รีวิว หนัง The Marksman คนระห่ำ พันธุ์ระอุ
รีวิว หนัง The Marksman คนระห่ำ พันธุ์ระอุ ภาพยนตร์แอ็คชั่นแนวคาวบอยตะวันตก
หากพูดถึงภาพยนตร์แนว Action แล้วเราก็หลายคนนั้นก็อาจจะนึกถึงภาพยนตร์แนวคาวบอยเพราะการ Action ในภาพยนตร์แนวคาวบอยนั้นจะเต็มไปด้วยความดุเดือดและความดิบโหดสะใจ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบแฟชั่นแบบหนักแน่นเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์แนวคาวบอยตะวันตกนั้นอาจจะไม่ใช่แนวที่ถูกจริตกับคนส่วนใหญ่เท่าไรนัก เพราะการเล่าเรื่องและงานออกมานั้นค่อนข้างจะโหดร้ายและเต็มไปด้วยความรุนแรง ดังนั้นแน่นอนว่ามันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชนรวมไปถึงคนที่ขวัญอ่อน
ด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์ที่มีผู้รับชมค่อนข้างจะเฉพาะทางทำให้นานๆ ทีเราถึงจะเห็นภาพยนตร์แนวนี้ออกมาในภาพยนตร์เกรด A เพราะส่วนใหญ่แล้วภาพยนตร์แนวที่ไม่ได้มีคนนิยมมากมายนักมักจะทำเป็นภาพยนตร์เกรด B มากกว่า
และหากใครที่ต้องการจะรับชมภาพยนตร์แอ็คชั่นแนวคาวบอยตะวันตกเกรดเอที่กําลังจะเข้าฉายในเร็วๆ นี้แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง The Marksman ภาพยนตร์ที่ได้นักแสดอย่างเลียม นีสันมารับบทนำ ต้องบอกว่านักแสดงชายผู้นี้เต็มไปด้วยประสบการณ์การแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นและยังถือว่าเป็นเจ้าพ่อภาพยนตร์แนว Action อีกด้วย
ดังนั้นรับรองเลยว่าเราจะได้รับชมฝีมือการแสดงระดับขั้นเทพพร้อมกับการเล่าเรื่องการเต็มไปด้วยความดุเดือดและการต่อสู้ที่เมามันท่ามกลางสนามประลองในยุคคาวบอยตะวันตกที่เต็มไปด้วยความระทึกและความน่าติดตามอย่างแน่นอน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Marksman
The Marksman เล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของฟาร์มในเมืองแอริโซนาที่มีชื่อว่าจิม ชายผู้นี้ได้ยึดอาชีพเป็นคนทำฟาร์มเพราะเขานั้นค่อนข้างจะเก็บตัวและไม่อยากจะสุงสิงกับใคร อยากจะใช้ชีวิตแบบปลีกวิเวกอยู่คนเดียวตามลำพัง ไม่เพียงเท่านั้นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขานั้นไม่อยากจะส่งสิงกับใครเท่าไรนักก็เป็นเพราะเขานั้นถูกประกาศจับอยู่และทำให้ผู้คนนั้นต่างตามไล่ล่าจนทำให้เขาต้องหลีกหนีมาอาศัยอยู่ในพรมแดนที่ห่างไกลแห่งนี้แทน
อาชีพการทำฟาร์มจึงเป็นอาชีพที่เขาเลือกทำมาหากินเพื่อสร้างรายได้มาเลี้ยงชีพ แต่แทนที่เขานั้นจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมันกลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้เขานั้นต้องกลับมาต่อสู้อีกครั้ง นั่นก็เป็นเพราะว่าเด็กชายผู้ลี้ภัยวัย 11 ปีอย่างมิเกล พี่ได้หนีตามผู้เป็นแม่อย่างโรซ่ามาจากความตาย เนื่องจากพวกเขานั้นถูกกลุ่มมือสังหารซึ่งนำทีมโดยใช้ผู้เห*้ยมโหดอย่างเมาริซิโอคอยไล่ล่าอยู่
หญิงสาวผู้เป็นแม่นั้นพลาดท่าถูกกระสุนปืนยิงเข้าให้จนอาการสาหัส เธอนั้นได้พบเข้ากับทีมพอดีเธอจึงได้ร้องขอให้ชายผู้นี้นำลูกชายของเธอไปส่งยังเมืองชิคาโกเพื่อพบกับครอบครัวอย่างปลอดภัย ซาร่าเป็นลูกเลี้ยงของจb,นั้นไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่หญิงสาวร้องขอเพราะเธอเป็นห่วงด้านความปลอดภัยของผู้เป็นพ่อ แต่สุดท้ายแล้วจริงก็ยอมรับคำขอของเธอที่จะนำมิเกลไปส่งให้กับครอบครัวในชิคาโกในที่สุด
เพราะเหตุนี้ทำให้เขานั้นต้องปลุกเลือดนักสู้ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากการนำมิเกลไปส่งในตัวเมืองครั้งนี้ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย เพราะคนที่ไล่ล่าพวกเขานั้นมีทั้งกลุ่มมือสังหารและกลุ่มที่ต้องการจะจับตัวเขาไปส่งให้กับทางการตามประกาศจับ
พวกเขาจึงต้องพยายามและต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่จะสามารถเข้าไปในดินแดนสหรัฐได้สำเร็จอย่างปลอดภัย ระหว่างการเดินทางนั้นจึงทำให้สองหนุ่มต่างวัยรุ่นเกิดมิตรภาพร่วมกันขึ้นมาอย่างช้าๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป และมิเกลจะได้พบกับครอบครัวอย่างปลอดภัยหรือไม่ สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
ทำไมภาพยนตร์เรื่อง The Marksman จึงเลือกนำเสนอแบบภาพยนตร์คาวบอยตะวันตก
The Marksman เป็นภาพยนตร์แนวคาวบอยตะวันตกที่เล่าถึงเรื่องราวที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากภาพยนตร์แนวเดียวกันอยู่เยอะเลยทีเดียว เพราะปกติแล้วภาพยนตร์แนวนี้จะเล่าเรื่องถึงตัวเองที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้คนในบ้านป่าเมืองเถื่อนและพยายามต่อสู้เอาชนะกับเหล่าร้ายซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจ
แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวเอกของเราอย่างจิมนั้นก็ไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่นักเพราะเขาเองก็ถูกประกาศจับเช่นเดียวกัน มันจนกลายเป็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้กันระหว่างตัวร้าย 2 ตัวมากกว่า แต่ด้วยความที่เหตุผลการต่อสู้ของจิมนั้นค่อนข้างจะมีเหตุมีผลที่รับได้ ประเด็นในส่วนนี้จึงได้รับการผ่อนปรนลงไป
ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามที่จะสะท้อนและนำเสนอความสมจริงในการใช้ชีวิตในยุคคาวบอยตะวันตกให้ออกมาสนุกและเต็มไปด้วยความดุเดือดในการต่อสู้มากที่สุด พวกเขาจึงได้เลือกที่จะให้ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้มีการทำเรื่องผิดบาปมาก่อน และการเดินทางครั้งนี้ก็เปรียบเสมือนกับการไถ่บาปของเขา
ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้มันจึงไม่ได้มีเพียงแค่ชั้นแบบโหดดิบดาดๆ เท่านั้น เพราะนอกจากมันจะให้ความสนุกสนานในด้านการต่อสู้แล้วมันยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่แฝงข้อคิดมากมายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนเรา ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกเล่าเรื่องในแนวทางที่ฉลาดเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าตัวเอกของเราจะเคยทำเรื่องผิดบาปมาก่อนแต่เรานั้นก็จะรู้สึกเกลียดเขาไม่ลงและเอาใจช่วยอยู่ดี
ตัวอย่างหนัง The Marksman คนระห่ำ พันธุ์ระอุ
หนัง The Marksman คนระห่ำ พันธุ์ระอุ
วันนี้ เลียม นีสัน ในวัย 69 ปี ก็ยังคงยืนหยัดในตำแหน่งพระเอกหนังแอ็กชันแถวหน้าของฮอลลีวูด และน่าจะเดินหน้าในเส้นทางนี้ไปจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว เพราะเท่าที่เห็นในเครดิตขณะนี้ หลังจาก The Marksman เรื่องนี้แล้ว ลุงเลียมมีหนังในอนาคตอีก 5 เรื่อง และ 3 ใน 5 เรื่องนั้นคือ หนังแอ็กชัน
ส่วนใน The Marksman นั้น เลียม นีสัน มาในมาดเดิม ๆ และเป็นมาดที่เราคุ้นตากับหนังแอ็กชันส่วนใหญ่คืออดีตทหารผ่านศึกที่หันมาใช้ชีวิตสงบด้วยการเป็นชาวไร่ แล้วสถานการณ์บังคับให้เขาต้องกลับไปพะบู๊อีกครั้ง และ จิม แฮนสัน บทของ เลียม นีสัน ในเรื่องนี้ก็มาตามแบบพิมพ์นิยมนี้เป๊ะ ๆ หนังแนะนำให้เรารู้จักลุงจิม เฮนสัน ว่าเป็นคุณลุงมากคุณธรรม ทำฟาร์มเลี้ยงวัวอยู่ในรัฐอริโซนา เมืองชายแดนเม็กซิโก ชีวิตมาตกระกำลำบากเอาในบั้นปลาย เมื่อเมียป่วยเป็นมะเร็ง ต้องเอาฟาร์มไปจำนองเอาเงินมารักษาเมีย แต่เมียก็ชิงตายไปทิ้งลุงจิมให้อยู่กับหมา 1 ตัวไปวัน ๆ ด้วยเหตุที่ว่าฟาร์มของลุงอยู่ติดชายแดนเม็กซิโก แกจึงเห็นพวกลับลอบเข้าเมืองบ่อย ๆ ซาราห์ลูกสาวลุงก็ทำงานเป็น ตม. แกก็คอยวอแจ้งลูกสาวให้มาจับพวกลับลอบเข้าเมืองอยูเนือง ๆ
วิกฤตของเรื่องเริ่มต้นเมื่อลุงจิมเจอแม่กับลูกชายมุดรั้วข้ามแดนมา มีแก๊งค้ายา 3 คนไล่ตามมาติด ๆ ลุงจิมเห็นท่าไม่ดีมากั้นฉากระหว่างแม่ลูกกับชาวแก๊ง และปฏิเสธที่จะส่งมอบแม่ลูกให้กับชาวแก๊ง เกิดเหตุยิงปะทะกัน ลุงจิมยิงฝ่ายนู้นเดี้ยงไปคน ฝ่ายนี้ตัวแม่โดนลูกหลง จากนั้นเรื่องก็เดินไปตามพล็อตสุดฮิตที่คาดเดาได้เลย มิเกลเด็กน้อยวัยประมาณ 12 กลายเป็นภาระของลุงจิม ที่ต้องพากันระหกระเหินเดินทางไกลเพื่อพามิเกลไปส่งให้ญาติที่ชิคาโก แล้วก็ต้องหนีการตามไล่ล่าของแก๊งค้ายา ที่นอกจากจะตามตัวมิเกลแล้ว ยังมีความแค้นส่วนตัวกับลุงจิมอีกด้วย
ดูตามพล็อตแล้วก็น่าจะเป็นหนังไล่ล่าสุดระทึกอยู่หรอก แต่มาติดที่ว่าคนเขียนบทพยายามจะเพิ่มสัดส่วนของดราม่าให้กับหนัง ด้วยการขับเน้นความสัมพันธ์ต่างสายเลือดของลุงจิมกับมิเกลนี้ล่ะ มองในเรื่องด้านการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวละครนี้ก็โอเคดีอยู่หรอก จากที่มิเกลตึงใส่ก็เริ่มลดกำแพง เปิดใจแล้วพูดคุยกับลุงจิมมากขึ้น แต่กลับไม่ได้รู้สึกอินไปกับความผูกพันของลุงหลานคู่นี้เลย แต่ถ้าเปรียบเทียบกัน กับแจ็กสันเจ้าหมาแสนรู้ของลุงจิม กลับมีซีนเท่ ๆ ได้ใจคนดูอยู่หลายครั้ง จนรู้สึกกังวลเป็นห่วงกับสวัสดิภาพของแจ็กสันอยู่หลายครั้ง
อีก 1 ตัวละครสำคัญก็คือ เมาริซิโอ บทของ ฆวน พาโบล ราบลา ในฐานะวายร้ายสุดโหดของเรื่อง ที่ปูที่ไปที่มาดีมาก คนดูได้เห็นความโหดของเมาริซิโอตั้งแต่ต้นเรื่องและตลอดทั้งเรื่อง ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา แม้ว่าฆวนยังไม่สามารถสร้างรังสีอำมหิตให้สัมผัสได้ แต่ก็พอทำให้เรื่องราวของหนังเดินหน้าไปอย่างมีสีสัน ทำให้ต้องตามลุ้นว่าลุงจิมกับหลานมิเกลจะหนีรอดเมาริซิโอได้พ้นหรือไม่
แม้ว่าเส้นเรื่องจะเบสิคสุด ๆ แต่ก็เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้ได้ผลกับหนังแอ็กชันที่ผ่าน ๆ มา ถ้าบทสามารถเพิ่มน้ำหนักตัวละคร ใส่รายละเอียดลงไปในเรื่องราวระหว่างทางได้แน่นและมีเหตุมีผลพอ แต่ประเด็นคือมันไม่เป็นอย่างนั้นนี่สิ บทภาพยนตร์ The Marksman เป็นงานเขียนร่วมกันของ 3 คน โรเบิร์ต โลเรนซ์ ผู้กำกับที่มาร่วมเขียนด้วย และ คริส ชาร์ล กับ แดนนี่ คราวิตซ์ พอกดดูเครดิตของทั้ง 3 แล้วก็โอ้ว ไม่เคยเขียนบทภาพยนตร์กันมาเลยสักคนเดียว เรื่องนี้คือผลงานประเดิมเรื่องแรกของทั้ง 3 คน ซึ่งตัวหนังมันก็ส่อให้รู้สึกได้ถึงความเป็นมือใหม่ของนักเขียนได้เลย เพราะเส้นเรื่องนั้นเต็มไปด้วยความบังเอิญซ้ำแล้วซ้ำอีก หนังเริ่มต้นด้วยความบังเอิญที่ลุงจิมไปเจอแม่ลูกคู่นี้ แล้วตลอดการไล่ล่าระยะทาง 2,6xx กิโลเมตร เมาริซิโอก็บังเอิญเจอลุงจิมได้อยู่หลายครั้ง แม้กระทั่งฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง ก็ยังเกิดขึ้นได้เพราะความบังเอิญ เขียน ๆ บทไป คงนึกขึ้นได้ว่าหนังยังขาดแคลนตัวละครหญิง ก็เลยต้องใส่ ซาราห์ ลูกสาวของลุงจิมเข้าไป ซึ่งไม่มีบทบาทความสำคัญกับหนังเลยแม้แต่น้อย เสียดายที่ได้สุดสวย แคตเทอรีน วินนิก นางเอกจากซีรีส์ Viking มารับบทแบบไม่มีอะไรให้จดจำเลย
สรุป The Marksman เป็นหนังแอ็กชันขายชื่อ เลียม นีสัน ที่พอดูให้หายคิดถึงได้ เรื่องราว 100 นาทีเดินหน้าไปอย่างน่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีฉากไหน ให้ประทับใจ ดูจบแล้วก็ลืม ๆ ไป คุณภาพพอ ๆ กับหนังดีวีดี ถ้าไล่อันดับหนังไม่ควรพลาดของ เลียม นีสัน Marksman ก็อยู่ในอันดับท้าย ๆ ตารางนั่นแหละ พลาดไปก็ไม่น่าเสียดายครับ