รีวิว หนัง Mechanic Resurrection
รีวิว หนัง Mechanic Resurrection จากภาพยนตร์ชื่อดังยุค 70 สู่การคืนจออีกครั้ง
ย้อนกลับไปในช่วงยุค 70 เป็นช่วงที่ภาพยนต์แนวต่อสู้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีภาพยนตร์แนวต่อสู้มากมายหลากหลายเรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังและกลายมาเป็นตำนานในช่วงนั้น และแน่นอนว่าเมื่อภาพยนตร์เรื่องไหนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็ย่อมมีการนำเอามาสร้างใหม่อยู่เป็นประจำ หนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมในการนำเอามาสร้างใหม่มากที่สุดอีกหนึ่งเรื่องในยุคนั้นเห็นทีจะหนีไม่พ้น Mechanic ภาพยนตร์ต่อสู้ที่ได้นักแสดงระดับตำนานอย่างชาร์ล บรอนสันมารับบทนำ
การรีเมคครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในปี 2011 โดยผู้ที่ได้รับบทนำนั้นคือเจสัน สตาแธม แต่น่าเสียดายที่ฉบับนี้ไม่ได้ถูกนำเอามาฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทย แต่ถึงอย่างนั้นกระแสความนิยมของพวกมันก็โด่งดังมาจนถึงหูชาวไทยอย่างเราอยู่ดีว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและมอบความสนุกสนานให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างมาก แถมภาพยนตร์ยังสามารถทำกำไรได้กว่า 22 ล้านอีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกนำเอามาสร้างใหม่อีกครั้งแต่สุดท้ายแล้วในปี 2016 ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกนำมาสร้างภาคต่ออีกครั้งในชื่อเรื่อง Mechanic: Resurrection แปลว่าภาพยนตร์จะใช้ทุนสร้างเท่าเดิมแต่โดยรวมแล้วถือว่าสร้างความยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังขนทัพนักแสดงที่น่าสนใจมาร่วมแสดงมากมาย มากไปกว่านั้นก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้มีการถ่ายทอดเรื่องราวในประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ตทั้งยังมีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างญาญ่า หญิงมารับบทสมทบอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากจะลองแนะนำให้ทุกคนได้ลองแล้วชมภาพยนตร์เก่าเรื่องนี้ดูเพราะมันเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ส่วนใหญ่แล้วฉากทั้งหมดนั้นถ่ายทำในประเทศไทย การได้เห็นประเทศไทยมุมมองใหม่ผ่านภาพยนตร์ระดับ Hollywood นั้นก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Mechanic: Resurrection
Mechanic: Resurrection จะเล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าอาร์เธอร์ บิชอป เขานั้นต้องพบเจอเรื่องราววุ่นวายมากมายในชีวิตจากงานที่เขาทำ ชีวิตของเขานั้นเต็มไปด้วยความอันตรายจากการถูกไล่ล่าทำให้เขานั้นต้องหลบหนีมาพักอยู่ในประเทศบราซิลที่เมืองรีโอ เด จาเนโร แม้ว่าจะหนีมาไกลแต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงมีคนตามเขาพบและคอยก่อความวุ่นวายไม่จบสิ้น เธอคนนั้นเป็นหญิงเอเชียที่คอยติดต่อเขาเป็นประจำบังคับกลายๆ ให้เขารับงานฆ่าคนให้
