รีวิว อนิเมชั่น Maya And The Three Netflix
รีวิว อนิเมชั่น Maya And The Three Netflix มินิซีรีส์อนิเมชั่นสัญชาติเม็กซิกันที่เตรียมขึ้นแท่นอนิเมชั่นยอดนิยม
ปกติแล้วอนิเมชั่นที่มาในรูปแบบงานสร้างฟอร์มยักษ์อลังการก็มักจะนำเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์ด้วยระยะเวลาที่ จำกัด ไม่เกิน 3 ชั่วโมงทำให้บางครั้งการรับชมอนิเมชั่นของเราก็รู้สึกไม่จุใจเท่าที่ควรด้วยเหตุนี้วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนมาแนะนำให้รู้จักกับมินิซีรีส์อนิเมชั่นสัญชาติเม็กซิกันที่สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกมิติจนเชื่อได้เลยว่าอีกไม่นานนี้มันจะกลายเป็นอนิเมชั่นยอดนิยมบน Netflix อย่างแน่นอนนั่นก็คืออนิเมชั่นเรื่อง Maya And The Three
งานภาพของอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เห็นแว๊บแรกแล้วก็สามารถทำได้ทันทีเนื่องจากมันมีความสวยงามและความแปลกตามีการผสมผสานวัฒนธรรมและบรรยากาศของเม็กซิโกที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความน่าสนใจเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวเป็นผลงานของผู้กำกับชาวเม็กซิโกที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง The Book of Life และประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนถึงขั้นที่เคยเข้าร่วมชิงรางวัลลูกโลกทองคำกันเลยทีเดียวในครั้งนี้เขาตัดสินใจกลับมาทำอนิเมชั่นในรูปแบบซีรีส์จำนวนทั้งสิ้น 9 ตอนจบ
เวลาตอนละ 40 นาทีหยิบยกเอาเรื่องราวตำนานสมมติในประวัติศาสตร์ยุคอารยธรรมมายาอินคาอารยาแอซเท็กที่เก่าแก่ในดินแดนเม็กซิโกมาเล่าต่อในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความตื่นเต้นเร้าใจในการผจญภัยของเจ้าหญิงคนหนึ่งให้เราได้รับชมกันหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเม็กซิกันอยู่แล้วหรือเพียงแค่ต้องการจะหาอนิเมชั่นเอาไว้รับชมอย่างสนุกสนานเราขอแนะนำอนิเมชั่นเรื่องนี้เลยรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
เรื่องราวในอนิเมชั่นเรื่อง Maya And The Three
Maya And The Three เป็นอนิเมชั่นที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรที่ก้าที่มีชื่อว่ามายาแม้ว่าจะเป็นเจ้าหญิง แต่เธอนั้นก็มีความห้าวหาญและชื่นชอบในการต่อสู้เป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอไม่เคยอยากที่จะขึ้นนำเป็นปกครองของเมืองเลยในวันหนึ่งเธอได้พบเข้ากับเหตุการณ์ที่จะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอเมื่อเธอได้พบโดยบังเอิญว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่มีครึ่งหนึ่งของเธอที่เป็นเทพเจ้า
