รีวิว หนัง SKYLIN3S สงครามถล่มจักรวาล
รีวิว หนัง SKYLIN3S สงครามถล่มจักรวาล การกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์แนวสงครามจักรวาล
ภาพยนตร์แนวไซไฟนั้นได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่เทคโนโลยีสามารถพัฒนาให้อุตสาหกรรมบันเทิงนั้นสามารถสร้างสรรค์งานภาพที่เต็มไปด้วยเรื่องจินตนาการเหลือเชื่อได้ ด้วยพลังของงาน Visual effect และการทำอนิเมชั่นที่สามารถทำให้เราได้เห็นงานภาพเหนือจินตนาการได้อย่างสมจริง
ส่วนหนึ่งที่มันได้รับความนิยมนั้นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นภาพยนตร์แนวที่เราจะได้รับชมเฉพาะในภาพยนตร์เท่านั้นไม่สามารถเห็นได้ในชีวิตจริง เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ก็จริงแต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นมีน้อยมาก และที่สำคัญภาพยนตร์เหล่านี้ยังทุ่มทุนสร้างในการพยายามทำให้เรื่องในจินตนาการออกมาได้อย่างสมจริงมากที่สุด
หลายคนจึงรู้สึกคุ้มค่ากับการรับชมภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเทคนิคมากมาย และเมื่อพูดถึงไซไฟ สิ่งที่เราจะต้องนึกถึงนั้นแน่นอนว่าย่อมอยู่ในอวกาศ หากคิดว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่แล้วอวกาศนั้นช่างกว้างใหญ่มากกว่า กว้างใหญ่เสียจนเราอดคิดไม่ได้ว่าบนอวกาศนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดอาศัยอยู่หรือไม่ และหากพวกมันรู้ถึงการมีอยู่ของมนุษย์อย่างเราพวกมันจะตัดสินใจทำอย่างไร
ด้วยเหตุนี้ทำให้เรานั้นมักจะเห็นภาพยนตร์แนวไซไฟทำออกมาเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือสงครามในอวกาศ และด้วยความที่ภาพยนตร์ยุคบุกเบิกเกี่ยวกับสงครามอวกาศอย่างสตาร์วอร์นั้นได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนกลายเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบันและยังคงขายได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์นั้นก็มีความใฝ่ฝันที่จะสร้างตำนานบทใหม่ขึ้นมาเช่นเดียวกัน
หนึ่งในนั้นก็คือทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง SKYLIN3S ที่เดินทางมาจนถึงไตรภาคเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการจะสร้างภาพยนตร์แนวนี้จำเป็นจะต้องใช้ทุนมหาศาลเพื่อที่งาน Visual effect และอนิเมชั่นจะออกมามีความสมจริงมากที่สุด แต่ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องนี้กลับเป็นภาพยนตร์เกรดบีที่มีทุนสร้างไม่ได้สูงอะไรมากมายนัก จะบอกว่าภาพยนตร์ชุดนี้เป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำก็ว่าได้ แม้ว่าเรื่องราวและเอฟเฟคจะไม่ได้ทำให้เราตื่นตาตื่นใจขนาดนั้น แต่สำหรับใครที่เคยรับชมภาค 1 และภาค 2 มาก่อน และต้องการจะรู้เรื่องราวต่อไป การเข้าไปรับชมก็ไม่ได้เสียหายนัก
เรื่องย่อภาพยนตร์เรื่อง SKYLIN3S
SKYLIN3S จะเล่าถึงเรื่องราวย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วผู้รับชมนั้นได้ทวนความทรงจำของภาพยนตร์ในภาค 1 และภาค 2 โดยจะเริ่มตั้งแต่เรื่องราวที่มีมนุษย์ต่างดาวบุกเข้ามายังโลกใบนี้ และยังพาให้ทุกคนนั้นได้รู้จักกับลูกครึ่งมนุษย์เอเลี่ยนที่มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดาทั่วไป เธอนั้นมีชื่อว่าโรส แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นโชคดีที่เธอนั้นได้มีพลังวิเศษท่ามกลางการใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่เธอนั้นก็ต้องแลกมากับการที่ร่างกายเจริญเติบโตรวดเร็วผิดปกติ
และยิ่งเธอใช้พลังเป็นจำนวนมากเท่าไหร่ร่างกายของเธอนั้นก็แก่ลงมากขึ้นเท่านั้น หลังจากนั้นภาพยนตร์ก็จะตัดเข้ามาสู่ช่วงปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์นั้นต้องเผชิญกับการที่มนุษย์ต่างดาวบุกเข้ามารุกรานโลกเป็นเวลานานหลายปี แม้ว่าจะดูเหมือนสิ้นหวังแต่สุดท้ายเรื่องราวก็ดีขึ้นตามลำดับ
เพราะเหล่ามนุษย์ต่างดาวที่เหมือนนักฆ่าที่มาจากต่างโลกนั้นได้ทำการเปลี่ยนแปลงและกลายพันธุ์ตัวเองให้สามารถอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ได้อย่างไร้ข้อจำกัด และพวกมันก็เลือกที่จะอาศัยอยู่กับมนุษย์อย่างสงบสุข แต่แล้วเรื่องราวก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้งเมื่อโลกต้องเผชิญกับไวรัสตัวร้ายที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงความสงบสุขทุกอย่างให้กลายเป็นความโกลาหลอีกครั้ง
