รีวิว หนัง SONGBIRD Netflix
รีวิว หนัง SONGBIRD Netflix ภาพยนตร์ที่จะเล่าเรื่องราวเมื่อโควิตกลายพันธุ์
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั้นดำเนินมาอย่างยาวนานเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้วที่เราทุกคนทั่วทั้งโลกต่างพยายามต่อสู้กับมันไม่ว่าจะเป็นการออกมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดรวมไปถึงการคิดค้นวัคซีนที่ในปัจจุบันนี้แม้ว่าจะฉีดแล้วก็ยังสามารถป้องกันได้เพียงแค่ไม่ให้อาการหนักจนถึงเสียชีวิต แต่ก็ไม่ได้ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ แต่อย่างใดเรายังคงอยู่ในโลกที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันใหม่ทั้งหมดอย่างน่าเหลือเชื่อภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นและแน่นอนว่าไวรัสเป็นสิ่งที่มีวิวัฒนาการเมื่อพวกมันถูกมนุษย์ต่อสู้พวกมันก็ยังมีวัฒนาการตัวเองให้มีความร้ายกาจ
และความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นในปัจจุบันเราจึงจะเห็นได้ว่ามีโควิตออกมาหลากหลายสายพันธุ์ที่วัคซีนแทบจะพัฒนาตามไม่ทันอยู่แล้วลองจินตนาการดูว่าจะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเราอยู่ในสถานะที่ใกล้จะพ่ายแพ้เชื้อไวรัสดังกล่าวเต็มทน SONGBIRD เป็นภาพยนตร์ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดบน Netflix ในขณะนี้ที่จะให้คำตอบถึงคำถามที่เราตั้งไปเมื่อสักครู่เพราะมันเป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเชื้อไวรัส Cavid-19 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างร้ายแรง
และมีการกลายพันธุ์ในอนาคตจนมนุษย์แทบจะไม่สามารถรับมือได้สำเร็จอะไรที่เราคิดว่าเป็นหายนะที่เราพบเจออยู่ในขณะนี้เรียกได้ว่าแทบจะไม่สามารถเทียบได้เลยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์แม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์สมมติในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นจริงหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามเราหวังว่าเหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง SONGBIRD
SONGBIRD เป็นภาพยนตร์ที่จะพาเราไปยังโลกอนาคตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในปี 2024 เชื้อไวรัส Covid-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันได้มีการกลายพันธุ์เป็นเชื้อไวรัสโควิค -23 แทนมันทวีความร้ายแรงและกลายพันธุ์หนักกว่าตอนที่เชื้อไวรัส Corid-19 แพร่ระบาดไปทั่วทั้งโลกอีกหลังจากที่หลายประเทศบอบช้ำจากโรคระบาดมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปีทำให้รัฐบาลในหลายประเทศไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไปจึงต้องมีการประกาศใช้มาตรการขั้นสูงสุดหลังจากที่เชื้อไวรัสดังกล่าวนี้ได้ทำการปลิดชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมากกว่า 10 ล้านรายทั่วทั้งโลก
อย่างไรก็ตามมีคนบางกลุ่มเช่นเดียวกันที่ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสดังกล่าวเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันหนึ่งในนั้นก็คือชายหนุ่มที่มีชื่อว่านิโกเหมือนว่าเขานั้นจะเป็นผู้โชคดี แต่ความจริงแล้วหายนะกำลังจะเกิดขึ้นกับเขาเนื่องจากแฟนสาวของเขาที่มีชื่อว่าซาร่ากำลังตกที่นั่งลำบากทั้งสองคนไม่เคยได้มีโอกาสเจอกันอีกเลยนับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเกิดขึ้นตั้งแต่แรกจนถึงตอนนีซาร่าหนังไม่ได้มีภูมิคุ้มกัน แต่อย่างใดแถมเธอยังเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าที่กำลังจะจับเธอถึงที่พักเพื่อไปยังค่ายกักกันผู้ป่วยที่เปรียบเสมือนกับนรกรอวันตายเท่านั้นทั้งที่เธอเป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ
หากเธอติดเชื้อจริงอย่างไรมันก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเธอไม่ติดเชื้อการเข้าไปอยู่ในค่ายกักกันผู้ป่วยก็เท่ากับส่งเธอไปตายนิโกนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องรีบเดินทางไปช่วยเหลือแฟนสาวให้สำเร็จ แต่มันก็ไม่ง่ายเพราะตอนนี้ทั่วทั้งโลกนั้นยกเลิกการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาไม่มีสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินรถบัสหรือแม้กระทั่งรถประจำทางได้สิ่งเดียวที่จะช่วยให้เขาสามารถไปช่วยแฟนสาวได้สำเร็จทันเวลาก็คือการปั่นจักรยานเขาจะสามารถปั่นจักรยานไปช่วยแฟนสาวได้ทันหรือไม่เพราะเวลาที่เริ่มกระชั้นชิดมากขึ้นทุกทีเราต้องติดตามลุ้นเอาใจช่วยเขาต่อไปในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง SONGBIRD
SONGBIRD เป็นภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างจะบ้าระห่ำไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะในช่วงเวลาที่ Cavid-19 แพร่ระบาดภาพยนตร์หลายเรื่องต้องชะงักการถ่ายทําภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากโรงภาพยนตร์ปิดท่ามกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความเงียบเชียบกลายเป็นไอเดียให้กับผู้กำกับอย่างไมเคิลเบย์ในการสร้างมันเลยทำให้ภาพยนตร์มีบรรยากาศที่สมจริงเป็นอย่างมากเนื่องจากถ่ายทำในช่วงเวลาที่มีการแพร่ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาระบาดของเชื้อไวรัสจริง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าสามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวแม้ว่าจะมีเวลาถ่ายทำเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นก็ตามด้วยความที่เรื่องราวนั้นใกล้ตัวเราเป็นอย่างมากแถมยังเป็นเรื่องที่ทุกคนทั้งโลกต่างก็เผชิญกับเหตุการณ์จริงร่วมกันมาแล้วมันทำให้เรานั้นเข้าใจถึงความสิ้นหวังและความหดหูในภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดีและที่หน้าสนใจไปมากกว่านั้นคือมันทำให้เราเข้าใจถึงเหตุผลของรัฐบาลหรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่มีความพยายามในการยับยั้งการแพร่ระบาด
แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างโหดร้ายก็ตามเรื่องราวทั้งหมดจึงเป็นการผสมผสานกันระหว่างบรรยากาศโลกล่มสลายท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมีความไซไฟนิด ๆ และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือความโรแมนติกที่สามารถผสมผสานเข้ามาได้อย่างกำลังพอดีเป็นภาพยนตร์ที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองรับชมดูรับรองเลยว่าคุณจะได้ทั้งความสนุกสนานและความตื่นเต้นลุ้นระทึกตลอดเวลาอย่างแน่นอน
ตัวอย่างหนัง SONGBIRD
รีวิว หนัง SONGBIRD บางส่วนจาก beartai