แต่เขานั้นต้องการที่จะวางมือกับเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจึงได้ตัดสินใจที่จะปฏิเสธเธอไปอย่างจริงจังจากนั้นก็ทำการเก็บข้อของแล้วย้ายมาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่เกาะหลีเป๊ะในประเทศไทย ขอได้รับความช่วยเหลือจากหญิงสาวที่มีชื่อว่าเมย์ตลอดการหลบหนีในประเทศไทยแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาหนีพ้นได้แต่อย่างใดเมื่อมีคนส่องหญิงสาวอีกคนมา เธอมีชื่อว่าจีน่าเป็นสาวสวยที่จิตใจดี ทำงานเป็นทหารดูแลผู้อพยพในค่ายกัมพูชา เขาต้องช่วยเหลือเธอแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ตกหลุมรักเธอโดยไม่ทันระวัง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วนั้นเธอเป็นเพียงแค่กับดักที่มีคนสร้างเอาไว้ให้เขาหลุดพ้น และด้วยเหตุนี้นี่เองมันก็เลยทำให้เขานั้นต้องกลับมารับงานเป็นนักฆ่าอีกครั้ง เรื่องราวของพวกเขาจะลงเอยอย่างไรต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Mechanic: Resurrection
ต้องบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Mechanic: Resurrection เป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำที่พยายามทำให้ออกมาเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ หากเราเคยรับชมภาพยนตร์ทั้งสองภาคแรกมาก่อนจะทราบดีว่ามันเป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำที่ค่อนข้างมีคุณภาพเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่คุณภาพของภาคนี้อาจจะยังไม่สามารถเทียบเท่ากับ 2 ภาคที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้ทำให้มันดูมีความเป็นภาพยนตร์บนแผ่นซีดีมากกว่าภาพยนตร์ฉายในโรง แม้ว่าในส่วนคุณภาพการถ่ายทำจะยังไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่นักแต่โดยรวมภาพที่ออกมาก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากต้นทุนต่ำที่ทำออกมาได้ไม่เลวเลยทีเดียว
ในส่วนของเนื้อเรื่องถือว่ายังทำออกมาได้ค่อนข้างหน้าสับสนเลยทีเดียวโดยเฉพาะตัวละครจีน่า เมื่อเราเห็นเธอครั้งแรกเราจะทราบได้ทันทีว่าเธอนั้นเป็นเหมือนกับนกต่อให้กับผู้อยู่เบื้องหลังที่ต้องการจะบังคับให้พระเอกของเรากลับไปรับงานฆ่าคน แต่พระเอกของเรากลับตกหลุมรักเธอและกลายเป็นว่าผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังสามารถใช้เธอเป็นข้อต่อรองให้เขาทำอะไรก็ได้ตามความต้องการ มันเลยค่อนข้างที่จะบอกได้ยากว่าตัวละครจีน่านั้นแท้จริงแล้วเป็นคนดีหรือแค่ตกที่นั่งลำบาก
นักแสดงไทยอย่างญาญ่า หญิงหรือหญิง รฐานั้นการได้ปรากฏตัวเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ สามารถสร้างความจดจำให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี ทุกองค์ประกอบส่งเสริมให้เธอดูดีเป็นอย่างมากแถมยังมีโอกาสได้แสดงบทต่อสู้อีกด้วย โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ต่อสู้อีกหนึ่งเรื่องที่เหมาะสำหรับการรับชมในเวลาว่างไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้เห็นงานแสดงของนักแสดงไทยในภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด แถมยังจะได้เห็นโลเคชั่นไทยในมุมมองของชาวต่างชาติอีกด้วย
ตัวอย่างหนัง Mechanic Resurrection
รีวิว หนัง Mechanic Resurrection บางส่วนจาก beartai
จากต้นฉบับหนังแอ็คชั่นปี 1972 ที่ได้ชาร์ล บรอนสันเจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นยุคนั้นรับบทนำ ถูกนำมารีเมคให้ เจสัน สตาแธม รับบทนำในปี 2011 ไม่ได้เข้าฉายโรงในบ้านเรา แต่ได้เสียงบอกต่อดีถึงความมันส์ของตัว หนัง รวมถึงหนังก็ทำกำไรไปได้พอกรุบกริบ จากทุน 40 ล้าน ทำเงินทั่วโลกไป 62 ล้าน ก็เงียบไปถึง 5 ปี ไม่นึกว่าอยู่ดี ๆ ค่ายมิลเลนเนียม จะขุด Mechanic มาทำภาคต่ออีก หนังใช้ทุนสร้างเท่าเดิมแต่หน้าหนังดูฟอร์มใหญ่ขึ้น ทั้งดาราเสริมทัพที่มีทั้ง เจสซิกา อัลบา,มิเชล โหยว และทอมมี่ ลี โจนส์ บวกกับการที่หนังมาถ่ายทำในภูเก็ตและมีญาญ่า หญิง ไปรับบทสมทบในหนังด้วย และตัวอย่างหนังที่น่าสนใจก็ล้วนเป็น องค์ประกอบที่เพียงพอให้เหล่าแฟน ๆ หนังแอ็คชั่นของพี่เจสันซื้อตั๋วเข้าไปชมได้ง่าย
