รีวิว หนัง THE ROUNDUP
รีวิว หนัง THE ROUNDUP ภาพยนตร์เกาหลีแนวต่อสู้ที่กำลังมาแรงจนถล่ม BOX OFFICE ได้สำเร็จ
การที่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้านรายได้อย่างถล่มทลายจนขึ้นไปอยู่บน BOX OFFICE ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภาพยนตร์เรื่องนั้นไม่ใช่ภาพยนตร์จาก HOLLYWOOD หรือเป็นภาพยนตร์แนวบล็อกบัสเตอร์ มันยากที่จะทำให้ผู้คนหันมาสนใจและสร้างความนิยมจนทำรายได้สูงได้ถึงขนาดนั้น
แต่ภาพยนตร์เกาหลีก็เอาอีกแล้วหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากภาพยนตร์ต้นขั้วที่ทำให้วงการภาพยนตร์เกาหลีพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนั่นก็คือ TRAIN TO BUSAN ในครั้งนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์แนวต่อสู้ที่จะทำให้คุณนั้นได้สัมผัสถึงความมันส์สุดระทึกใจ นั่นก็คือภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้อย่าง THE ROUNDUP มันเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้ที่เป็นที่พูดถึงอย่างหนัก แถมยังถล่ม BOX OFFICE จะไม่มีใครสามารถโค่นลงได้สำเร็จอีกต่างหาก
สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการที่นักแสดงนำของภาพยนตร์เรื่องนี้คือมาดงซอก นักแสดงหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยโกอินเตอร์ได้เล่นภาพยนตร์มาร์เวลเป็นหนึ่งในนักแสดงหลักที่ได้ประกอบกับนักแสดงฮอลลีวูดมากฝีมืออย่างแองเจลิน่า โจลี่นั่นก็คือในภาพยนตร์เรื่อง ETERNAL มาก่อน การกลับมาเล่นหนังในเกาหลีอีกครั้งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ไม่ใช่เพราะฝีมือการแสดงของเขาเพียงแค่อย่างเดียวแต่ยังรวมไปถึงนักแสดงคนอื่นและการเล่าเรื่องราว รวมไปถึงการนำเสนออีกด้วย
หนังเกาหลีสนุกๆ
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE ROUNDUP
THE ROUNDUP ภาพยนตร์ที่จะพาเราย้อนรอยไปรับรู้เรื่องราวคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 มันเป็นคดีที่ทำให้นักสืบมาซอกโดได้มีโอกาสกลับมาร่วมทีมในการปฏิบัติการไขคดีสุดลึกลับอีกครั้ง พวกเขาได้รับแจ้งให้เดินทางไปทำภารกิจรับตัวผู้ร้ายข้ามแดนถึงในประเทศเวียดนาม ประเทศที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สุดแสนจะงดงามแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยอันตรายมากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน
เมื่อเขาเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเขาก็พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป คนร้ายยิงยอมมอบตัวอย่างง่ายดายเป็นอย่างดีจนทุกอย่างดูแปลกประหลาดไปหมด ยิ่งเขาสืบหาเบาะแสความจริงมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งพบกับเบื้องลึกเบื้องหลังที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้มากขึ้นเท่านั้น
มันทำให้เขานั้นได้เผชิญหน้ากับการก่อเหตุอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยความร้ายแรงจนมีผู้เสียชีวิตหลายต่อหลายศพ เขาจึงตัดสินใจเข้าไปคลุกวงในเพื่อหาเบาะแสในการตามจับฆาตกรของคดีนี้ให้สำเร็จ แต่ภารกิจดังกล่าวก็ไม่ง่ายเหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้ เขาต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและอันตรายมากมายเพื่อที่จะปิดคดีนี้ให้สำเร็จ
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE ROUNDUP
THE ROUNDUP เป็นภาพยนตร์ภาคต่อของภาพยนตร์ชื่อดังในเกาหลีที่เคยออกฉายในปี 2017 ที่เล่าเรื่องราวในอาชญากรรมเช่นเดียวกันนั่นก็คือ THE OUTLAW นั่นเอง โดยในครั้งนี้ไม่ได้อ้างอิงความเข้มข้นที่เกิดจากแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงเหมือนเดิม แต่เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาที่เต็มไปด้วยรสชาติลงไปถึงชั้นเชิงในการเล่าที่มีความจัดจ้านเป็นอย่างมาก ใส่ลงไปบนพื้นฐานของตัวละครและคาแรคเตอร์ที่มีความโดดเด่นจากภาคที่แล้วมาเป็นองค์ประกอบที่สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว
ดังนั้นหลายคนจึงอาจจะกังวลว่าหากเราไม่ได้รับชมภาพยนตร์ภาคแรกมาก่อนจะสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้รู้เรื่องหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเพราะคุณยังสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนานแม้ว่าจะไม่มีพื้นฐานใดจากภาพยนตร์ภาพเก่ามาเลยแม้แต่น้อย
ในส่วนของการเล่าเรื่องราวและการนำเสนอนั้นเรียกได้ว่ายังคงสามารถทำได้ดีเหมือนเดิมเนื่องจากผู้กำกับยังคงเป็นคนเดิมอย่างคังยุนซองนั่นเอง เจ้าตัวมีความเสมอต้นเสมอปลายในการเล่าเรื่องราวที่มีจังหวะยอดเยี่ยม ออกมาสนุกสนานและเต็มไปด้วยความเมามันส์ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะเป็นแนวสูตรสำเร็จของภาพยนตร์แนวต่อสู้แต่มันกลับมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องราวที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและทำให้ผู้รับชมรู้สึกเพลิดเพลินไปตลอดกาลและชมได้ไม่ยาก
โดยเฉพาะในการปูเรื่องเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่ใช้เวลาค่อนข้างนานแต่มันกลับกลายมาเป็นส่วนสำคัญในเนื้อหาและสามารถดึงให้ผู้ชมยังคงสามารถนั่งอยู่กับเก้าอี้แม้ว่ามันจะหมดไปเกือบครึ่งเรื่องเลยก็ตาม ในส่วนของงาน PRODUCTION นั้นถือว่าสามารถทำออกมาได้ในระดับมาตรฐาน การดีไซน์รวมไปถึงการออกแบบฉากต่อสู้ทำออกมาได้น่าสนใจ ภาพผสมเข้ากับมุมกล้องที่เล่นระดับสายตาผู้รับชมยิ่งสร้างความเร้าใจได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ภาพยนตร์ไม่ได้เน้นเล่าเรื่องราวเฉพาะทีมตำรวจเพียงแค่อย่างเดียว แต่ยังให้เวลาในการเล่าเรื่องราวถึงตัวละครอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไม่ว่าจะเป็นตัวผู้ร้ายหรือแม้แต่ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวการก่อเหตุคดีอาชญากรรมก็ตาม มันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ต่อสู้สูตรสำเร็จที่ทำออกมาได้อย่างสนุกสนานแบบไม่เกินจริง
ตลอดระยะเวลากว่า 100 นาทีจะทำให้คุณได้รับทั้งความสนุกสนานและความระทึกใจ มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยว่าเพราะเหตุใดภาพยนตร์เรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในเกาหลีและทั่วโลก ดังนั้นหากคุณอยากรับชมก็ไม่ต้องลังเลอีกต่อไป