รีวิว หนัง Kingsman The Golden Circle Disney+Hotstar
รีวิว หนัง KINGSMAN THE GOLDEN CIRCLE DISNEY+HOTSTAR ภาคต่อของภาพยนตร์ล้อภาพยนตร์สายลับที่ดันประสบความสำเร็จแบบงงๆ
ปกติแล้วภาพยนตร์ที่ทำออกมาล้อเลียนภาพยนตร์ด้วยกันนั้นก็มักจะได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นกระแสมากพอที่จะมีการออกภาค 2 ตามมาได้ แต่มีภาพยนตร์อยู่หนึ่งเรื่องที่ตั้งใจทำออกมาล้อเลียนภาพยนตร์แนวสายลับโดยเฉพาะ แต่มันกลับประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายด้วยการทำรายได้ไปถึง 444 ล้านด้วยทุนสร้างเพียงแค่ 81 ล้านเหรียญเท่านั้น เมื่อประสบความสำเร็จมากขนาดนี้แน่นอนว่าการทำภาคต่อต้องออกมาแทบจะทันทีอย่างแน่นอน โดยในครั้งนี้พวกเขาได้รับทุนสร้างสูงขึ้นเป็นตัวเลขถึง 104 ล้านเหรียญกันเลยทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องนั้นก็คือ Kingsman: The Golden Circle
การกลับมาในครั้งนี้มีทั้งคนชอบและคนสาปแช่ง อาจเป็นเพราะว่าภาพยนตร์นั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงามมาก่อน ทำให้ในครั้งนี้ผู้กำกับและทีมสร้างอยากจะปล่อยของหรืออยากจะทำอะไรก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ชมนั้นรู้จักกับตัวละครและความเป็นมาเป็นไปของพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ผู้รับชมรู้สึกผูกพันหรืออินไปกับตัวละครมากเท่าภาคแรกแต่อย่างใด
โดยในภาคนี้มีการขนกองทัพนักแสดงรางวัลออสการ์มามากมายและยังมีนักแสดงระดับแม่เหล็กเข้ามาเสริมทัพไม่ว่าจะเป็นแชนนิ่ง ทาทัม เจฟฟ์ บริดจ์เจ็ส ฮัลลี เบอร์รี ทารอน อีเกอร์ตัน และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่เพียงเท่านั้นยังปรับเวลาให้ยาวมากกว่าภาคแรกอีกด้วย โดยกินเวลาถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีความยาวมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่นทั่วไป หากใครเคยรับชมภาคแรกมาแล้วเราก็อยากจะแนะนำให้ลองรับชมภาคต่อดู
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Kingsman: The Golden Circle
Kingsman: The Golden Circle เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรกที่แฮร์รี่ ฮาร์ตนั้นได้เสียชีวิตไปจากการทำภารกิจ แม้จะต้องเผชิญกับความรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดแต่เอ็กซี่ก็ยังคงต้องทำไปตามหน้าที่สายลับในฐานะคิงส์แมนต่อไป โดยครั้งนี้เขาได้ทำหน้าที่ร่วมกับแลนสล็อตและเมอร์ลิน
อย่างที่เราทราบกันดีว่าการจะเข้ามาเป็นสายลับคิงส์แมนได้นั้นเต็มไปด้วยบททดสอบที่ทั้งโหดร้ายและยากลำบากมากมาย ดังนั้นมันจึงมีคนจำนวนมากที่สมัครเข้ามาเป็นสายลับแต่ไม่ผ่านการทดสอบ บางคนยอมรับผล แต่บางคนก็ไม่ยอมรับ อย่างเช่นชาลี ชายหนุ่มที่เคยเข้ามาสมัครเป็นสายลับแต่ไม่ผ่านการทดสอบจึงได้ผันตัวไปอยู่กับแก๊ง Golden Circle วายร้ายในภาคนี้ ภารกิจที่ชาลีได้รับนั้นไม่ใช่อะไรแต่เป็นการจัดการเอ็กซี่นั่นเอง
หัวหน้าแก๊งดังกล่าวนั้นเป็นเจ้าแม่ค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างป๊อปปี้ เธอนั้นมีราชวังส่วนตัวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในประเทศกัมพูชา เธอเปิดฉากด้วยการยิงขีปนาวุธเข้าทำลายกองบัญชาการเพื่อกำจัดสายลับคิงส์แมนทุกคน จากนั้นเธอก็ทำการใส่ไวรัสลงในยาเสพติดจนทำให้มีผู้ติดเชื้อนับล้านหลังจากนั้นก็เสียชีวิตลงไปอย่างเป็นปริศนาในเวลาแค่ไม่กี่วัน เธอใช้เรื่องนี้บีบให้ทางประธานาธิบดีสหรัฐแก้ข้อกฎหมายให้สามารถค้ายาเสพติดได้อย่างถูกกฎหมายถึงจะยอมมอบยาถอนพิษให้กับทุกคน