แถมยังเป็นเทพเจ้าที่สามารถลงมือสังหารเทพเจ้าแห่งสงครามได้อีกต่างหากด้วยเหตุนี้เทพแห่งสงครามจึงต้องการที่จะจับตัวเธอมาเพื่อบูชายัญสู่ความยิ่งใหญ่ของตนเองเธอจึงจำเป็นที่จะต้องละทิ้งชีวิตเจ้าหญิงครั้งหนึ่งเคยสุขสบายและสามารถทำอะไรได้ตามใจแล้วออกเดินทางไปตามหานักรบตามคำทำนายทั้ง 3 ดินแดนเธอไม่รู้เลยว่ามันจะทำให้เธอนั้นเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวที่เต็มเรื่องความกล้าความกลัวความรักและความตายและมันยังทำให้เธอนั้นได้กลายมาเป็นคนที่สามารถกุมชะตากรรมระหว่างมนุษย์และเทพเจ้าทั้งปวงได้อีกด้วย
ตลอดการเดินทางนั้นเธอได้พบเจอกับมิตรและศัตรูเป็นจำนวนมากและมันก็ทำให้เธอได้ค้นพบบางสิ่งที่เธอมองว่ามีค่ามากกว่าชัยชนะเสียอีกมันคือการเสียสละเพื่อให้อารยธรรมได้เบ่งบานและมันจะเป็นเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถปกป้องอาณาจักรรวมไปถึงเธอผลจากความเลวร้ายได้สําเร็จในว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่างก็ตามเรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไรสามารถติดตามต่อได้ในอนิเมชั่นบน Netflix
ความรู้สึกหลังรับชมอนิเมชั่นเรื่อง Maya And The Three
Maya And The Three เป็นอนิเมชั่นที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีในหนึ่งตอนนั้นจะเล่าประเด็นใหญ่ ๆ 1 เรื่องโดยแต่ละตอนนั้นก็จะพาเราไปทำความรู้จักตัวละครแต่ละตัวให้ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยความที่มันเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นทำให้มีบางครั้งที่มันอาจจะเดินเรื่องไปอย่างรวดเร็วบ้าง แต่เชื่อได้เลยว่าคุณนั้นจะได้เห็นความโดดเด่นของตัวละครแต่ละตัวและตกหลุมรักพวกเขาได้ไม่ยากอย่างแน่นอน งานภาพสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนกับอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ทั้งการออกแบบและความละเอียดคมชัดสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดีแม้ว่ามันอาจจะดูยากไปบ้างเนื่องจากเป็นการนำเอาวัฒนธรรมเม็กซิโกมาผสมผสาน
แต่ก็เป็นเสน่ห์ของอนิเมชั่นเรื่องนี้เพลงประกอบก็สามารถทำออกมาได้ดีช่วยเร้าอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้นอนิเมชั่นเรื่องนี้สามารถถ่ายทอดความเป็นเม็กซิโกออกมาได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมหรือความเชื่อมีตัวละครมากมาย แต่ทุกตัวนั้นต่างก็มีความโดดเด่นในเนื้อเรื่องและมีเสน่ห์ในตัวเองจนทำให้เรานั้นรู้สึกว่าบทสามารถกระจายความโดดเด่นให้กับตัวละครได้เป็นอย่างดีแม้เรื่องราวในแต่ละตอนนั้นจะมีการแบ่งออกเป็นแต่ละประเด็น แต่ก็เต็มไปด้วยความเข้มข้นและน่าติดตามเป็นอย่างมากอารมณ์ส่วนใหญ่ในอนิเมชั่นจะเต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน
แต่ก็มีบ้างที่แฝงความเศร้าเข้ามาทำให้เราแทบจะไม่สามารถเดาตอนต่อไปได้เลยที่สำคัญมันเป็นอนิเมชั่นที่สามารถขยี้ประเด็นเกี่ยวกับความเป็นความตายความเศร้าความหม่นหมองออกมาได้อย่างตรงไปตรงมาแบบไม่มีปิดบัง แต่กลับสามารถทำได้อย่างลื่นไหลเรื่องราวนั้นถูกร้อยเรียงมาเป็นอย่างดีมีครบทุกรสชาติแม้ว่าจะมีบ้างที่ในช่วงต้นเป็นการเริ่มเรื่องราวที่ดูเหมือนจะเป็นอนิเมชั่นสูตรสำเร็จและมีการเดินเรื่องเร็วบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นอนิเมชั่นคุณภาพที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองรับชม
ตัวอย่างอนิเมชั่น Maya And The Three
รีวิว อนิเมชั่น Maya And The Three บางส่วนจาก playinone
มายากับ 3 นักรบ (Maya and the Three) อนิเมชั่นมินิซีรีส์สัญชาติเม็กซิกัน สร้างโดย จอร์จ กูเตียร์เรซ ผู้กำกับชาวเม็กซิโกผู้สร้างภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง The Book of Life ที่ตีความเรื่องยมโลกอย่างบรรเจิดจนได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 72 ในสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม จนทำให้เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดให้กับเน็ตฟลิกซ์ผู้มอบทุนให้เขาถ่ายทอดอนิเมชั่นซีรีส์จำนวน 9 ตอน ตอนล่ะสี่สิบนาที บอกเล่าตำนานสมมติที่สร้างจากประวัติศาสตร์ยุคมีโซอเมริกา อารยธรรมมายาอินคาแอซเท็กอารยันอันเก่าแก่ของเม็กซิโก ผ่านเรื่องราวการผจญภัยสุดตื่นเต้นและอันตรายของเจ้าหญิงแห่งดินแดนเทก้าโบราณเพื่อปกป้องชีวิตและเกียรติยศจากเทพแห่งสงครามที่หวังจะยึดครองอาณาจักรของเธอ
เรื่องราวของเจ้าหญิงมายา เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรทีก้าผู้ที่รักในการต่อสู้และไม่อยากขึ้นเป็นผู้นำของเมืองต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเธอค้นพบว่าเธอนั้นเป็นครึ่งคนครึ่งเทพ ผู้ที่สามารถสังหารเทพแห่งสงครามได้ แต่ทว่าเทพสงครามก็ต้องการจะบูชายัญเธอเพื่อความยิ่งใหญ่เช่นกัน เธอจึงต้องละทิ้งชีวิตที่เคยมีเพื่อออกเดินทางตามหานักรบจากสามดินแดนตามคำทำนาย โดยที่ไม่รู้เลยว่า มันจะพาเธอเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวของความรัก ความตาย ความกล้า และความกลัวที่ผลักดันให้เธอกลายเป็นผู้ที่สามารถกุมชะตาระหว่างเทพและมนุษย์ทั้งปวง ท่ามกลางมิตรสหายและศัตรูมากมาย มายาได้ค้นพบสิ่งที่มีค่ามากกว่าชัยชนะ นั่นคือการเสียสละเพื่อให้ได้มาซึ่งความเบ่งบานของอารยธรรม และมันจะเป็นสิ่งเดียวที่จะปกป้องเธอและทั้งอาณาจักรจากความเลวร้ายได้ แม้ต้องแลกด้วยหลายสิ่งก็ตาม
เรื่องราวนั้นเดินเรื่องเป็นหนึ่งประเด็นต่อตอน เพราะงั้นในแต่ละตอนเราจะได้เห็นและรู้จักตัวละครอย่างเต็มเปี่ยม แม้ว่าจะเดินเรื่องเร็วไปบ้างในบางช่วง แต่เชื่อได้เลยว่าทุกตัวละครที่ได้ออกมานั้นจะแสดงความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ด้วยเรื่องราวการผจญภัยที่ช่วงแรก ๆ จะรู้สึกเหมือนอนิเมชั่นค่ายดรีมเวิร์คแบบที่เน็ตฟลิกซ์ชอบทำคือตัวละครที่เป็นเหมือนผู้ถูกเลือกแต่ไร้ความสามารถในช่วงแรกผสมกับวัฒนธรรมโบราณตามแบบของเรื่อง คล้ายคลึงกับ Raya and The Last Dragon ที่นำเสนอการผจญภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในเรื่องนี้จะเป็นแถบมีโซอเมริกาโบราณ แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้สักสามตอนของเรื่อง อนิเมชั่นจะกล้าเล่นประเด็นแบบที่คาดไม่ถึง ทั้งเรื่องวัฒนธรรมความเชื่อของชาวเม็กซิโกโบราณที่ใช้เสนอโลกของซีรีส์ และที่มันดีสุด ๆ
คือการเดินเรื่องที่เป็นอนิเมชั่นผจญภัยเด็ก ๆ แบ่งเป็นตอน ๆ แต่แฝงไปด้วยหลายอารมณ์ของความดราม่าของตัวละครที่เป็นเสมือนปมย่อย ๆ ที่ผลักดันให้ตัวละครหลักเดินปมหลักไปข้างหน้าแบบที่คาดไม่ถึง ความโรแมนติกความน่ารักของตัวละครที่ผ่านการปูเรื่องอย่างแน่น ไม่มีการรีบร้อน มีเหตุผล ไม่รู้สึกเป็นสูตรสำเร็จเกินไป พร้อมมุกตลกชวนขำที่มาอย่างถูกจังหวะ ฉากต่อสู้ที่โดดเด่นและเข้มข้นในทุกท่วงท่าตั้งแต่การต่อสู้ระยะประชิดจนถึงขั้นเล่นปล่อยพลังเวอร์วังไปเลย ฉากสุดสะเทือนใจแบบไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ มีความเป็นผู้ใหญ่และจริงจังสุด ๆ จนทำให้อึ้งไปได้หลายนาทีเลย โดยเฉพาะบทสรุปของเรื่องที่ดีกว่าอนิเมชั่นหลายเรื่องที่ออกมาในปีนี้ซะอีก ทำให้มันเป็นอนิเมชั่นที่มีคุณภาพสูงและไปสุดมาก และมันจะทำให้คุณค้างค้าจนต้องเปิดตอนต่อไปเรื่อย ๆ จนจบเลยทีเดียว
ตัวละครของเรื่องก็ทำออกมาตามสูตรสำเร็จแต่สามารถขยายมิติที่ลึกกว่าตัวละครแนวนี้ในการ์ตูนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น มายา ตัวละครหลักที่เป็นเจ้าหญิงที่พยายามทำทุกอย่างที่เธอคิดว่าเท่ ทั้งชอบการต่อสู้ และรักการเป็นผู้นำ ดูเหมือนเป็นฮีโร่ของเรื่อง แต่แท้จริงแล้วเธอก็เป็นคนที่มีความไม่ดีในตัวเหมือนกัน เพราะความที่เธอทำทุกอย่างโดยไม่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่นโดยรู้ตัวเพียงเพราะความต้องการของตัวเอง ริโก้ พ่อมดป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ที่เคยสร้างโศกนาฏกรรมให้คนในครอบครัวจนกลายเป็นคนกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่มั่นใจในตัวเอง เป็นคนนอกและเลือกจะทำตัวเอื่อยเฉื่อยไม่สนใจใคร และชอบวิ่งหนีปัญหา ชิมี หญิงสาวมากฝีมือธนูที่ถูกชะตากรรมกลั่นแกล้งตั้งแต่ยังทารกที่ทำให้เธอมองโลกในแง่ร้ายกว่าทุกคนในเรื่อง
แต่แท้จริงเธอก็แค่ต้องการคนที่ใส่ใจความรู้สึกตัวเอง แต่ชอบแสดงเหมือนไม่แคร์ใครเพราะกลัวว่าจะถูกหักหลัง พิคชู ชายหนุ่มคนเถื่อนที่เอาแต่ต่อสู้ เอาชนะ เพราะมีปมที่เคยมีความใจดีจนทำลายชีวิต และกลายเป็นคนที่อยู่อย่างไร้ความหมาย แซท ชายหนุ่มปริศนาฝั่งตรงข้ามของมายาที่แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์และเป็นตัวละครที่น่าสนใจของเรื่อง นอกจากนั้นตัวละครแต่ละตอนต่างมีเสน่ห์และมีการโชว์ความสามารถของตัวเองเต็มที่ ไม่มีใครโดนทิ้งให้จมหาย อาจจะมีหายไปช่วงหนึ่ง แล้วก็กลับมาในช่วงสำคัญ เรียกได้ว่าตัวละครทุกตัวเหล่านี้ ต้องมีสักคนที่คนดู เด็ก ๆ หนู ๆ ชอบแน่ ๆ