รีวิว หนัง Twilight Netflix
รีวิว หนัง Twilight Netflix ภาพยนตร์แวมไพร์สุดโรแมนติกทำให้หลายคนติดงอมแงม
ถ้าพูดถึงแวมไพร์แล้วหากเราไม่นึกถึงเรื่องราวพลังความสามารถเหนือธรรมชาติและการต่อสู้อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะคิดถึงก็คือความโรแมนติกนั่นเองเชื่อว่าทุกคนย่อมเคยผ่านการอ่านเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนหรือนวนิยายที่เกี่ยวข้องกับความรักของแวมไพร์กันมาแล้วทั้งนั้นเราจะพบว่ามันมีความโรแมนติกเป็นอย่างมากกับการที่พระเอกเป็นแวมไพร์สุดแข็งแกร่งและต้องปกป้องนางเอกที่เป็นมนุษย์ธรรมดาด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นพล็อตโรแมนติก
ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังคงขายได้เสมอมาด้วยเหตุนี้มันจึงไม่น่าแปลกใจนักที่ภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ครั้งหนึ่งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วมันได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจะมีการสร้างภาคต่อออกมาได้หลายต่อหลายภาคนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Twilight ภาพยนตร์ที่ทําให้นักแสดงนำหรือนักแสดงที่มีบทโดดเด่นในภาพยนตร์เรื่องนี้แจ้งเกิดกันนับไม่ถ้วนนิยายเรื่องนี้มาก่อนเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่สามารถทำให้ตัวละครที่ไม่ใช่พระเอกนางเอกไม่แพ้กัน
มันเป็นภาพยนตร์ที่สามารถผสมผสานเรื่องราวระหว่างความรักและการต่อสู้ให้เข้ากันได้อย่างกำลังพอดิบพอดีแม้ว่าหลายคนจะมองว่าการแสดงของนางเอกสาวอย่าง Kristen Stewart ในภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจะแข็งทอและไม่เหมือนกับที่จินตนาการเอาไว้เวลาที่อ่าน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันถือเป็นภาพจำของเธอเลยกับการที่เป็นสาวน้อยหน้าตาสวย แต่แปลกแยกและได้ชีวิตชีวาหากคุณเคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้มาก่อนแล้วอยากจะลองดูว่าภาพยนตร์ที่สร้างมาจากนวนิยายที่ตนเองรักนั้นจะเป็นอย่างไรเราก็อยากจะแนะนำให้คุณลองรับชม
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Twilight
Twilight เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่มีชื่อเบลล่าเธอเป็นเด็กสาวหน้าตาดี แต่กลับทำตัวแปลกแยกออกจากคนอื่นเธอนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึมและเก็บตัวไม่เหมือนกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่ชื่นชอบของสวย ๆ งาม ๆ หรือของที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้นส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่ครอบครัวของเธอนั้นไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควรเนื่องจากพ่อและแม่ของเธอนั้นแยกทางกันไม่เพียงเท่านั้นแม่ของเธอได้แต่งงานใหม่
ทำให้เธอนั้นต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับพ่อในเมืองเล็ก ๆ อีกด้วยแถมในเมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองฝนตกตลอดทั้งปีจนทำให้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเดินทางมาเรียนในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายของเมืองนี้ยังไม่มีอิดออด แต่อย่างใดเพราะเธอก็รู้ดีว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเดินทางมาเรียนเธอก็ได้พบเข้ากับเด็กนักเรียนหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเอ็ดเวิร์ดเด็กหนุ่มคนนี้จ้องหน้าเธออย่างเสียมารยาทไม่หยุดมันทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พอเมื่อถึงวิชาเรียนเดียวกันพวกเขากลับนั่งใกล้กันอีก แต่พอถึงตอนนั้นเด็กหนุ่มกับทำท่าทางเหมือนกับรังเกียจเธอ
และยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยถึง 1 อาทิตย์เลยทีเดียวเด็กสาวยังคงใช้ชีวิตต่อไปตามปกติอย่างที่ควรจะเป็นจนกระทั่งในวันหนึ่งเธอตกอยู่ในวิกฤตคับขันและได้เด็กหนุ่มมาช่วยเหลือชีวิตเอาไว้มันทำให้เธอต้องตกตะลึงเป็นอย่างมากเพราะการช่วยเหลือของเขาทำให้เธอรู้ในทันทีว่าเขาไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปด้วยเหตุนี้เธอจึงได้พูดคุยกับเขาแบบจริงจังและเขาก็ได้ยอมรับว่าเรานั้นมีความสามารถในการอ่านใจคนอื่น แต่เขานั้นกลับไม่สามารถอ่านใจเธอได้เลยด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเริ่มสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นและทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นไปอีกโดยที่ในตอนแรกเบลล่าไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้แท้จริงแล้วเขาเป็นแวมไพร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Twilight
Twilight เป็นภาพยนตร์ที่ในภาคแรกเปิดตัวมาเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรดูเหมือนว่าจะนำพาไปสู่เรื่องราวการต่อสู้ความแฟนตาซีหรือความอลังการอะไรเลยแม้แต่น้อยทำให้ภาคนี้มันเป็นภาพยนตร์ที่เราสามารถรับชมกันได้แบบสบาย ๆ ไม่มีอะไรหวือหวาที่ทำให้เรานั้นต้องใจเต้นแรงไปมากกว่าประสานความสัมพันธ์กันแบบน่ารักระหว่างพระเอกและนางเอกมันเลยดูเหมือนกับภาพยนตร์รักวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป
แม้จะมีความพยายามในการสอดแทรกเรื่องราวดราม่าเข้ามาบ้างเพื่อสร้างสีสันรวมไปถึงการเพิ่มตัวร้ายเข้ามาในเรื่อง แต่กว่าจะมาถึงก็กลางเรื่องไปแล้วโดยรวมถือว่ามันเป็นภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกที่จะทำให้เรารู้สึกเขินไปกับตัวละครเอกได้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่แกนเรื่องมันค่อนข้างกลาดเกลื่อนไม่ว่าจะใครก็ทำกันนั่นก็คือการกำหนดเงื่อนไขให้แวมไพร์ไม่อยู่กับมนุษย์ แต่แวมไพร์กับมนุษย์ดันรักกันแล้วทำให้ศัตรูใช้มนุษย์คนนั้นมาเป็นเครื่องมือในการทำร้ายแวมไพร์ทำให้มันสามารถเดาได้แทบจะตลอดทั้งเรื่องและอาจจะสร้างความรู้สึกน่าเบื่อให้กับคุณได้หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ชอบภาพยนตร์แนวโรแมนติกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ตัวอย่างหนัง Twilight
รีวิว หนัง Twilight บางส่วนจาก beartai
เรื่องราวความรักบนความแตกต่างเริ่มต้นขึ้นหลัง เบลล่า สวอน (คริสเตน สจ๊วด) วัยรุ่นสาวจากแอริโซน่าย้ายมาอยู่ในเมืองที่มีฝนตกชุกและอากาศชื้นทั้งปีอย่าง
“ฟอร์คส” ไม่กี่วันหลังจากนั้นเธอก็ได้รับของขวัญต้อนรับจากครอบครัวของ เจคอบ แบล็ก (เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์) เพื่อนชายสมัยเด็ก และการกลับมาของเธอทำให้เขาดีใจจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ ซึ่งการย้ายบ้านครั้งนี้ทำให้เบลล่าต้องรีบปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและเพื่อนใหม่ โดยเฉพาะหนุ่มหล่อที่มีท่าทางลึกลับน่าหลงไหลอย่าง เอ็ดเวิร์ด คัลเลน (โรเบิร์ต แพตตินสัน) ที่แสดงท่าทางไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรกเจอและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้นในชั่วโมงชีววิทยา
หลังจากนั้นไม่นานเอ็ดเวิร์ดก็ช่วยชีวิตเบลล่าไว้ได้อย่างฉิวเฉียดขณะเธอตกอยู่ในอันตราย เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งทำให้เธอสงสัยในตัวเขามากขึ้นไปอีก และแน่นอนว่าทุกข้อสงสัยต้องได้รับคำตอบ เบลล่าพยายามค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ จนในที่สุดเธอก็รู้ความจริงว่าครอบครัวของเพื่อนร่วมชั้นสุดลึกลับเป็น “แวมไพร์” หลังจากความลับถูกเปิดเผย ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ก็เริ่มเหนียวแน่นขึ้น แต่ไม่นานหลังจากนั้นชีวิตของเธอก็ต้องพบกับความท้าทายอีกครั้งเมื่อเลือดของเบลล่าช่างหอมหวนเตะจมูกแวมไพร์กลุ่มอื่นเข้า และแน่นอนว่าครอบครัวของเอ็ดเวิร์ดจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเธอจากแวมไพร์นักสะกดรอย
เนื่องจากทไวไลท์เป็นภาพยนต์รักโรแมนติกที่ไม่ใช่ความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ถือว่าเป็นความแปลกใหม่เลยทีเดียวค่ะ พล็อตเรื่องจะแสดงถึงความรักแสนหวานของตัวละครมนุษย์กับแวมไพร์ที่ต้องจับมือกันเอาชนะความปรารถนาในใจและก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ แต่ถึงแม้ว่าโครงเรื่องจะดูเพ้อฝันไปสักหน่อยแต่กลับเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นฉากเอ็ดวิร์ดและเบลล่าเต้นรำกลางฟลอร์ที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้และแสงไฟสวยงามทำเอาหลายคนถึงกับเคลิ้มจนเก็บไปฝันเลยทีเดียว
และอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ภาพยนต์เรื่องนี้ได้รับฟีดแบ็กท่วมท้นก็เพราะมีการรวบรวมนักแสดงวัยรุ่นไว้มากมายนั่นเองค่ะ ด้วยความที่โครงเรื่องเกี่ยวกับชีวิตรักไฮสคูลทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้คับคั่งไปด้วยนักแสดงวัยรุ่นทั้งหน้าใหม่และมากประสบการณ์ ประกอบกับความหล่อของหนุ่มโรเบิร์ตที่เคยร่ายคาถาใส่หัวใจของสาว ๆ มาแล้วกับบท เซดดริก ดิกกอรี่ ในซีรีส์แฮร์รี่ พอตเตอร์ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่แฟน ๆ จะตกหลุมรักแวมไพร์เอ็ดเวิร์ดตามไปด้วย
ในเรื่องเพื่อน ๆ หลายคนคงจะเห็นฉากที่ครอบครัวคัลเลนพยายามช่วยเบลล่าหลบหนีจากการตามล่าของแวมไพร์นักสะกดรอย และสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความรักและสามัคคีของครอบครัวนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ ถึงแม้ว่าที่แท้จริงแล้วพวกเขาจะมาจากต่างถิ่น ต่างครอบครัว แต่เมื่อพวกเขากลายเป็นแวมไพร์และใช้นามสกุลเดียวกันแล้วเขาก็พร้อมจับมือและช่วยคนในครอบครัวรวมถึงคนรักให้ปลอดภัยจากอันตรายอยู่เสมอ
อย่างที่กล่าวไปแล้วในข้อที่สองว่าภาพยนต์เรื่องนี้เป็นความรักไฮสคูล เพราะฉะนั้นอารมณ์และความต้องการบางอย่างของตัวละครจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและไม่รู้ว่าจะแสดงมันออกมาอย่างไรดีตามประสาเด็ก บางซีนจึงทำให้คนดูรู้สึกสับคน, ตื่นเต้น หรือลุ้นจนตัวโก่ง และกลับมาฉุกคิดได้ว่าฉันก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันเลย หรือบางซีนที่ถ่ายถอดชีวิตนักเรียนไฮสคูลต่างประเทศออกมาได้อย่างดีเยี่ยมทำให้หลาย ๆ คนหวนคิดถึงกลุ่มเพื่อนหรือเหตุการณ์ชีวิตในช่วงเวลานั้น
ใช่ค่ะ เนื่องจากภาพยนต์เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีที่จะต้องมีฉากต่อสู้สุดเหวี่ยงหรือฉากโชว์ความสามารถพิเศษที่เกินพลังของมุษย์ธรรมดา ดังนั้นทีมผู้สร้างจึงทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับคอมพิวเตอร์กราฟิกที่จะช่วยเปลี่ยนหนุ่มโรเบิร์ตให้เป็นแวมไพร์หนุ่มทรงพลัง รวมถึงความทุ่มเทของนักแสดงที่เล่นฉากแอคชั่นกันแบบสด ๆ ไม่ใช้นักแสดงแทนกันเลยทีเดียว
ต้องยอมรับว่าฉากที่มีหนุ่มเอ็ดเวิร์ด คัลเลนนั้นดูสวยงามราวกับอยู่ในจินตนาการอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะผู้เขียนต้องการแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษของพระเอกค่ะ ต้องบอกก่อนว่าอมนุษย์แต่ละคนในเรื่องนี้จะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกัน และความสามารถของเอ็ดเวิร์ดก็คือความลุ่มหลง เขามีใบหน้าและหุ่นกำยำ แข็งแกร่ง น่าหลงไหลราวกับประติมากรรมชั้นเลิศที่พร้อมดึงดูดทุกสายตาไม่ว่าจะอยู่ในอริยาบทไหนก็ตาม และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย
ถึงแม้ว่าจะผ่านมาสิบกว่าปีแล้วหลังจากทไวไลท์ออกอากาศเป็นครั้งแรก แต่จนถึงตอนนี้ภาพยนต์เรื่องนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกหนังโรแมนติกที่หลายคนมักจะหยิบยกกลับมาดูในวันว่างและตกอยู่ในภวังค์ความรักของพวกเขาได้เสมอ ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าภาพยนต์เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เสริมจินตนาการของเราได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าหลังจากดูภาพยนต์เรื่องนี้จบแล้วหลายคนคงจะขัดซอกคอรอแวมไพร์หนุ่มหล่อสักคนหลงเข้ามาเพื่อเปลี่ยนชีวิตของเราให้เคียงคู่กันไปตลอดกาล สุดท้ายแล้วเราก็หวังว่าทุกคนจะเจอความรักที่สวยงามเช่นกันนะคะ
ส่วนครั้งหน้าเราจะหยิบซีรีส์หรือภาพยนต์เรื่องไหนมารีวิวก็ต้องติดตามกันในบทความต่อไปค่ะ ระหว่างรอเพื่อน ๆ สามารถอ่านบทความรีวิวหนังและซีรีส์ที่เราเลือกสรรมาฝากได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นซีรีย์จีน, ซีรีส์เกาหลี, ซีรีส์ญี่ปุ่น, หรือหนังฝรั่ง เราก็ได้เลือกสรรมาแนะนำเพื่อน ๆ ไว้อย่างครบครันเลยค่ะ โดยเฉพาะซีรีส์ยอดนิยมทางเน็ตฟลิกซ์อย่าง Crash Landing On You, The Uncanny Counter และ Descendants of Sun นี่เรามีบทวิเคราะห์หนังแบบล้วงลึกมาเสิร์ฟทุกคนเลยค่ะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า