รีวิว หนัง Midway อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น

รีวิว หนัง Midway อเมริกา ถล่ม ญี่ปุ่น ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ฉบับย่อยง่าย

ในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นมันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ของโลกที่เต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นประกอบกับการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความดุเดือดทำให้มันกลายเป็นเหตุการณ์ที่ถูกหยิบยกนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าบ่อยที่สุดอีกเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยการไม่ว่าจะเป็นแนวตึงเครียด แนวผสมผสานความโรแมนติกเข้ามา แนวดราม่า หรือแนวแอ็กชัน อย่างเช่นที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นแนวแอ็กชันที่ทำการเล่าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ออกมาให้ย่อยง่ายและเข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Midway

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเล่าเฉพาะส่วนของการต่อสู้กันเท่านั้น โดยจะเล่าถึงยุทธการมิดเวย์ ยุทธการที่สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้ทำการต่อสู้กันแบบ 360 องศากินระยะเวลายาวนานถึง 4 วัน นับเป็นยุทธการสำคัญที่เปลี่ยนให้ฝ่ายสัมพันธมิตรกลายมาเป็นฝ่ายได้เปรียบและกลายมาเป็นผู้ชนะสงครามในเวลาต่อมา 

ด้วยความที่เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมากมายทำให้มันสามารถเข้าใจได้ง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพียงแค่เอนหลังลงบนเก้าอี้หลังจากนั้นก็รับชมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องไปคิดอะไรตาม เรื่องราวทั้งหมดจบแบบไม่ค้างคา เพราะมันเป็นผลงานของ Roland Emmerich ผู้กำกับแนวทำลายล้างระเบิดภูเขาเผากระท่อมที่สามารถถ่ายทอดฉากแอ็กชันออกมาได้อย่างดุเดือดและเต็มไปด้วยความสมจริงมากที่สุดอีกคนหนึ่ง ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์แนวสงครามหรือเป็นแฟนของผู้กำกับ Roland ไม่แน่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณอีกหนึ่งเรื่องก็เป็นได้ 

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Midway

Midway เป็นภาพยนตร์ที่จะพาคุณย้อนกลับไปอดีตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดมากที่สุดเมื่อญี่ปุ่นได้ทำการเปิดฉากต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สหรัฐอเมริกาโดนถล่มเพิร์ลฮาเบอร์ไป พวกเขาก็ได้ทำการวางแผนยุทธการ 1 เพื่อโจมตีกลับโดยใช้หมู่เกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นยุทธภูมิ เพราะมันตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างทวีปอเมริกาและเกาะญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีแผนการรับที่จะยึดเกาะแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นสำหรับการยึดพื้นที่ในแถบแปซิฟิกทั้งหมด พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจเนื่องจากในขณะนั้นญี่ปุ่นยังไม่เคยแพ้การรบทางน้ำมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้พวกเขาเชื่อว่าจะเอาชนะอเมริกาได้ ไม่เพียงเท่านั้นในขณะนั้นพวกเขายังมีกองกำลังมากกว่าอเมริกาถึง 3 เท่าด้วยกัน

แต่น่าเสียดายที่ความฮึกเหิมและความมั่นใจของเหล่านายทหารชั้นผู้ใหญ่ของญี่ปุ่นทำให้พวกเขานั้นลืมให้ความสำคัญกับบางสิ่งบางอย่างไป ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขาไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นกำลังจะโชคไม่ดีในอีกไม่นานนี้ เพราะผู้ที่จับกุมชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้คือสหรัฐอเมริกาที่สามารถเอาชนะได้แบบ 360 องศาไม่ว่าจะภาคพื้นสมุทรหรือแม้แต่ภาคอากาศ นั่นก็เป็นเพราะว่าญี่ปุ่นตัดสินใจใช้ยุทธศาสตร์เดิมเช่นเดียวกับตอนที่โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ทำให้สหรัฐอเมริกาที่เคยประสบกับการโจมตีแบบเดียวกันมาก่อนสามารถรับมือได้เป็นอย่างดีแถมยังโจมตีกลับได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย 

ความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในครั้งนี้ทำให้พวกเขาต้องเสียทหาร เรือรบ และเครื่องบินรบไปเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับความสูญเสียของฝั่งสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ตามความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในครั้งนี้ก็ทำให้พวกเขาเลิกความพยายามที่จะขยายพื้นที่ในน่านน้ำแปซิฟิกก่อนจะหันไปปกครองอาณาเขตเดิมที่เคยยึดได้สำเร็จ 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Midway