เมื่อไวรัสเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายของเหล่ามนุษย์ต่างดาวแล้วทำให้มนุษย์ต่างดาวพวกนี้กลับมาไล่ล่ามนุษย์อีกครั้งและไม่สามารถหยุดตัวเองได้ ทำให้โรสซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นกัปตันน้องฟอร์มทีมทหารที่เต็มไปด้วยความสามารถออกมาปฏิบัติภารกิจเพื่อกอบกู้ความสงบสุขกลับคืนมายังโลกอีกครั้งด้วยการไปยังดาวเคราะห์ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของมนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้ สุดท้ายแล้วเธอจะสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จหรือไม่สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
รีวิวภาพยนตร์เรื่อง SKYLIN3S
SKYLIN3S แม้ว่าจะถูกตราหน้าว่าเป็นภาพยนตร์เกรด B ที่ใช้ทุนสร้างต่ำ แต่ในภาคนี้ถือว่าสามารถยกระดับงานภาพได้เป็นอย่างดี เรานั้นจะได้เห็นฉากสุดตระการตาในภาพยนตร์ งาน CG และ Visual effects นั้นสามารถทำออกมาได้สมจริงมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องงานภาพเพราะมันดีกว่า 2 ภาคแรกเป็นอย่างมาก
และสำหรับใครที่อยากจะยังไม่เคยรับชมภาพยนตร์ในภาค 1 และภาค 2 มาก่อนนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะรับชมไม่รู้เรื่อง เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีการเกริ่นเล่าเรื่องราวในภาคก่อนให้เรานั้นได้รื้อฟื้นความทรงจำหรือสามารถติดตามเรื่องราวได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องไปรับชมภาคก่อนๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าภาค 1 นั้นออกฉายตั้งแต่ในปี 2010 ซึ่งเป็นเวลานานพอสมควร ทำให้ทีมผู้สร้างในภาคนี้จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องราวย้อนอดีตให้เราได้รู้เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปก่อน
ในภาคนี้ส่วนใหญ่ของเรื่องราวนั้นจะอยู่บนอวกาศมากกว่าการต่อสู้บนโลกกับเอเลี่ยน ทำให้ความเป็นสายไฟของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกระดับมากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่ตัวบทและเรื่องราวของภาพยนตร์นั้นค่อนข้างเชยทำให้เราสามารถเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในฉากถัดไปได้ง่ายๆ
หากคุณคาดหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีการต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวแบบดุเดือดเมามันส์เหมือนในภาคก่อนนั้นต้องขอบอกว่าในภาคนี้เรื่องราวส่วนใหญ่จะไม่ได้เน้นไปที่การ Action เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะมีการเล่าถึงเรื่องราวการเดินทางและการวางกลยุทธ์ในการต่อสู้มากยิ่งขึ้น ฉากต่อสู้นั้นก็มีการออกแบบมาให้มีอะไรมากขึ้นไม่ใช่เพียงแค่การถือปืนมายิงถล่มอย่างเดียว แต่มีการสอดแทรกศิลปะการป้องกันตัวเข้าไปด้วยทำให้ฉากต่อสู้นั้นดูสนุกมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างหนัง SKYLIN3S สงครามถล่มจักรวาล
หนัง SKYLIN3S สงครามถล่มจักรวาล
ในตอนที่หนังไซไฟฟอร์มรองหรืออาจจะเรียกว่าหนังเกรด B อย่าง Skyline (2010) เข้าฉายเมื่อ 11 ปีก่อน แฟนหนังคงไม่นึกว่า หนังจะประสบความสำเร็จขนาดมีภาค 2 และ 3 ตามมา แต่ตอนนี้หนังภาค 3 ก็ใกล้จะเข้าฉายในบ้านเราแล้ว ภาคแรกนั้นทำรายได้รวมทั่วโลกไป 66 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 10 ล้านเหรียญฯ ส่วนภาค 2 Beyond Skyline (2017) ได้นักแสดงอย่าง Frank Grillo จาก Captain America: The Winter Soldier (2014) มานำแสดง แต่ทำรายได้ไม่ค่อยดีและหนังไปฉายแบบโฮมวิดีโออย่างรวดเร็ว
ภาค 3 ซึ่งจะเป็นตอนปิดไตรภาค มีชื่อว่า Skylines (หรือเขียนแบบเท่ ๆ ว่า Skylin3s) เนื้อหาจะต่อจากตอนจบของภาคที่แล้วที่ทิ้งปมเอาไว้ เมื่อกลุ่มมนุษย์ที่เหลือรอดได้ใช้ยานของเอเลียนเดินทางข้ามจักรวาลไปยังดาวบ้านเกิดของเอเลียน เพื่อติดตั้งระเบิดเพื่อทำลายดาวดวงนั้นให้สำเร็จ ก่อนที่ไวรัสที่เอเลียนได้ส่งมายังโลกจะฆ่ามนุษย์จนหมด Lindsey Morgan จากภาค 2 กลับมารับบทเป็นผู้กอง Rose มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่ถูกเอเลียนเอาไปดัดแปลง ทำให้เธอมีพลังพิเศษและจะเป็นผู้นำภารกิจทำลายดาวเอเลียนในครั้งนี้
Liam O’Donnell ผู้ร่วมสร้างหนังภาคแรก รวมถึงเป็นผู้กำกับและเขียนบทของหนังภาค 2 ได้กลับมาทำหน้าที่กำกับและเขียนบทภาคนี้อีกครั้ง นักแสดงสมทบของหนังยังประกอบไปด้วย Jonathan Howard จาก Godzilla: King of the Monsters (2019), Daniel Bernhardt จากซีรีส์ Altered Carbon, Rhona Mitra จาก Doomsday (2008) และ James Cosmo จาก Braveheart (1995) ใครที่ชอบหนังไซไฟเอเลียน Aliens (1986) ของ James Cameron ผสม ID4 (1996) และชอบหนังแนว found footage ในภาคแรกผสมศิลปะป้องกันตัวในภาค 2 แล้วกลายเป็นอย่างที่เห็นในภาค 3 นี้