยชาติมากขึ้น
นักแสดงให้ทุกอย่างโดยเฉพาะ Nicholas Hoult ที่นี่เขานำเสน่ห์และความขี้อายแบบเดียวกับที่เขามอบให้กับ R ใน “Warm Bodies” ให้กับแจ็ค ฉันรู้สึกว่าเขามีความสามารถและเป็นที่ชื่นชอบในการแสดงภาพยนตร์เป็นบทนำ
“แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” จะแบ่งนักวิจารณ์และผู้ชมได้อย่างสมเหตุสมผล แต่ถ้าฉันมีลูกฉันก็ไม่มีปัญหาในการพาพวกเขาไปดูเรื่องนี้ เป็นการผจญภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สนุกสนานที่เด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่มีใจกว้างจะได้สัมผัส
didonatope-2 March 2013