Midway เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสงครามออกมาในลักษณะที่มีความคล้ายคลึงกับสารคดี เนื่องจากเขาไม่ได้ทำให้เรารู้สึกผูกพันไปกับตัวละครแต่อย่างใด แต่เน้นการถ่ายทอดภาพรวมของการต่อสู้ในยุทธการมิดเวย์มากกว่า ไม่ได้มีตัวละครเด่นเป็นพระเอกหรือนางเอก ไม่มีการสอดแทรกความโรแมนติกเข้ามา ให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับภาพยนตร์เรื่องดันเคิร์ก ที่เน้นเล่าเรื่องราวการต่อสู้โดยภาพรวมโดยที่ไม่เจาะจงไปที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งโดยเฉพาะ 

และด้วยความที่มันไม่ได้เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์เชิงประวัติศาสตร์ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวภาพรวมออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถให้ความรู้เชิงประวัติศาสตร์แก่ผู้รับชมได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นยังพาเราไปรู้จักกับบุคคลสำคัญมากมายในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย

แต่สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กว่าดันเคิร์กคือการใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นจำนวนมากจนทำให้บางครั้งในบางฉากก็ดูไม่สมจริงเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะว่าทีมผู้สร้างมีความต้องการที่จะถ่ายทอดงานภาพออกมาให้มีความเป็นภาพยนตร์แนวย้อนยุคหน่อยๆ พอผสมผสานเข้ากับงานคอมพิวเตอร์กราฟิกภาพทั้งหมดจึงดูไม่ไปในทิศทางเดียวกัน แต่โดยรวมแล้วฉากการต่อสู้นั้นเต็มไปด้วยความสวยงามอลังการสมกับเป็นฝีมือของ Roland Emmerich แม้จะไม่ได้เล่าเรื่องราวตัวละครใดตัวละครหนึ่งแต่เนื้อหาทำออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ข้อเสียก็คือด้วยความที่มันไม่โฟกัสไปที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งทำให้จุดเด่นของมันค่อนข้างที่จะหายาก ไม่มีตัวละครไหนที่น่าจดจำเป็นพิเศษหรือมีความน่าประทับใจมากกว่าตัวละครอื่น 

ตัวอย่างหนัง Midway

รีวิว หนัง Midway บางส่วนจาก beartai

กลับมาอีกครั้งของผู้กำกับจอมทำลายล้างอีกคนหนึ่งของวงการหนังอย่าง โรแลนด์ เอมเมอริช (Roland Emmerich) ผู้ทำผู้ชมสะท้านทรวงมาแล้วกับไซไฟเอฟเฟกต์วินาศสันตะโรใน Stargate (1994) Independence Day (1996) The Day After Tomorrow (2004) และนี่เป็นการคืนสู่หนังสงครามอิงประวัติศาสตร์เต็มรูปครั้งแรกนับจาก The Patriot (2000) ของเขาอีกด้วย น่าสนใจว่าเขาจะเอาความถนัดในด้านเอฟเฟกต์ผสมเข้ากับแนวทางดราม่าสงครามโลกได้ดีขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้คงไม่พ้นต้องถูกนำมาเทียบกับ 

Pearl Harbor (2001) ของผู้กำกับสายระเบิดอีกคนอย่าง ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยุทธภูมิที่ถูกนำมาเล่าก็เป็นเหตุการณ์จริงในหน้าประวัติศาสตร์ที่ห่างกันเพียง 6 เดือนเท่านั้น (ยุทธการเพิร์ลฮาร์เบอร์ เกิดวันที่ 7 ธันวาคม 1941 ส่วนยุทธการมิดเวย์เกิด 4-7 มิถุนายน 1942) แต่จุดต่างที่เห็นได้ชัดคืองานของเอมเมอริชมีความไม่เวิ่นเว้อและน้ำน้อยมาก เนื้อเน้น ๆ เกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้เป็นหนังที่ดูสนุกสำหรับสายสงคราม สายแอ็กชัน ในขณะที่สายดราม่าก็มีมาแบบเป็นน้ำจิ้มไม่แห้งแล้งเกินไป