ด้วยความที่ภาคแรกจัดได้ว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่สนุกเรื่องหนึ่ง เพราะได้ทีมงานที่แน่นทั้งผู้กำกับ ไซมอน เวสต์ ที่เคยกำกับ Conair (1997) หนังแอ็คชั่นในดวงใจหลายคน และได้ ริชาร์ด เวงค์ ที่เคยเขียนบท The Equalizer (2012) มารับหน้าที่ดัดแปลงบทภาพยนตร์จากหนังต้นฉบับปี 1972 แต่พอมากภาค 2 CBS Films บริษัทร่วมสร้างถอนตัวออกไป คงเหลือเพียง มิลเลเนียม ฟิล์ม บริษัทที่ก่อร่างสร้างตัวมาจากหนังสร้างลงแผ่นดีวีดี แล้วก็เลือกใช้ทีมงานโนเนมล้วน ทั้งผู้กำกับและมือเขียนบท แต่ใช้งบไปกับดาราสมทบและโปรดัคชั่นที่ตระเวนถ่ายทำในหลายประเทศ ไทย ,บัลแกเรียออสเตรเลีย,บราซิล ผลที่ได้คือหนังที่มีบทอ่อนปวกเปียกมาก ขาดน้ำหนักความน่าเชื่อถือในการกระทำของตัวละคร
ภาคนี้บิชอป นักฆ่าระดับพระกาฬที่ใคร ๆ ก็ต้องการใช้บริการ เขาหนีมากบดานในบราซิล แต่ก็ยังถูกบรรดาเจ้าพ่อตามหาตัวจนเจอและบีบบังคับให้บิชอปทำงานให้ บิชอปก็เลยหนีมาหาเพื่อนเก่าที่เกาะหลีเป๊ะ ถือว่าเป็นส่วนดีของหนังที่ถ่ายทอดทิวทัศน์บ้านเราออกมาสวยงาม เชื่อว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้อีกเยอะ ที่นี่บิชอป ได้รู้จักกับ จีน่า สาวนักบริการสังคม ที่ถูก เครน คู่อริเก่าของบิชอปบีบบังคับให้เธอมาเป็นเหยื่อล่อบิชอป ถึงบิชอปจะรู้ทันแต่ก็หลงรักจีน่า แล้วจีน่าก็ถูกเครนลากตัวกลับไป ยื่นข้อเสนอให้ บิชอป ลอบสังหารอาชญากรอันดับโลก 3 คนเพื่อแลกกับชีวิตจีน่า หนังหยิบพลอตของ Killer Elite (2011) หนังแอ็คชั่นอีกเรื่องที่เจสัน สตาแธม รับบทนำเช่นกัน แต่ก็ไม่ให้เครดิตผู้เขียนต้นฉบับ บทหนังฉบับนี้ถูกเขียนเรื่องราวมาแบบบางเบามากเพียงเพื่อให้เชื่อมโยงฉากแอ็คชั่นลอบสังหารทั้ง 3 ฉากเท่านั้น ยิ่งการต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตหญิงที่ไม่รู้จักมาก่อนยิ่งสร้างความตะขิดตะขวงใจมาก แทนที่จะไปทำงานลอบฆ่ายาก ๆ ทำไมไม่ไปสังหารเครนเสียแทน
หนังเดินหน้าไปแบบสร้างคำถามในใจตลอดเวลา ทำไม ทำได้ไง เพราะอะไร นี่คือดูแบบเปิดโหมดรับความโม้ของหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ดแล้วก็ตาม ปริมาณความรั่วไหลไร้เหตุผลของบทก็อยู่ในระดับที่มากเกิน ฉากแอ็คชั่นทั้งฉากยิง และต่อสู้ด้วยมือเปล่า ก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่ ได้เห็นเจ้าพ่อนั่งเต๊ะ แล้วมีเหล่าบอดี้การ์ดถือปืนกลเรียงแถว 2 หน้ากระดาน โอ้ว!! นี่มันฉากในละครหัวค่ำบ้านเราเลยนะ เหล่าลูกกระจ๊อกก็ทำตัวเป็นผักเป็นปลาวิ่งมาโล่ง ๆ ให้ยิงเล่น จุดเด่นที่เป็นความสามารถของบิชอป ในการดัดแปลงค้นคิดอุปกรณ์เครื่องกลมาใช้ในการลอบสังหารก็ถูกเล่าแบบผ่าน ไม่ได้อธิบายเจาะลึกให้คนดูเข้าใจ และแต่ละปฎิบัติการก็ดูสำเร็จลุล่วงแบบโคตรง่ายไร้ความรู้สึกร่วมลุ้น ฉากดีที่สุดก็คือฉากเจาะสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่เห็นในตัวอย่างนั่นละครับ คุณภาพหนังถอยกลับไปเป็นมาตรฐานแบบหนังของมิลเลเนียมยุคที่สร้างหนังลงแผ่นเลย รู้สึกเปลืองตัวเสียดายชื่อเสียงของดาราแต่ละคนที่มีเครดิตในหนังเรื่องนี้มาก ถือว่าเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติการทำงานเลย