รีวิว อนิเมชั่น Words Bubble Up Like Soda Pop Netflix
รีวิว อนิเมชั่น Words Bubble Up Like Soda Pop Netflix ภาพยนตร์อนิเมชั่นสุดโรแมนติกที่เล่าเรื่องราวผ่านกลอนไฮกุ
ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่คนไทยหลายคนรู้สึกชื่นชอบในวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก แต่เรากลับไม่ค่อยได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่ลงลึกลงไปสักเท่าไหร่ นั่นก็เป็นเพราะว่าหลายอย่างในประเทศญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมที่สำหรับคนต่างชาติแล้วก็เข้าใจได้ยาก อย่างเช่นกลอนไฮกุที่เราไม่เข้าใจว่ามันมีความคล้องจองกันอย่างไรหรือแบบไหนถึงจะเรียกว่าไพเราะ
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังอยากจะให้ทุกคนได้ลองรับชมภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Words Bubble Up Like Soda Pop เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกที่จะเล่าเรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่ถ่ายทอดผ่านบทกลอนไฮกุ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่ามันมีความสละสลวยหรือคล้องจองกันอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกคนจะได้สัมผัสกับความสวยงามระหว่างความรักและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อฉลองการครบรอบ 10 ปีของสตูดิโอ Flyingdog ซึ่งทำออกมาเพื่อฉายบน Netflix โดยเฉพาะ สำหรับใครที่กลัวว่าเล่าเรื่องราวผ่านกลอนไฮกุแล้วเราจะไม่เข้าใจขอให้สบายใจได้เลยเพราะอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรที่ลึกซึ้งจนทำให้เรารู้สึกสับสนหรือไม่เข้าใจ การเล่าเรื่องราวค่อนข้างเรียบง่าย เป็นไปแบบช้าๆ สบายๆ สามารถรับชมได้แบบไม่ต้องคิดมาก หลังรับชมแล้วก็รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นหัวใจ มันจึงเป็นอนิเมชั่นที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองรับชมดูท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดในปัจจุบัน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Words Bubble Up Like Soda Pop
Words Bubble Up Like Soda Pop จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเชอรี่ แม้ว่าชื่อของเขาจะเหมือนกับเด็กผู้หญิงแต่เขานั้นก็เป็นเหมือนกับเด็กผู้ชายธรรมดาทั่วไปแต่ออกจะขี้อายกว่าปกติสักเล็กน้อย เขาชื่นชอบการแต่งกลอนไฮกุเป็นอย่างมาก และด้วยความที่เป็นคนขี้อายทำให้เขานั้นมักจะเก็บตัวไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาไปกับการทำงานพิเศษในบ้านพักคนชราที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้ไปทำงาน
ในวันหนึ่งเขาได้บังเอิญพบกับเด็กสาวผู้หนึ่งที่มีชื่อว่าสไมล์ แปลว่าชื่อของเธอจะแปลว่ารอยยิ้มแถมตัวเธอนั้นยังเป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความร่าเริงแจ่มใส แต่เธอกลับมีปมในใจที่ทำให้รู้สึกเกลียดฟันกระต่ายของตัวเองเป็นอย่างมาก ทำให้เธอนั้นมักจะสวมหน้ากากอนามัยเพื่อปกปิดปากและฟันของเธอเอาไว้อยู่เสมอ
หลังจากที่ได้พบกันครั้งแรกทั้งสองคนก็ได้บังเอิญพบกันอีกหลายครั้งจนทำความรู้จักกันและเริ่มตกหลุมรักกันในเวลาต่อมา แต่ด้วยความที่คนหนึ่งก็ขี้อายอีกคนหนึ่งก็รู้สึกมีปมในใจที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจตลอดเวลา ทำให้ความรักของพวกเขานั้นเป็นเพียงแค่ความรักที่เก็บซ่อนเอาไว้ยังไม่กล้าเปิดเผยออกมา บทสรุปความรักของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปติดตามรับชมในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Words Bubble Up Like Soda Pop
Words Bubble Up Like Soda Pop เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกที่เล่าถึงเรื่องราวความรักระหว่างเด็กหนุ่มและเด็กสาววัยกำลังที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นความรักแบบใสๆ สบายๆ ที่ไม่ได้มีอะไรดราม่ามากมายนัก มันจึงเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เรารู้สึกสนุกขณะที่กำลังรับชมโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แม้ว่าจะเล่าเรื่องราวผ่านบทกลอนไฮกุแต่ก็สามารถทำออกมาได้อย่างเรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อนเข้าใจยากเลยแม้แต่น้อย
