รีวิว หนัง THE GRAY MAN
รีวิว หนัง THE GRAY MAN ภาพยนตร์จาก NETFLIX ที่ท่าดีแต่ทีเหลว
ตั้งแต่ NETFLIX ก้าวขึ้นมากลายเป็นบริษัท STREAMING ยักษ์ใหญ่ของโลกพวกเขาก็สามารถกวาดรายได้ไปเป็นจำนวนมหาศาลและเริ่มเบิกทางสู่ธุรกิจใหม่ที่เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม จากปกติที่มักจะซื้อลิขสิทธิ์สื่อชื่อดังในแต่ละประเทศมาออกฉายบนแพลตฟอร์มของตัวเองพวกเขาก็เริ่มผลิตสื่อเป็นของตัวเองมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ภาพยนตร์ หรือแม้แต่อนิเมชั่นก็ตาม บางเรื่องสามารถทำออกมาได้อย่างน่าสนใจและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่บางเรื่องกลับทำออกมาได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ จนตอนนี้ภาพยนตร์ ORIGINAL จากทาง NETFLIX เริ่มกลายเป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์แนว MASS แต่ตกมาตรฐานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง THE GRAY MAN ภาพยนตร์ที่ได้ผู้กำกับชื่อดังอย่างพี่น้องรุสโซมานั่งแท่นกำกับด้วยตัวเอง แถมนักแสดงนำนั้นยังได้นักแสดงชื่อดังระดับฮอลลีวูดอย่างไรอัน กรอสลิ่งและคริส อีแวนส์รับบทนำอีกด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลของภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมีดีเพียงแค่ฉากการต่อสู้ใหญ่แถวกลางเรื่องเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจหรือน่าดึงดูดมากพอที่จะทำให้ผู้รับชมรู้สึกอยากจะดูต่อเลยแม้แต่น้อย
สุดท้ายแล้วมันจึงกลายเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์สายลับสูตรสำเร็จที่ทำออกมาเหมือนกับรีบส่งการบ้าน ไม่มีอะไรที่หักมุมหรือพลิกแพลงเลยแม้แต่น้อยแถมยังดูเชยสุดๆ อีกด้วย ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่มันดัดแปลงมาจากนวนิยายเก่าที่ออกมาให้เราอ่านเมื่อ 18 ปีที่แล้ว เลยทำให้บรรยากาศภายในภาพยนตร์ดูเฉยไปด้วย แต่ทั้งที่ได้นักแสดงนำหน้าฝีมือลงไปถือผู้กำกับมือดีมาแบกภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งเรื่อง การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาน่าผิดหวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย สำหรับใครที่สนใจวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเรื่องราวอย่างไรและคู่ควรแก่การรับชมหรือไม่กัน
หนัง netflix แนะนํา 2022 พากย์ไทย
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE GRAY MAN
THE GRAY MAN เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของอดีตเจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งที่มีชื่อว่าคอร์ท เจนทรี่ ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักในฐานะของชายล่องหนในชื่อเซียร่าซิกซ์ ที่มาของชื่อเนื่องจากเขาเป็นนักฆ่ารับหมายเลข 6 ในโครงการลับของรัฐบาลภายใต้การดึงตัวของอดีตหัวหน้าเขามาจากเรือนจำกลางเพื่อนร่วมงานด้วยกัน
เขาเป็นนักฆ่าฝีมือดีที่เก่งที่สุดในโครงการก็ว่าได้ แต่ในวันหนึ่งเขาดันได้รับภารกิจให้ไปสังหารนักฆ่าในโครงการเดียวกันรวมไปถึงผู้ควบคุมโครงการดังกล่าวที่มีความลับปกปิดอยู่ เขาจึงต้องการที่จะค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับโครงการลับดังกล่าวกันแน่ แต่ความสอดรู้สอดเห็นกลับทำให้เขาถูกทีมนักฆ่าคนอื่นไล่ล่าโดยอัตโนมัติ
สถานการณ์ในตอนนี้พลิกผันจากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาถูกจับตามองจากทุกแห่งบนโลกใบนี้จากการสั่งการของอดีตเพื่อนร่วมงาน CIA อย่างลอยด์ แฮนเซ่นที่พยายามจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเขาให้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามโชคดีที่ยังมีเจ้าหน้าที่มิแรนด้าคอยให้ความช่วยเหลือเขาอยู่ตลอดเมื่อเขาต้องการ เขาจึงต้องพยายามสืบหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้สำเร็จพร้อมทั้งหลบหนีการไล่ล่าของบรรดานักฆ่ามากฝีมือ แล้วยังต้องช่วยเหลือผู้มีพระคุณในอดีตของตนเองอีกด้วย
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE GRAY MAN
THE GRAY MAN เป็นภาพยนตร์ที่ในตอนแรกนั้นถูกวางแผนเอาไว้ว่าจะได้สร้างเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์ภาคต่อหากินกันไปแบบยาวๆ เนื่องจากภาพแรกได้นักแสดงชื่อดังมาสวมบทบาทซึ่งน่าจะเรียกความสนใจให้กับบรรดาแฟนคลับได้เป็นอย่างดี และผู้กำกับเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่ยังเป็นสองพี่น้องฝีมือดีอย่างรุสโซ่อีกด้วย มันจึงควรที่จะออกมายอดเยี่ยมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉบับนวนิยายเองก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนยอดขายถล่มทลาย แต่กลับกลายเป็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดันมีปัญหาตั้งแต่ภาคแรกอย่างน่าเสียดาย ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่นวนิยายค่อนข้างเก่าทำให้เนื้อเรื่องออกมาเชย มีความเป็นภาพยนตร์นักฆ่าสูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรน่าสนใจหรือแปลกใหม่พอจะดึงดูดผู้รับชมในยุคปัจจุบัน
แต่ที่น่าเสียดายไปมากกว่านั้นก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้แทบจะไม่มีอะไรที่ออกไปนอกกรอบเพื่อความน่าสนใจเลยแม้แต่น้อยและยังไม่มีจุดหักมุมที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอีกด้วย กลายเป็นภาพยนตร์แนวสายลับที่มีดีเพียงแค่ฉากต่อสู้บางตอนนอกนั้นก็ดำเนินเรื่องราวแบบเส้นตรงทื่อๆ เสียอย่างนั้น สำหรับคนที่รับชมภาพยนตร์แนวสายลับมาเยอะพอมารับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มันจึงทำให้รู้สึกเบื่อได้ไม่ยากเพราะเราสามารถเดาตอนต่อไปได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่พอจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสนุกมากขึ้นก็คือฉากการต่อสู้ที่มีความเล่นใหญ่โดยการถ่ายในกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็กในช่วงกลางเรื่องซึ่งสามารถทำออกมาได้อย่างโดดเด่นและใหญ่โตสมการรอคอย แต่นอกจากนั้นฉากไคลแม็กซ์ก็ไม่ได้มีอะไรให้น่าพูดถึงหรือน่าสนใจเท่าที่ควร และนอกจากนี้มันยังมีอะไรไม่สมเหตุสมผลอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นในฉากการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นการถูกระดมยิงจากเหล่านักฆ่าที่ถูกส่งมาในเมืองแบบสะเปะสะปะไม่สนว่าใครจะตาย ขอเพียงแค่ค่าพระเอกได้ก็พอ ยังไม่รวมไปถึงฉากการไล่ล่าบนรถรางกลางเมืองที่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นนักฆ่าจากหน่วยงานรัฐบาลจริงก็คงจะไม่ทำงานโจ่งแจ้งถึงขนาดนี้