รีวิว หนัง The Rope Curse 2 (2020) เชือกอาถรรพ์
รีวิว หนัง The Rope Curse 2 (2020) เชือกอาถรรพ์ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญของไต้หวัน
The Rope Curse 2 ถือเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญของประเทศไต้หวันที่ใครๆ ที่ได้ดูต่างก็ขนลุกไปตามๆกัน กำกับการแสดงโดยเหลียวฉีฮั่น พร้อมกับนักแสดงมากความสามารถอย่างวิลสัน ชู, เวรา เฉิน, เฉิงกั๋วเยิ่น, เฉินป๋อเจิ้ง, หลิวกั๋วเซาและ หลี่คังเชิง ที่เป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับดีกรีรางวัลมาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ซึ่งต้องชื่นชมความเก่งของผู้กำกับอย่างเหลียวฉีฮั่นที่ได้กำกับและเขียนบทเรื่องให้เนื้อหามีความปะติดปะต่อกัน ถึงแม้เราจะไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในภาคแรกเราก็สามารถเข้าใจในเนื้อหาเรื่องราวที่ผู้กำกับและนักแสดงได้ถ่ายทอดออกมา
นักแสดงที่ได้มาแสดงในภาคสองนี้ก็ถูกดึงจากภาคแรกและถูกนำมาใช้ในภาค 2 เช่นตัวละครหมอผีที่ยังถูกนำมาโผล่ในเรื่องในฉากแรกๆ ใครที่เคยดูภาคแรกมาแล้วคงเห็นสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจะสื่ออย่างชัดเจนเกี่ยวกับอาถรรพ์ของเชือกที่ต้องคำสาปที่หากใครเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ล้วนจะต้องตายกันทั้งนั้น โดยภาพยนตร์ใช้เวลาในการฉายอยู่ที่ 104 นาทีเท่านั้น ฉายครั้งแรกที่ประเทศไต้หวันเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 เนื้อหาก็จะเป็นแบบเดิมๆ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก สามารถเดาทางได้ง่าย แต่อย่างนั้นภาพยนตร์เรื่อง The Rope Curse 2ก็ยังคงติดอันดับหนังดังใน Netflix ดีที่สุดในตอนนี้
เรื่องราวที่ชวนน่าติดตามของภาพยนตร์เรื่อง The Rope Curse 2
The rope Curse 2 เนื้อเรื่องจะมีการโยงเข้าหาเนื้อเรื่องในภาคแรก แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวต่อเนื่องแต่หากใครที่ยังไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในภาคแรกไม่เกิดความสับสนแน่นอน เล่าถึงอาหั่ว อดีตร่างทรงที่ต้องเสียอาจารย์ไปจากเหตุการณ์ที่ตัวเขาเองนั้นได้ทำพิธีกรรมพิธีหนึ่งให้กับอาจารย์ของตัวเอง แต่ด้วยการทำพิธีกรรมครั้งนั้นเขาทำมันได้ไม่สำเร็จในครั้งนั้นจนทำให้อาจารย์ของเขาต้องตาย
เหมือนโชคชะตานั้นได้กลั่นแกล้งทำให้เขาต้องมาปราบผีด้วยตนเองที่ประเทศไทย เป็นผีตัวเดิมที่เคยฆ่าอาจารย์ของเขา แต่เพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเจียหมิ่น เด็กสาวที่มีชะตากรรมพิเศษเช่นเดียวกับอาหั่วที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นร่างทรงของเทพจงขุย ในขณะเดียวกันตัวเขากำลังถูกพรายมหาภูติก่อกวนอยู่ ผีตนนั้นมีชื่อว่าพรายมหาภูตที่มีความเชื่อเป็นอย่างมากว่าเป็นผีที่ดุและมีความโหดร้ายเป็นที่สุด ผีตนนี้เป็นที่เคารพมากสำหรับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ทำการค้าขายยาเสพติดอยู่
บทสรุปความสนุกของภาพยนตร์เรื่อง The Rope Curse 2
ภาพยนตร์เรื่อง The Rope Curse 2 เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ดูแล้วเกิดความสนุกทำให้เกิดการลุ้นอยู่ตลอดเวลาจนแทบไม่อยากลุกออกจากหน้าจอ ต้องชื่นชมทั้งผู้กำกับ ทีมงานทุกคน รวมไปถึงนักแสดงที่ทำมันออกมาได้ดี สามารถแสดงและสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างสมบทบาท ทุกฉากทุกตอนสามารถทำให้คนดูอินไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างง่ายๆ ตอนนี้ผีไต้หวันก็ได้เข้ามาสร้างความสยอสยองแข่งกับผีไทยบ้านเราอย่างไม่หยุดหย่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาคนี้จะเป็นการพูดถึงผีพรายมหาภูติ ผีที่มีความร้ายกาจที่สุดของประเทศไทยก็ว่าได้
แต่ทีมงานตีความและนำเสนอจินตนาการเกี่ยวกับผีว่าเป็นผีพรายมหาภูติออกมามีลักษณะท่าทางไม่ต่างกับผีปู่ย่าของบ้านเราสักเท่าไหร่ สามารถเข้าสิงคนได้ โดยคนที่ถูกสิงนั้นจะมีอาการตาแดง ฆ่าคนให้ตายได้โดยการแขวนคอ แถมยังสามารถย้ายวิญญาณเข้าไปอยู่ในร่างของคนอื่นได้อีกด้วย ความแปลกใหม่คงยังไม่หมดเท่านี้ การถ่ายทอดอารมณ์ ไอเดียวิธีการปราบผีไทยของคนไต้หวันที่มีความแปลกใหม่ เช่นการทำพิธีต่อสู้กับผีต้องมีเงื่อนงำกำกับไว้ เช่นห้ามทำเทียนดับ ใครเรียกห้ามหันไปมอง ถือได้ว่าเป็นจุดอ่อนของตัวละครหลักที่ทำให้คนดูอย่างเราลุ้นไปตามๆ กัน
มีฉากสยองขวัญมากมายที่ทำให้เรารู้สึกกลัวได้ดี เสียงประกอบยิ่งช่วยเพิ่มอารมณ์ให้เราได้รู้สึกถึงบรรยากาศภายในเรื่องมากขึ้นไปอีก ในส่วนของความสยองขวัญถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีไม่น้อย เพิ่มความน่าสนใจของหนังเข้าไปอีกด้วยการนำพระเอกชื่อดังอย่างหลี่คังเฉินมาเป็นนักแสดงนำทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยิ่งน่าดูน่าสนใจเข้าไปอีก ข้อด้อยที่มองเห็นได้ชัดคงจะเป็นมุกหลอกๆ งานภาพจากคอมพิวเตอร์กราฟิกยังทำไม่เนียนตาพอ เนื้อหาค่อนข้างเดาได้ง่าย สำหรับผู้รับชมชาวไทยคงต้องทำใจยอมรับเกี่ยวกับความรู้สึกจากการรับชมภาพยนตร์สยองขวัญของไต้หวันว่ามีความคล้ายคลึงกันกับหนังผีเอเชียทั่วไป ไม่มีความแปลกออกไปเลย