ในโลกอนาคตปี 2024 เมื่อไวรัสโควิด 23 ระบาดร้ายแรงเริ่มกลายพันธุ์ และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 110 ล้านรายทั่วโลก แต่แล้วหายนะก็บังเกิดกับ นิโก (เคเจ อาปา) ชายหนุ่มผู้มีภูมิคุ้มกัน เมื่อ ซารา (โซเฟีย คาร์สัน) แฟนสาวของเขาที่ไม่เคยมีโอกาสเจอกันอีกเลยนับตั้งแต่เกิดเหตุไวรัสระบาด กำลังจะถูกเจ้าหน้าที่บุกมาถึงที่พักภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกต้องสงสัยว่าติดเชื้อ นิโกจึงต้องรีบเดินทางฝ่ามฤตยูไวรัสล้างโลกนี้ พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยซาร่าให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ปี2020 (และน่าจะปีนี้ด้วย) เป็นปีแห่งความวิปโยคโศกศัลย์และฉิบหายวายป่วงของวงการภาพยนตร์จริง ๆ ครับ ไม่น่าเชื่อว่า โควิด-19 จากไวรัสตัวหนึ่งจะทำให้ทั้งวงการภาพยนตร์ต้องชะงักตั้งแต่การถ่ายทำ ส่วนเรื่องไหนที่ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ต้องมาสะดุดเพราะโรงหนังปิด หรือไม่ถ้ากัดฟันฝีนฉาย ก็มีโอกาสเสี่ยงเจ๊งไม่คุ้มทุนอีก เพราะคนดูไม่ค่อยกล้าออกไปนั่งในโรงหนัง คือเรียกได้ว่าง่อยเปลี้ยกันทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลย
แต่แม้คนในอุตสาหกรรมหนังหลายคนจะขยาดกับโควิด-19 มากแค่ไหน แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่นำโดยผู้อำนวยการสร้างชื่อดังอย่างไมเคิล เบย์ ผู้กำกับ Armageddon (1998), Pearl Harbor (2001), The Purge (2013) และแฟรนไชส์หุ่นยนต์ตีกัน Transformers (2007-2017) คือไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแกคิดยังไงนะครับ เพราะช่วงโควิดระบาด แทนที่พี่เบย์จะหยุดพักกองในช่วงล็อกดาวน์เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดโควิด พี่แกดันอยากใช้เมืองลอสแองเจลิสที่กำลังเงียบเชียบจากมาตรการล็อกดาวน์ในปีที่แล้ว เป็นโลเกชันหลัก ๆ ในการถ่ายทำและเป็นฉากดำเนินเรื่อง เพื่อให้ได้บรรยากาศล็อกดาวน์ที่สมจริงสมจัง
แต่แน่นอนแหละ ใครมันจะไปอนุญาต 555 จนกระทั่งในที่สุด ทีมงานก็ได้อนุญาตให้ถ่ายทำ โดยทีมงานได้เลือกลอสแองเจลิสเป็นสถานที่เดียวในการถ่ายทำ และใช้เวลาถ่ายทำเพียง 4 เดือน เรียกได้ว่ากลายเป็นหนังเรื่องแรก ๆ เลยที่ถ่ายเสร็จหลังช่วงการล็อกดาวน์ โชคยังดีที่ไม่มีใครในกองถ่ายหนังเรื่องนี้ชิงติดโควิด-19 ไปก่อนที่โควิด 23 จะมาถึงจริง ๆ
พล็อตสั้น ๆ ของหนังเรื่อง “นกร้องเพลง” ก็คือโลกในอีก 3-4 ข้างหน้านี่แหละครับ ในปี 2024 แน่นอนว่าเชื้อไวรัสโควิดยังคงอยู่ แถมทะลึ่งกลายพันธ์ุในชื่อใหม่ว่า โควิด-23 ที่ร้ายแรงกว่าเดิม คนตายไปนับร้อยล้านคน ก็เลยต้องประกาศล็อกดาวน์และการใช้เคอร์ฟิว จำกัดพื้นที่ คนติดเชื้อต้องถูกควบคุมตัวส่งไปอยู่ในคิวโซน ค่ายกักกันแบบปิดตาย รวมถึงห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานโดยไม่จำเป็น คนที่มีภูมิต้านทานโควิด 23 ที่มีป้ายข้อมือสีเหลืองที่มีแถบเก็บข้อมูลดิจิทัลเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ออกนอกบ้าน หรือนอกพื้นที่ได้ และรัฐบาลมีสิทธิ์ใช้มาตรการรุนแรงเข้าปราบปรามอย่างเด็ดขาดได้ทุกเมื่อสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน
ตัวละครหลักของเรื่องก็คือไอ้หนุ่มนิโก พนักงานส่งของด้วยจักรยานผู้มีภูมิต้านทานไวรัส ที่ได้พบรักกับซารา หญิงสาวในอพาร์ตเมนต์ที่อาศัยอยู่กับยาย แต่ทั้งคู่ไม่สามารถออกมาเจอกัน หรือมีสัมพันธ์ทางกายได้อีกเลยนับจากประกาศล็อกดาวน์ จนเมื่อวันหนึ่ง ซาราถูกสงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด 23 นิโกจึงต้องหาทางช่วยซาราให้รอดพ้นจากเงื้อมมือการควบคุมของภาครัฐที่โคตรเข้มงวด หนีออกไปจากลอสแองเจลิสให้ได้ พร้อมกับต้องเผชิญกับสถานการณ์กดดันของการไล่ล่า การควบคุม และเชื้อโควิด 23 ที่ร้ายแรงในระดับที่ถ้าติดก็ทำใจได้เลยว่าต้องตายแน่ ๆ ภายใน 48 ชั่วโมง