รีวิว หนัง THE SKY IS EVERYWHERE
รีวิว หนัง THE SKY IS EVERYWHERE ภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นที่มีความแตกต่างจากเรื่องอื่น
ภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะถูกค่อนแคะว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีแก่นสารอะไรที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่แล้วมักเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักวัยรุ่นสูตรสำเร็จที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเรื่องอื่น ถ้าไม่เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้รับชมแล้วรู้สึกสนุกสนานอบอุ่นหัวใจก็มักจะมาในลักษณะของแนวดราม่าที่รับชมแล้วต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นยังคงมีคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวนี้อยู่ไม่น้อยเนื่องจากมันเป็นภาพยนตร์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย รับชมได้แบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แถมยังเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเคยเผชิญมาก่อนจึงสามารถเข้าถึงเรื่องราวและความรู้สึกของตัวละครได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เบื่อภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นสูตรสำเร็จเต็มทนแล้วขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง THE SKY IS EVERYWHERE มันเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นที่เล่าถึงเรื่องราวความรักของเด็กวัยรุ่น 2 คนที่มีความแตกต่างจากภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นเรื่องอื่น ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีคุณจะได้สัมผัสกับเรื่องราวที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นอยู่เหมือนเดิม มันดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันที่ประสบความสำเร็จและเข้าตาผู้ผลิตภาพยนตร์จนถูกนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ในที่สุด
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ผู้กำกับที่ค่อนข้างไม่เป็นที่รู้จักอย่าง JOSEPHINE DECKER มารับหน้าที่ในการกำกับแต่เขาก็สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มันไม่ได้เล่าเรื่องราวความรักวัยรุ่นที่สุดแสนจะโรแมนติกและสดใส แต่จะเน้นไปที่วิธีการก้าวข้ามผ่านการสูญเสียคนรักจนทำให้ใจสลายและทำลายชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งไปอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กลิ่นอายของมันจึงไม่ได้เต็มไปด้วยความสุขเพียงอย่างเดียวแต่แทรกซึมมาด้วยความซาบซึ้งและความอบอุ่นหัวใจได้อย่างลงตัว
รีวิวหนังรัก
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE SKY IS EVERYWHERE
THE SKY IS EVERYWHERE เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของสองพี่น้องที่สนิทสนมกันเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทกันมาอย่างยาวนานอย่างเบย์ลี่และเลนนี่ พวกเธอทั้งสองคนอาศัยอยู่กับยายและลุงที่เลี้ยงพวกเธอมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กเนื่องจากพวกเธอนั้นต้องเสียแม่ไป เลนนี่เป็นเด็กสาวที่มีพรสวรรค์และความสามารถในด้านดนตรีเป็นอย่างมาก ในขณะที่เบย์ลี่มีความสามารถในด้านการแสดงไม่แพ้ใคร ทั้งสองคนแม้ว่าจะไม่มีพ่อแม่แต่พวกเธอนั้นก็ยังคงดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยความฝัน
แต่แล้วในวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อผู้เป็นพี่สาวเบย์ลี่เกิดหัวใจหยุดเต้นขึ้นมาในขณะที่เธอนั้นกำลังซ้อมละครอยู่ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผู้เป็นน้องสาวเลนนี่ต้องใจสลายจากการสูญเสียพี่สาวไปแล้วมันทำให้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรอีกต่อไป เธอหายไปจากโรงเรียนและหลบหน้าหลบตาผู้คน จมอยู่กับความเศร้าและความทุกข์ที่ต้องสูญเสียพี่สาวเพียงคนเดียวไป
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเธอเริ่มทำใจได้ก็ได้กลับมายังโรงเรียนอีกครั้งก่อนจะพบกับชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์และความสามารถทางด้านดนตรีเหมือนกันที่มีชื่อว่าโจ และเขาก็ได้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธออีกครั้ง สุดท้ายแล้วเด็กสาวจะสามารถทำตามความฝันและก้าวข้ามผ่านความเสียใจไปได้หรือไม่ เราต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE SKY IS EVERYWHERE
THE SKY IS EVERYWHERE เป็นภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นแต่ก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องราวแบบสูตรสำเร็จแต่อย่างใด เปิดตัวมาด้วยการสูญเสียพี่สาวจนทำให้นางเอกของเราต้องทุกข์ทนทรมานอยู่กับความเศร้าที่ต้องสูญเสียพี่สาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอมีอาการหมกมุ่นจนเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าเลยทีเดียว ดังนั้นแม้ว่าจะมีเรื่องราวความรักโรแมนติกสอดแทรกเข้ามาบ้างแต่ประเด็นหลักที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการจะสื่อก็คือวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างไม่ทันได้ทำใจจนทำให้เธอนั้นไม่เหลือที่พึ่งพิงทางจิตใจอีกต่อไปแม้ว่าเธอจะมีครอบครัวอยู่ก็ตาม เนื่องจากเธอโทษว่าทั้งลุงและยายมีส่วนที่ทำให้พี่สาวของเธอต้องจากไป
ดังนั้นในช่วงแรกตัวละครนางเอกของเราจะไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่เพราะเธอนั้นเต็มไปด้วยความทุกข์และความโกรธเกรี้ยวจนอาละวาดไปทั่ว แต่หลังจากนั้นภาพยนตร์ก็จะค่อยๆแสดงให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของการก้าวข้ามผ่านความทุกข์ของตัวละครดังกล่าวได้เป็นอย่างดี บรรยากาศภายในเรื่องในช่วงแรกจึงค่อนข้างจะทุกข์ทรมานเลยทีเดียวสำหรับตัวละครเอกของเราและมันก็ทำให้เรารู้สึกไปกับเธอได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นนอกจากเรื่องราวและบทของภาพยนตร์แล้วก็คืองานภาพที่สวยเป็นอย่างมาก การออกแบบทั้งฉาก เสื้อผ้าหน้าผม บรรยากาศภายในภาพทุกอย่างสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี นักแสดงก็สามารถเล่นได้อย่างสมบทบาทแถมยังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจอีกด้วย มีการสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับการเติบโตจากวัยรุ่นสู่การเป็นผู้ใหญ่ได้ดี มีเรื่องรักสามเศร้าที่น่าติดตามใส่เข้ามาด้วย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการที่ไม่ได้เน้นประเด็นเรื่องความสามารถทางดนตรีของตัวละครเอกทั้งสองตัวสักเท่าไหร่ มีจังหวะที่นางเอกเปลี่ยนไปจนดูไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร บทของนางเอกในช่วงแรกสมจริงจนทำให้ผู้รับชมอย่างเราอาจรู้สึกปวดหัวกับพฤติกรรมของเธอได้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นที่ทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว