รีวิว หนัง TOGO Disney+Hotstar
รีวิว หนัง TOGO Disney+Hotstar ภาพยนตร์สุดซึ้งที่เล่าถึงเรื่องราวฮีโร่สุนัขลากเลื่อนที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์
TOGO เป็นภาพยนตร์ที่อาจจะไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง อยู่ในกระแส ได้รับความนิยม หรือมีความน่าสนใจไปมากกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมติดอันดับ 10 ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบน Application Streaming อย่าง Disney+ ที่เพิ่งเปิดให้บริการในประเทศไทยได้ไม่นาน รายชื่อภาพยนตร์ส่วนใหญ่นั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นรายชื่อภาพยนตร์ที่เราไม่แปลกใจที่มันจะติดอันดับ อย่างเช่นกัปตันอเมริกา The devil wear prada Raya and the last Dragon หรือ Kingsman
แต่ทราบหรือไม่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ เล่าถึงเรื่องราวของสุนัขลากเลื่อนที่กลายมาเป็นฮีโร่หลังจากที่มันสามารถทำภารกิจในการช่วยเหลือหมู่บ้านในการไปค้นวัคซีนที่อยู่ไกลออกไปสุดสายตาเพื่อให้คนทั้งหมู่บ้านสามารถรอดพ้นจากการแพร่ระบาดของโรคคอตีบได้สำเร็จ และชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือชื่อของสุนัขลากเลื่อนตัวนั้นเอง
ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ หรือตลกไปกับมันแต่อย่างใด แต่มันจะทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งไปกับความพยายามของทั้งผู้บังคับรถลากเลื่อนและสุนัขลากเลื่อนที่ไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือหมู่บ้านในครั้งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังต้องเจอกับเหตุการณ์อุปสรรคมากมายที่ทำให้เรารู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งไปกับความพยายามไม่ย่อท้อของสุนัขลากเลื่อนตัวนี้
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง TOGO
TOGO เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของสุนัขป่าตัวหนึ่งที่มีขนาดเล็กมากกว่าตัวอื่นในฝูง ทำให้สำหรับครอบครัวเซปปาลาที่ดูแลโทโก้และฝูงนั้นรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสำหรับการไปเป็นสุนัขแข่งลากรถเลื่อนแต่อย่างใด แม้ว่าครอบครัวดังกล่าวจะเป็นครอบครัวที่มีการเพาะพันธุ์และฝึกสุนัขสำหรับการทำธุรกิจ แต่พวกเขาก็ยังคงเลี้ยงมันเอาไว้ อย่างไรก็ตามเจ้าของมันอย่างลีออนฮาร์ทรู้สึกไม่ค่อยลงรอยกับสุนัขตัวนี้เท่าไหร่ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขและเจ้าของนั้นไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร
แต่พอเข้าสู่ปี 1925 สหรัฐอเมริกาต้องพบเจอกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคคอตีบที่แพร่กระจายไปทั่วไม่เว้นแม้แต่ในเมืองที่ห่างไกลอย่างโนมซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอลาสก้าที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ การจะเดินทางเข้าถึงเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอุปสรรคและความยากลำบากมากมาย โรคดังกล่าวนั้นแม้ว่าจะดูไม่อันตราย แต่ความจริงแล้วในเด็กนั้นมีความอันตรายเป็นอย่างมากถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว การรักษานั้นจำเป็นจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่มีในตัวเมืองและตัวเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด ผู้คนในหมู่บ้านต่างแสวงหายาปฏิชีวนะก่อนจะพบว่ามันอยู่ในเมืองที่ห่างออกไปถึง 800 กิโลเมตร
สภาพอากาศในรัฐอลาสก้านั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความหนาวเหน็บ ยานพาหนะทั่วไปไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถใช้งานในสถานที่แห่งนี้ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งเครื่องบินหรือรถไฟ รางรถไฟส่วนใหญ่นั้นถูกหิมะถมจนมิดไม่สามารถวิ่งได้ สภาพทัศนวิสัยก็ย่ำแย่จนไม่สามารถบินได้ วิธีการเดียวที่จะช่วยให้คนในหมู่บ้านรอบพ้นจากโรคแพร่ระบาดในครั้งนี้คือการใช้สุนัขลากเลื่อน
ภารกิจในการขนส่งยารักษาโรคด้วยการใช้สุนัขลากเลื่อนที่ต้องเดินทางเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตรจึงเริ่มต้นขึ้น เขาใช้วิธีการแบ่งทีมออกเป็นจำนวนหลายทีม จากนั้นก็ทำการส่งของต่อกันมาเป็นทอดๆ แม้ว่าพวกเขาจะวางแผนไว้เป็นอย่างดีแต่ด้วยอุณหภูมิที่ติดลบ 50 องศาเซลเซียสทำให้ทั้งผู้ทำภารกิจและสุนัขลากเลื่อนนั้นต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย ลีออนฮาร์ทเป็นหนึ่งในอาสาสมัครนำทีมสุนัขลากเลื่อนไปทำภารกิจนี้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในผลัดของเขาต้องพบเจอกับอุปสรรคมากกว่าคนอื่นเนื่องจากอุณหภูมิลดต่ำลงไปถึงลบ 60 องศาเซลเซียส โชคดีที่สุนัขที่เขาใช้งานนั้นคือเจ้าโทโก้ที่ถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าตัวอื่นในฝูง แต่มันก็สามารถวิ่งขนส่งเป็นระยะทางถึง 273 กิโลเมตรได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด และเป็นระยะทางที่ไกลมากที่สุดในทุกทีมอีกด้วย ภารกิจปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ถูกเรียกว่า Great Race of Mercy ส่วนเราสุนัขลากเลื่อนที่ทำงานมีภารกิจครั้งนี้ก็ได้รับการสร้างอนุสาวรีย์เป็นตัวแทนที่เรารู้จักกันในชื่อ Balto ในเซ็นทรัลปาร์ค เมืองนิวยอร์กนั่นเอง