หนังได้มือเขียนบทที่ผลงานไม่มากนักอย่าง เวส ทูก (Wes Tooke) ที่มีผลงานแค่เขียนบทซีรีส์เอเลี่ยนบุกโลกอย่าง Colony (2016-2018) เท่านั้นเอง แต่เขาก็คุมโทนหนังที่ตัวละครเยอะมากอย่างหนังสงครามได้อย่างดี มีการกระจายบทได้เหมาะสมทั้งฝั่งอเมริกาที่เราได้เห็นภาพของหน่วยปฏิบัติการเรือรบ เครื่องบินขับไล่ เครื่องบินทิ้งระเบิด เรือดำน้ำ ตลอดจนฝ่ายเสนาธิการวางแผน ผู้บัญชาการกองทัพ หน่วยข่าวกรอง และอื่น ๆ อย่างชัดเจน ช่วยให้เราจดจำตัวละครได้ง่าย และที่สำคัญมากคือ ทำให้เราเข้าใจภาพรวมของกลยุทธ์ทางสงครามที่ดำเนินไปตามลำดับเวลานับตั้งแต่การจู่โจมที่เพิร์ลฮาร์เบอร์

เรื่อยไปสมรภูมิเกาะมาร์แชล ยาวถึงยุทธนาวีมิดเวย์อันเป็นไคลแมกซ์ของเรื่องได้อย่างเข้าใจมาก ๆ เคลียร์คลีนพอสมควร แก้ปัญหาหนังสงครามเชิงกลยุทธ์ ตัวละครแยะที่ชวนสับสนงงงวยในเรื่องอื่น ๆ ได้ดี เชื่อว่าน่าจะถูกใจสายประวัติศาสตร์เพราะนอกจากลำดับการเล่าที่ดี เก็บรายละเอียดสำคัญได้เยอะแล้ว ยังรวมเอาตัวละครสำคัญของทั้งฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่นมาเล่าให้เห็นมิติต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน เราจะเข้าใจแง่มุมทางฝั่งญี่ปุ่นในแบบเทาค่อนดำ แต่ก็ไม่ดำสนิท ในขณะที่ฝั่งอเมริกาก็โปรอเมริกันฮีโรมาได้ปลุกเร้าหัวใจ แต่เพราะฝั่งตรงข้ามมันเทาเราก็เลยไม่รู้สึกว่าหนังเอียงเข้าอเมริกันมากเกินไปนั่นเอง ถือว่าเป็นความสำเร็จในการเล่าเรื่องขนาดยาวของ เวส ทูก จริง ๆ

สรุปก็เป็นหนังที่สอนประวัติศาสต์สงครามโลกฝั่งแปซิฟิกได้ดีพอสมควรเลย ถ้าเด็กไปชมแล้วหาข้อมูลเพิ่มอีกหน่อยคือได้ความรู้ดีเลย ส่วนใครไม่สนประวัติศาสตร์ก้ยังได้สนุก ยิ่งฉากสงครามท้าย ๆ นี่คือโคตรมันจริง ๆ ฉากแลกกันหมัดต่อหมัดระหว่างเครื่องบินทิ้งระเบิดของพระเอกกับเรือรบญี่ปุ่นนี่คือลุ้นลืมหายใจเลย

นักแสดงหนัง Midway

Patrick Wilson

Woody Harrelson

Yangdu-Duyang.com จะพาทุกท่านไปพบกับ การรีวิว แนะนำหนัง ภาพยนตร์ ทั้งในและต่างประเทศ ที่น่าดู น่าติดตาม สูตรบาคาร่า sa บอกได้เลยว่าทุกท่านต้องห้ามพลาด

แนะนำการ หารายได้เสริม เพียงสมัครเล่น sagame66 หรือ sa game 66 คาสิโนออนไลน์ เว็บแทงบอล ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ
มีบริการ แทงบอล ufabet ที่ทุกท่านสามารถ แทงบอลออนไลน์ แบบ แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ เริ่มต้น แทงบอลขั้นต่ำ 10 บาท
รวมถึงบริการ แทงบอลสเต็บ 2 คู่ บาคาร่าออนไลน์ ufa777 บาคาร่า66 gclub และอื่นๆอีกมากมาย เริ่มต้น ฝากเงินครั้งแรกขั้นต่ำ 50 บาท เท่านั้น

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า