รีวิว หนัง NOTRE-DAME ON FIRE
รีวิว หนัง NOTRE-DAME ON FIRE ภาพยนตร์ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับเหตุการณ์ไฟไหม้สุดสะเทือนใจที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีต
บนโลกใบนี้มีเหตุการณ์สะเทือนใจเกิดขึ้นมากมายไม่เว้นแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือแม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์ด้วยกันเองก็ตาม หนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นก็คงหนีไม่พ้นเหตุอัคคีภัย อย่างล่าสุดในประเทศไทยของเรานั้นก็เกิดเหตุการณ์อัคคีภัยที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญเสียทรัพยากรไปเป็นจำนวนไม่น้อยอย่างเหตุการณ์ไฟไหม้ที่สำเพ็ง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เราควรมีความสำคัญและให้ความสนใจในทักษะการเอาชีวิตรอดหรือแม้แต่การจัดการของเจ้าหน้าที่เองก็ตาม
ในปี 2019 ได้เกิดเหตุครั้งใหญ่ที่สร้างบาดแผลในใจของชาวฝรั่งเศสทั่วทั้งประเทศ นั่นก็คือการเกิดเหตุอัคคีภัยครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย แม้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่มีผู้เสียชีวิตแต่สิ่งที่สูญเสียไปนั้นสร้างความเสียใจให้กับผู้คนทั่วทั้งโลกเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมหาวิหารนอทเทอร์ดัม สถานที่สำคัญในกรุงปารีสที่ตั้งอยู่มาเป็นเวลากว่า 850 ปี มีนักดับเพลิงกว่า 500 นายต้องเข้ามาระงับเหตุการณ์ดังกล่าวให้สำเร็จ และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดในภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำอย่าง NOTRE-DAME ON FIRE
ภาพยนตร์ที่นำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่สร้างบาดแผลให้กับผู้คนไปทั่วทั้งโลกมานำเสนอให้เราได้เห็นภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม โดยภาพยนตร์จะพาเราเข้าไปสำรวจแต่ละนาทีที่เกิดหายนะในครั้งนี้ผ่านมุมมองของบรรดานักผจญเพลิงผู้เสียสละและกล้าหาญที่จะต้องกอบกู้สถานการณ์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เอาไว้ให้สำเร็จ บ้านกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันและระยะเวลาเร่งเร้ามากขึ้นทุกที
หนังวันสิ้นโลก 2022
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง NOTRE-DAME ON FIRE
NOTRE-DAME ON FIRE เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19:00 น ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในมหาวิหารนอทเทอร์ดัม อาสนวิหารที่เก่าแก่ใจกลางเมืองปารีสที่มีอายุถึง 850 ปี เป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์นิกายคาทอลิกทั่วทั้งโลกอีกด้วย
ต้นเพลิงของเหตุการณ์อัคคีภัยในครั้งนี้อยู่บนหลังคาไม้ เมื่อใจเผาไหม้สิ่งก่อสร้างสำคัญเป็นแปลงไฟสีแดงและควันพุ่งก้อนหนาเท่ากับก้อนเมฆบนท้องฟ้า บริเวณยอดแหลมของมหาวิหารเปราะบางจนพังลงมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของชาวฝรั่งเศสเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่รับชมเหตุการณ์ดังกล่าวโดยรอบ บางคนถึงกับร้องไห้ออกมาเนื่องจากศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายจากอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดฝัน
ในช่วงเวลานั้นมีการระดมนักดับเพลิงในฝรั่งเศสเป็นจำนวนกว่า 500 นายเข้ามาระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไหม้ที่รุนแรงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นของตัวโบสถ์ ใช้เวลายาวนานถึง 3 ชั่วโมงครึ่งถึงสามารถสกัดเพลิงไหม้โดยรักษาเอาไว้เฉพาะบริเวณด้านหน้าของโบสถ์ได้สำเร็จ รวมไปถึงบริเวณวิหารคู่แฝดและโครงสร้างหลักของมหาวิหารที่ยังคงปลอดภัยดี ส่วนงานศิลปะเก่าแก่สำคัญหลายชิ้นสามารถเก็บกู้เอาไว้ได้ทัน
จากนั้นนักดับเพลิงต้องทำการฉีดน้ำเข้าไปเพื่อรักษาอุณหภูมิในวิหาร แม้จะโชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้เสียชีวิตและมีนักดับเพลิงเพียงแค่ 1 รายที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 12 ชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องทุ่มเทพลังกายพลังใจในการควบคุมเพลิงไหม้นั้นต้องเจอกับความยากลำบากและความกดดันมากมาย ในขณะเดียวกันหลายส่วนของมหาวิหารก็ได้รับความเสียหายจนยากแก่การซ่อมแซม
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง NOTRE-DAME ON FIRE
NOTRE-DAME ON FIRE เป็นภาพยนตร์ที่นำเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีตมาเล่าให้เราได้เห็นภาพอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม โดยตัวภาพยนตร์นั้นจะเจาะลึกเรื่องราวเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงตลอดระยะเวลา 12 ชั่วโมงที่นักดับเพลิงต้องควบคุมสถานการณ์จริง เนื่องจากต้องถ่ายทอดเหตุการณ์ออกมาในหลายแง่มุมโดยควบคุมเวลาให้ภาพยนตร์ไม่นานถึง 2 ชั่วโมง มันจึงค่อนข้างน่าเสียดายที่ในช่วงแรกมีการปูเรื่องนานจนน่าเบื่อไปหน่อย แต่หลังจากที่เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วภาพยนตร์ก็เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกตลอดทุกวินาทีว่านักดับเพลิงจะสามารถทำภารกิจของพวกเขาได้สำเร็จหรือไม่
ส่วนที่ดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือแม้ว่าจะมีการแต่งเสริมเรื่องราวเข้ามาบ้างแต่ก็เน้นการเล่าเรื่องราวตาม TIMELINE ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแบบแทบจะไม่มีผิดเพี้ยน ผสมผสานการเล่าเรื่องระหว่างการแสดงเข้ากับฟุตเทจของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้อย่างกลมกล่อม ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกลิ่นอายของความเป็นสารคดีค่อนข้างสูง แต่การแสดงก็สามารถทำให้ผู้รับชมสามารถเข้าถึงอารมณ์ของเหตุการณ์ในตอนนั้นได้ดี มันจึงกลายเป็นภาพยนตร์ที่แม้ว่าจะมีความขัดขาดๆ เกินๆ ไปบ้างแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ทำให้เสียอรรถรสแต่อย่างใด
หากคุณเคยรับชมภาพยนตร์เรื่องดันเคิร์กของผู้กำกับชื่อดังอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลนมาก่อนที่เน้นการเล่าเรื่องราวผ่านสถานการณ์มากกว่าผ่านตัวละคร ภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้กลิ่นอายในแบบเดียวกันนั่นก็คือไม่ได้ให้ตัวละครตัวไหนมีความโดดเด่นออกมาเสียทีเดียว แต่จะเล่าเรื่องราวองค์ประกอบโดยรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่า
และแน่นอนว่าด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นของมหาวิหารที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวคริสต์ จึงมีการสอดแทรกแง่มุมเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาและความศรัทธาเอาไว้ในหลายฉาก แม้ว่าบางจังหวะจะทำออกมาได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ยัดเยียดจนเกินไป เพราะเน้นความโดดเด่นไปที่ภารกิจของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า