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง TOGO
TOGO เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีฉากหวือหวา ไม่ได้เต็มไปด้วยการต่อสู้ ไม่ได้มีเรื่องราวที่สนุกหรือตลกขบขันแต่อย่างใด นั่นก็เป็นเพราะว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้นเคยเกิดขึ้นจริงและกลายเป็นวิกฤติของผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลอย่างรัฐอลาสก้า การเดินทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและการเดิมพันด้วยชีวิตของคนในหมู่บ้านนั้นทำให้เรื่องราวในภาพยนตร์เต็มไปด้วยความกดดัน ความลุ้นระทึก และความซาบซึ้งไปกับวีรกรรมที่เหล่าสุนัขลากเลื่อนสามารถปฏิบัติภารกิจปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้น่าเบื่อแต่อย่างใด เนื่องจากมีการเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทำให้มันมีความน่าติดตามเป็นอย่างมาก แม้ว่าภาพยนตร์จะมีความยาวกว่า 2 ชั่วโมงก็ตามแต่กลับไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย บางช่วงอาจมีความแผ่วลงไปบ้างแต่ก็กินเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยรวมแล้วมันเป็นภาพยนตร์ดีที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองรับชมกัน
ตัวอย่างหนัง TOGO
หนัง TOGO
คุณเคยรักสุนัขหรือไม่? ฉันหมายถึงคนที่รักจริงเหรอ? ถ้าคุณมีคุณจะรักหนังเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีและบอกได้ดี เราเรียนรู้ว่าโตโกเป็นขยะมูลฝอยและในช่วงต้นมีความมุ่งมั่นที่จะไม่ถูกปฏิเสธ นี่คือเรื่องจริงที่ทำให้การเล่าเรื่องดียิ่งขึ้น
เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะรู้ว่า Togo & Balto ได้รับการฝึกฝนโดย Sepp เนื่องจาก Balto เป็นผู้ดำเนินการเลโก้สุดท้ายของ Serum Race ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับความอื้อฉาวทั้งหมด เขาวิ่ง 31 ไมล์ ในขณะที่โตโกวิ่ง 264 ไมล์เหนือภูมิประเทศที่ทุจริตที่สุดในอลาสก้า
ฉันชอบ Willem Defoe เสมอในฐานะนักแสดง ทุกครั้งที่ฉันดู Grand Budapest Hotel ตัวละครของเขาทำให้ฉันหัวเราะ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขานำชีวิตมาสู่ตัวละครลีโอนาร์ด เซพพาลา เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง ขณะที่ฉันดูอยู่ ฉันกำลังคิดถึงสุนัขทุกตัวที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน หากคุณเคยเป็นเจ้าของสุนัข คุณจะเข้าใจ
ส่วนที่ดีที่สุด เป็นความจริงทั้งหมด! เด็กมีชีวิตอยู่เพราะพวกเขาได้รับกลองในเวลา ขอบคุณสุนัขผู้กล้าหาญเหล่านี้และเจ้านายของพวกเขา ความรุ่งโรจน์ของดิสนีย์ที่นำเรื่องนี้มาสู่หน้าจอ ฉันพาลูกชายตัวน้อยไปที่แมนฮัตตันและเซ็นทรัลพาร์คเพื่อดูรูปปั้นของบัลโต พวกเขาควรมีหนึ่งสำหรับโตโกเช่นกัน
โตโกเป็นชัยชนะครั้งแรกของ Disney+ (ในแง่ของภาพยนตร์) โตโกเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ อัดแน่นไปด้วยหัวใจและผลงานอันยอดเยี่ยมจากดาโฟ
Willem Dafoe ยอดเยี่ยมมากที่นี่ ส่งมอบหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีกว่าของเขา ความสัมพันธ์ของเขากับสุนัขนั้นเป็นไปอย่างดีและจริงใจ นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันดีกว่าหนังสุนัขส่วนใหญ่ เป็นหนังที่สนุกจริงๆ และตอนจบก็ซึ้งจริงๆ ต้องขอบคุณพวกเขาที่ใช้เพลงที่คัดสรรมาอย่างดี “ในธรรมชาติของแสงแดด” เช่นเดียวกับความสัมพันธ์และการพัฒนาที่คุณได้รับระหว่าง Dafoe และ Togo
ฉันไม่มีข้อบกพร่องที่สำคัญกับมันจริงๆ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีโดยเฉพาะที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องจริง วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์อาจไม่ได้ยอดเยี่ยมเสมอไป แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เนื่องจากเป็นผลงานต้นฉบับของดิสนีย์และไม่ใช่ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์
โดยรวมแล้วมันเป็นหนังที่แข็งแกร่งจริงๆ และเป็นหนังสุนัขที่ดีที่สุดจริงๆ ที่เราเคยมีมา มันอาจจะไม่ได้เศร้าเกินไป แต่มันมีหัวใจ และนั่นเป็นมากกว่าที่ผมจะขอจากหนังสุนัขได้
สุนัขเป็นสัตว์ แต่เป็นสัตว์และเพื่อนที่ดีที่สุดที่คุณคาดหวังได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสุนัขที่ซื่อสัตย์ กล้าหาญ และฉลาดสามารถเป็นอย่างไร ห้านาทีสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ น้ำตาจะไหล ภาพยนตร์มีธรรมชาติ สุนัข และข้อความที่ยอดเยี่ยม ถ้าคุณเป็นคนขี้เหงา หาสุนัข พระองค์จะทรงสละชีวิตเพื่อคุณ และมีชีวิตอยู่เพื่อคุณ