ทำให้เราเดาทางได้ง่าย ไม่แตกต่างกับการรับชมภาพยนตร์สยองขวัญของไทย แต่ความใกล้เคียงกันของวัฒนธรรมก็จะทำให้เราอินไปกับเรื่องราวได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดอันดับภาพยนตร์สุดฮิตใน Netflix แต่คะแนนของผู้รับชมก็ถือว่าค่อนข้างต่ำมากเลยทีเดียว หากต้องการดูเพื่อฆ่าเวลาก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ แต่หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์สยองขวัญเป็นชีวิตจิตใจ อยากหาอะไรใหม่ๆ รับชม ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้
ตัวอย่างหนัง The Rope Curse 2 (2020) เชือกอาถรรพ์
หนัง The Rope Curse 2 (2020) เชือกอาถรรพ์
หนังผีจากไต้หวันเข้ามาชิงพื้นที่ความสยองขวัญในบ้านเราไม่หยุดหย่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะหนังในปีนี้อย่าง The Bridge Curse (คำสาปสะพานเฮี้ยน) หนังชุด The Tag-Along ที่ภาค 2 ทำเงินสูงสุดในไต้หวันแถมมีสร้างออกมา 3 เรื่องเข้าไปแล้ว
หรือล่าสุดกับ Detention หนังผีจากเกมที่เนื้อหาผสมประวัติศาสตร์นองเลือด ที่มีเป็นซีรีส์ทางเน็ตฟลิกซ์ให้ชม แน่นอนว่าใครชื่นชอบหนังผีแนวเอเชียก็น่าจะไม่พลาดกับเรื่องล่าสุดที่มีให้ชมทางเน็ตฟลิกซ์อย่างเรื่อง The Rope Curse 2 ที่เราจะมารีวิววันนี้
อีกอย่างที่โคตรชอบคือวิธีการสู้กับผี ที่มันโคตรเอกลักษณ์แบบหาที่อื่นไม่ได้เลย ในหนังผีชาติอื่น ๆ มันจะเป็นแบบหมอผีเทพ ๆ ลุยปราบผีแบบใส่เดี่ยว แต่ฉากการไล่ผีของหนังผีจีนอย่างเรื่องนี้มันจะแบบ สำนักไล่ผี มีความเท่ ๆ แบบแก๊ง ที่เดินกร่างทำพิธีกลางถนน แล้วแบบร่างทรงเทพจงขุยที่อยู่กลางขบวนนี่จะแบบ เท่มากอ่ะ คือเออผีร้าย ๆ มันต้องเจอฝ่ายธรรมะระดมพลแบบอเวนเจอร์ดิ ให้ความรู้สึกแบบพอฟัดกัน
แต่ก็ใช่ว่าหนังจะเป็นแบบนั้นทั้งเรื่องนะ มันก็สร้างสถานการณ์ให้ฝั่งตัวเอกหมอผี ทำพิธีเทพใหญ่ ๆ ไม่ได้แบบต้นเรื่องเพราะตำรวจตามมาไล่ (ฮ่า ๆ) พวกพี่แกเลยต้องออกมาแอบช่วยเหยื่อที่ถูกพรายมหาภูตตามล่าเอง ตรงนี้อาจคิดว่าเริ่มจะกลับมาคล้ายหนังเรื่องอื่น ๆ แล้ว แต่ป่าวเลย หมอผีบอกตัวเด็กสาวมีชะตาต้องช่วยตนเอง เลยแนะพิธีให้แล้วปล่อยเด็กสาวไปฟัดเอาเองตอนกลางเรื่อง
แล้วความสนุกแบบหนังผีจีนที่ไม่ค่อยมีในที่อื่นคือ พิธีกรรมจะสู้ผีต้องมีเงื่อนไขกำกับไว้ อย่างตอนขบวนแห่ตอนต้นก็บอกว่า ในพิธีไล่ผีห้ามบอกชื่อตัวเองเพราะผีจะตามมาฆ่า (เออคิดได้) พอหญิงสาวต้องทำพิธีไปโลกวิญญาณช่วยน้าตัวเองก็มีเงื่อนไขว่า ห้ามทำเทียนดับ และใครเรียกห้ามหันหลังไปมอง (อันนี้เชย ๆ หน่อยแต่ก็ยังทำงานกับคนดูอยู่ดี) คือพอมันมีกฎ มีเงื่อนไขกำกับ มันก็เป็นจุดอ่อนให้เราได้ลุ้นตลอดไง นี่ล่ะเคล็ดลับความสนุกที่หาจากที่อื่นยาก
สรุป นี่เป็นหนังผีไต้หวันอีกเรื่องที่คงผ่านมาและผ่านไป แต่กระนั้นก็ทิ้งความน่าสนใจไว้ให้เราดูหลายอย่าง ที่สำคัญสุดคือ ผีไทยที่ว่าเก่งที่สุดน่ากลัวที่สุด (ตามที่หนังว่า) มาอยู่ในหนังชาติอื่นมันจะเป็นอย่างไรกัน ดูเพลิน ๆ ฆ่าเวลา แบบไม่ต้องคาดหวังอะไรมากได้สนุกอยู่นะ