รีวิว หนัง Ready Or Not
รีวิว หนัง Ready Or Not เมื่อวันวิวาห์อันแสนหวานต้องกลายมาเป็นวันไล่ฆ่าเลือดสาดแทน
ผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วแต่มีวันวิวาห์ในฝันที่เราจะได้สวมชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง มันควรจะเป็นวันที่เจ้าสาวจะได้มีความสุขมากที่สุดและสวยมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้มีวันแต่งงานเหมือนดั่งฝัน อย่างเช่นนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง Ready Or Not ที่วันแต่งงานอันแสนสุขของเธอต้องเป็นอันเปลี่ยนไปเป็นวันไล่ฆ่าเลือดสาดแทน จากที่ควรจะถือมีดตัดเค้กก็ต้องถือปืนไล่ฆ่าผู้คน สาเหตุจะเกิดมาจากอะไรวันนี้เราจะพาคุณไปไขความลับของภาพยนตร์เรื่องนี้กัน
Ready Or Not เป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำแนวไล่ฆ่าที่มีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์แนวไล่เชือดในยุค 90 เพียงแต่มีการปรับเรื่องราวและการนำเสนอให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เราจะต้องพบเจอในภาพยนตร์แนวนี้ก็คือฉาก 18+ ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง เลือด และสิ่งชวนอ้วก ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์ยังสามารถผสมผสานความเป็นแบดโจ๊กเข้ามาได้เป็นอย่างดี มีตลกร้ายที่ทำให้เรารู้สึกจะขำก็หัวเราะไม่ออกเสียทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์ยังใส่ประเด็นเรื่องความเชื่อเข้ามาอีกด้วย แต่มันดันเป็นความเชื่อที่ผิดปกติจนทำให้คนนอกที่ไม่เข้าใจความเชื่อเหล่านี้รู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์จากความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องบ้าบอแถมยังสติแตกอีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นภาพยนตร์ที่เราอยากจะแนะนำให้กับคนที่คิดถึงภาพยนตร์แนวไล่เชือดยุค 90 มีภูมิคุ้มกันต่อภาพที่เต็มไปด้วยความรุนแรงเลือดสาดและชวนแหวะ ต้องการจะรับชมภาพยนตร์ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอนหลังนั่งดูคนไล่ฆ่ากันจนจบ รับรองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถมอบความสนุกสนานในแบบของคุณได้อย่างแน่นอน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Ready Or Not
Ready Or Not เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวที่มีชื่อว่าเกรซ เธอนั้นคบหากับชายหนุ่มผู้ดีเก่าจากครอบครัวร่ำรวยที่มีชื่อว่าอเล็กซ์ หลายคนมองว่าเธอนั้นช่างเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไปที่แสนจะโชคดี แต่พอเธอกำลังจะแต่งงานเธอก็พบว่าครอบครัวของแฟนหนุ่มนั้นช่างไม่เป็นมิตรกับเธอเอาเสียเลย แต่สุดท้ายแล้วงานแต่งของทั้งคู่ก็จบลงด้วยดี หญิงสาวเต็มไปด้วยความสุขโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายกำลังรอคอยเธออยู่
พอตกค่ำอเล็กซ์ได้บอกกับเกรซว่าบ้านของเขานั้นมีพิธีที่จะต้องทำทุกครั้งเมื่อมีใครแต่งงาน เพราะธุรกิจของบ้านเขานั้นเป็นธุรกิจทำของเล่นที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน เกมดังกล่าวนี้ก็เปรียบเสมือนกับความเชื่อประจำตระกูลที่เมื่อมีใครแต่งงานเข้ามาก็จะต้องเล่นเกมนี้ด้วย พ่อของชายหนุ่มได้ให้เธอเลือกไพ่ขึ้นมา 1 ใบ ไพ่ที่เธอเลือกได้นั้นเป็นเกมซ่อนหาที่ไม่มีใครได้เล่นเลยมาตลอด 30 ปี ทุกคนต่างทำหน้าวิตกกังวลจนทำให้หญิงสาวรู้สึกสงสัย แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยังคงเล่นไปตามพิธีของครอบครัวสามีด้วยการวิ่งไปซ่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่าสมาชิกครอบครัวที่เหลือนั้นกำลังเตรียมอาวุธครบมือพร้อมที่จะสังหารเธอทุกเมื่อ
แต่แล้วเธอก็ได้รู้ว่าการซ่อนหาครั้งนี้ไม่เหมือนกับการซ่อนหาที่เธอเคยเล่นตามปกติทั่วไป แต่มันเป็นการซ่อนหาที่เดิมพันไว้ด้วยชีวิตของเธอ ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เอาชีวิตรอดจากคืนแต่งงานที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายให้สำเร็จ
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Ready Or Not
Ready Or Not เป็นภาพยนตร์ที่เล่นกับความเชื่อจนทำให้ความรู้สึกไม่สมเหตุสมผลของเรานั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถโต้เถียงได้ ดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ดูไม่สมเหตุสมผลทุกอย่างจะมีความเชื่อเข้ามาเป็นเหตุผลอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าคนในครอบครัวจะไม่มีใครสักคนที่คิดได้เลยหรือว่าความเชื่อของพวกเขานั้นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องที่พวกเขาแค่คิดไปเองกันทั้งนั้น มีเพียงแค่เกรซเท่านั้นที่เป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่ไม่เชื่อความเชื่อของครอบครัวนี้เลยแม้แต่น้อย
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่เต็มไปด้วยความรุนแรง รับรองว่ารับชมแล้วสะใจอย่างแน่นอนแต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับการมองภาพสยองขวัญเลือดสาด ไม่เพียงเท่านั้นยังมีมุขตลกที่เป็นไปด้วยความรุนแรงมากมายสอดแทรกเข้ามาจนทำให้เรารู้สึกขำไม่ออก แม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์แนวไล่ฆ่าที่ดูจะมีความตึงเครียดจริงจัง แต่ภาพยนตร์ไม่ได้เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกอย่างที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด เกรซมีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้เธอสามารถเอาชีวิตรอดได้ทุกครั้งอย่างปาฏิหาริย์จนทำให้บางครั้งความรู้สึกเอาใจช่วยของผู้รับชมหายไป
และที่สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้คือฉากจบที่ทำให้เสียงแตกออกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจนคือคนที่ชอบและไม่ชอบ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าเมื่อเรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปจนถึงฉากจบแล้วคุณจะรู้สึกชอบภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่ แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนต์แนวนี้อยู่แล้วแม้ว่าฉากจบอาจจะไม่พึงพอใจแต่โดยรวมแล้วการเล่าเรื่องก็ถือว่าสามารถมอบความสนุกสนานให้กับคุณได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างหนัง Ready Or Not
รีวิว หนัง Ready Or Not บางส่วนจาก beartai