เรื่องราวไม่ได้เหล้าเพียงแค่ความรักระหว่างชายหนุ่มหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความเขินอายและคนในใจเท่านั้น แต่มันยังผสมผสานการผจญภัยเข้ามาเพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่องราวมากยิ่งขึ้น โดยทั้งคู่นั้นจะต้องพยายามค้นหาแผ่นเสียงเนื่องจากลุงที่อยู่ในบ้านพักคนชราหาไม่เจอ เพื่อช่วยเหลือคุณลุงคนนี้ทั้งสองคนพร้อมกับเพื่อนจึงได้ร่วมมือกันในการตามหาแผ่นเสียงและมันก็ทำให้พวกเขาได้รู้ว่ามีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นด้วย ที่สำคัญคือมันมีความเกี่ยวข้องกับปมของตัวนางเอกอีกด้วยมันจึงกลายเป็นประเด็นที่สามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่น่าเสียดายของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกหนึ่งอย่างคืองานภาพ งานภาพในอนิเมชั่นเรื่องนี้จะเป็นงานภาพ 2 มิติงานเส้นสไตล์ญี่ปุ่นตามปกติธรรมดาทั่วไป แต่ลายเส้นค่อนข้างจะบางเบาเป็นพิเศษ เน้นใช้สีสันฉูดฉาดเป็นหลัก บางฉากออกแบบมาไม่ค่อยดีทำให้มันค่อนข้างดูแข็งทื่อ แม้ว่าสีสันฉูดฉาดจะช่วยสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับภาพยนตร์แต่มันก็ดูหลอกตาเกินไปในบางครั้ง แม้ว่าลายเส้นจะมีความสวยมากแค่ไหนแต่มันก็ยังไม่สามารถมากลบข้อด้อยจุดนี้ได้
แต่ด้วยความที่มันค่อนข้างจะเรียบง่ายทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีจุดพีคอะไรที่น่าสนใจเป็นพิเศษหรือเป็นที่จดจำ การเล่าเรื่องมันจึงค่อนข้างที่จะไปในลักษณะเส้นตรง รับชมได้เรื่อยๆ แต่ถ้าใครเป็นคนที่ไม่ถูกโฉลกกับภาพยนตร์แนวโรแมนติกก็อาจจะรู้สึกเบื่อจนหลับได้ มันจึงเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับชมการ์ตูน ชอบเรื่องราวโรแมนติก ชอบการรับชมเรื่องราวที่ค่อนข้างสบายๆ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะรู้สึกไม่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ได้
ตัวอย่างอนิเมชั่น Words Bubble Up Like Soda Pop
รีวิว อนิเมชั่น Words Bubble Up Like Soda Pop บางส่วนจาก beartai
นี่เป็นผลงานแอนิเมชันฉลองครบรอบ 10 ปีของบริษัท Flying Dog ซึ่งทำงานด้านเพลงและแอนิเมชันให้กับแอนิเมะดังหลายเรื่อง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ ‘Words Bubble Up Like Soda Pop’ จึงมีความโดดเด่นในแง่ตัวเพลงประกอบที่โยงใยเป็นเนื้อหาในเรื่อง โดยดึงศิลปินซิตี้พอปอย่าง โอนุกิ ทาเอโกะ มาทำเพลง “YAMAZAKURA” และวงร็อกอย่าง never young beach มาทำเพลง “Words Bubble Up Like Soda Pop” เป็นเพลงธีมประกอบให้
และยังโดดเด่นด้านการออกแบบศิลป์ที่เอาสตูดิโอ Signal MD ที่เคยทำหนังอย่าง ‘Ride Your Wave’ (2019) ซึ่งใครเคยดูเรื่องที่ว่าน่าจะไม่แปลกใจกับสไตล์จัดจ้านที่ส่งมายังหนังเรื่องนี้ด้วย โดยยังผลิตร่วมกับสตูดิโอ Sublimation ที่มีผลงานแอนิเมชันซีรีส์ทางเน็ตฟลิกซ์อย่าง ‘Dragon’s Dogma’ (2020) ไปหมาด ๆ และยังได้ อิชิกูโระ เคียวเฮ ผู้กำกับแอนิเมชันทีวีซีรีส์ชุด ‘Psycho-Pass’ (2012) มากำกับ และได้ ซาโตะ ได ที่เคยเขียนบทหนัง ‘Casshern’ (2004) มาเขียนบทให้ด้วย ก็สมกับเป็นโปรเจกต์ใหญ่ของค่ายที่มีชื่อในวงการแอนิเมชันอย่าง Flying Dog อยู่ไม่น้อยเลย
หนังมีเส้นเรื่องหลักเกี่ยวกับเชอร์รี่ เด็กหนุ่มอินโทรเวิร์ตที่รักการแต่งกลอนไฮกุเป็นชีวิตจิตใจ แต่กลอนไฮกุมันดูไม่ค่อยเท่สมวัยเลย บวกกับความขี้อายเขาจึงเลือกเขียนกลอนไฮกุลงโซเชียลมีเดียส่วนตัวที่ไม่มีใครสนใจเพียงอย่างเดียว ด้านสมายล์เด็กสาวเน็ตไอดอลที่ดังตั้งแต่เด็ก ซึ่งโตมาแล้วเกิดอายในฟันกระต่ายที่เคยภูมิใจจนต้องใส่แมสก์ปิดบังไว้ตลอดเวลา ตรงนี้ก็จับเอาความกังวลของวัยรุ่นญี่ปุ่นมาเล่นเป็นพลอตได้น่าสนใจไม่น้อย เชื่อว่าน่าจะโดนใจวัยรุ่นญี่ปุ่นพอสมควรเลย
แม้เส้นเรื่องที่ว่าอาจตามสูตรสำเร็จไปหน่อย แต่ด้วยตัวละครสมทบมากมายที่เสริมเรื่องให้วุ่นวายและฟีลกู้ดขึ้นก็ไม่ทำให้เรื่องน่าเบื่อเลย และโดยเฉพาะเส้นเรื่องรองเองก็สนุกไม่น้อย เมื่อทั้งคู่ได้มาทำงานที่ศูนย์บริการเอกชนที่ดูแลผู้สูงอายุเวลากลางวันของห้างในเมืองชนบท แล้วคุณตาที่ความจำเริ่มเสื่อมคนหนึ่งก็คอยตามหาแผ่นเสียงที่หายไปของตนเอง ทำให้การช่วยตามหาแผ่นเสียงให้คุณตาและเรียนรู้ที่มาที่ไปของแผ่นเสียงแผ่นนั้น ก็ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และบุคลิกตัวละครไปได้แบบลื่นไหล