เข้าสู่ฤดูหนังเล็กหลังจากจบสิ้นฤดูหนังซัมเมอร์ไปแล้วกับ Hobbs and Shaw ที่เป็นเรื่องส่งท้ายเทศกาล หนังฟอร์มเล็กที่ใช้ทุนสร้างต่ำก็ต้องเป็นหนังสยองขวัญเนี่ยล่ะ โอกาสเสี่ยงที่จะขาดทุนต่ำ ถึงแม้ว่าพลอตเรื่องของ Ready or Not จะฟังดูแปลกใหม่ แต่ก็ยังดำเนินบนสูตรสำเร็จที่ว่าด้วยการไล่ล่าเหยื่อในพื้นที่ปิดล้อม รอบนี้ขยายมาเป็นพลอตเรื่องได้น่าสนใจ เมื่อเกรซเจ้าสาวคนสวยกำลังดีใจเนื้อเต้นที่กำลังจะเป็นสะใภ้ในตระกูลใหญ่ เลอ โดมาส เป็นตระกูลเก่าแก่มีศักดินามายาวนาน ร่ำรวยจากธุรกิจเกมกระดาน และเป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลอีก 4 ทีม งานแต่งจัดอย่างเรียบง่ายในปราสาทส่วนตัวของครอบครัว
ทุกอย่างดูจะสวยหรูราบรื่น เมื่อเสร็จพิธีในช่วงค่ำ อเล็กซ์เจ้าบ่าวของเกรซก็บอกกับเธอว่า ตระกูลของเขามีพิธีการเก่าแก่ที่สะใภ้หรือเขยที่แต่งงานเข้าสู่ตระกูลนี้จะต้องเล่นเกมด้วยกันกับสมาชิกครอบครัว ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเสี่ยงทายได้เกมอะไร นี่มันหนังสยองขวัญนะ เกรซก็จำต้องดวงซวยสุดเสี่ยงทายได้เกม “ซ่อนหา” ซึ่งฟังดูขำ ๆ แต่กลับกลายเป็นว่านี่คือเกมไล่ล่าเอาชีวิต เกมที่ทุกคนภาวนาว่าอย่าได้เจอ
ในขณะที่สะใภ้และเขยที่แต่งเข้ามาก่อนหน้าก็ได้เกมน่ารัก ๆ อย่างหมากรุก หรือไพ่อีแก่กัน เกมที่เกรซเผชิญก็เหมือนเกมซ่อนหาทั่วไป แต่ถ้าเกรซซ่อนไม่ดีถูกหาเจอ นั่นหมายถึงจุดจบชีวิตเพราะสมาชิกในครอบครัวที่มีทั้ง พ่อ, แม่, พี่ชาย, พี่สะใภ้, พี่สาว, พี่เขย และอาหญิงที่หน้าตาดูโรคจิตกระหายอยากจะเล่นเกมนี้ที่สุด ทุกคนมาพร้อมอาวุธหนักที่พร้อมจะเอาชีวิตเกรซทันทีที่พบตัว
หนังใช้เวลาปูความไม่นาน เพราะหนังยาวเพียงแค่ 90 นาที ไม่รวมเครดิตท้ายเรื่อง เกรซต้องควบคุมสติไม่ให้เตลิดเปิดเปิงเพื่อจะเอาชีวิตรอดจากครอบครัวโรคจิตนี้ในปราสาที่เธอไม่ชำนาญพื้นที่นัก ความตื่นเต้นของหนังก็คือฉากหลบซ่อนและไล่ล่า มีฉากให้ลุ้นแทบทั้งเรื่อง หลบซ่อนกันแบบฉิวเฉียดให้คนดูได้ลุ้นว่าฝ่ายล่าจะเจอตัวเธอไหม หนังเพิ่มบรรยากาศให้ตึงเครียดด้วยการปรับโทนสีหนังให้มืดหม่น ไม่มีสีสันสดใสให้เห็นเลย ฉากฆ่ากันถือว่ารุนแรงตามมาตรฐานหนังสยองขวัญ ยิงหน้าไม้ทะลุปาก ฟันกันคอขาด ยิงเข้าแสกหน้า แต่ให้เห็นกันแบบแวบเดียว ไม่มีการแช่กล้องกันให้กระอักกระอ่วน ส่วนฉากตุ้งแช่เรื่องนี้มีบ้างเล็กน้อย
อีกรายที่อยากพูดถึงสำหรับคอหนังรุ่นเก่า คือการกลับมาปรากฏตัวของ แอนนี แม็กโดเวลล์ นางเอกแถวหน้าจากยุค 90s เธอเป็นเจ้าของบทนำในหนังระดับตำนานหลายเรื่อง Groundhog day (1993), Four Weddings and a Funeral (1994) และ Hudson Hawk (1991) แอนดี กลับมารับบทขุ่นแม่ในเรื่องนี้ด้วยวัย 61 ปี ใบหน้าก็สมวัยละครับเหี่ยวย่นทั้งหน้า แต่สำหรับคนที่เคยเห็นเธอในวัยสวยสุดมาแล้ว ก็ต้องทำใจพอควรกับการยอมรับสัจธรรมชีวิตอันน่ากลัว แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีร่องรอยความสวยในวัยสาวให้เห็นอยู่นะ
Ready or Not จัดอยู่ในกลุ่มหนังสยองขวัญมาตรฐานระดับกลาง ในสัปดาห์ที่ไม่มีหนังฟอร์มใหญ่แบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่แนะนำไม่เสียดายเงินไม่เสียดายเวลาแน่นอน แต่ถ้าพลาดไปก็ไม่น่าเสียดายแต่อย่างใด