แต่เธอคาดการณ์ผิดเพราะมีคิงแมนเหลือรอดอยู่สองคนนั่นก็คือเอ็กซี่และเมอร์ลิน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องเดินทางไปยังเคนตั๊กกี้ สหรัฐอเมริกาเพื่อขอความร่วมมือจากสเตทแมนซึ่งเป็นเครือข่ายสายลับที่แฝงตัวอยู่ในธุรกิจร้านเหล้า แต่การเดินทางมาอเมริกาในครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้พบความจริงบางอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องตกตะลึง
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Kingsman: The Golden Circle
เนื้อหาหลังจากนี้อาจจะมีสปอยเนื้อหาสำคัญในภาพยนตร์เรื่อง Kingsman: The Golden Circle หากใครยังไม่เคยรับชมมาก่อนอาจทำให้เสียอรรถรสได้ ภาพยนตร์นั้นเล่าเรื่องต่อกันทำให้เรามีความผูกพันกับตัวละครเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ผู้สร้างกลับทำการฆ่าตัวละครทั้งหมดแล้วเหลือตัวละครหลักเอาไว้ให้เราแค่ 2 ตัวเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่แฟนภาพยนตร์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักเลยทีเดียว แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะมันเป็นภาพยนตร์ที่เสียดสีภาพยนตร์สายลับอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าในภาคนี้จัดเต็มเรื่องฉากแอ็คชั่นและความตลกแบบไม่มีหยุดกันเลยทีเดียว แม้แต่ช่วงที่เคร่งเครียดมากที่สุดภาพยนตร์ก็ยังสามารถหยอดมุขตลกเข้ามาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเสน่ห์ของความเป็นภาพยนตร์สายลับที่ครบครันสมบูรณ์แบบ เราจะได้เห็นอุปกรณ์มากมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเป็นสายลับทั้งในด้านของการต่อสู้และด้านของการรักษา
อีกหนึ่งสิ่งที่ภาพยนตร์ยังคงเอาไว้เหมือนเดิมก็คือฉากรุนแรงที่เต็มไปด้วยเลือดสาดและความสยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็นการจับเอาคนใส่ในเครื่องบดเนื้อ การเจาะยึด การปาดศัตรูจนตัวขาด เรียกได้ว่าเป็นการฆ่าที่เหนือจินตนาการและเต็มไปด้วยความน่าสะอิดสะเอียน แต่อย่างไรก็ตามฉากเหล่านี้ก็มีการโทรออกมาให้เราเห็นเพียงแค่ไม่เกิน 5 ครั้งเท่านั้น มันจึงยังอยู่ในระดับที่พอดี ไม่มากจนเกินไปจนกลายเป็นภาพยนตร์เกรด B แต่อย่างไรก็ตามมันก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่อ่อนไหวหรือมีความกลัวภาพที่เต็มไปด้วยความรุนแรง โดยเฉพาะเด็ก
ตัวอย่างหนัง Kingsman The Golden Circle
หนัง Kingsman The Golden Circle
ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ทั่วโลกไป 414 ล้าน จากทุนสร้าง 81 ล้านเหรียญ แน่นอนล่ะ ว่าเราต้องได้ดูภาคต่อกันแน่นอน เมื่อแรกทำกำไรได้ดี ภาคสองก็เลยได้อนุมัติทุนสร้างสูงขึ้นเป็น 104 ล้านเหรียญ และเพิ่มดาราเข้าไปอีกเพียบทั้งแชนนิง ทาทัม , ฮัลลี เบอร์รี , เจฟฟ์ บริดเจ็สและทารอน อีเกอร์ตัน , โคลิน เฟิร์ธ ,มาร์ค สตรองจากภาคแรก ถ้านับจูลีแอน มัวร์ อีกคน เรื่องนี้ก็รวมดาราออสการ์ไว้ถึง 4 คน
โดยรวมแล้วรู้สึกว่าหนังสนุกกว่าภาคแรก แม้ว่าภาคนี้จะยาวกว่าภาคแรกด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที แต่ก็เดินหน้าไปด้วยความเพลิดเพลิน มีมุกหยอดมาเรื่อย ๆ ไม่ถึงกับฮาแตกแต่ก็พอชวนยิ้มได้เรื่อย ๆ ฉากแอ็คชั่นเล็กใหญ่ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการเว้นช่วงกันนาน ดึงเสน่ห์ที่เป็นเอกลัษณ์ของหนังสายลับออกมาได้ครบ ทำให้เราสนุกไปกับโลกสายลับ ได้เห็นอุปกรณ์สายลับต่าง ๆ นานา ถูกนำมาใช้มากกว่าภาคแรก ได้เห็นรถที่แปลงร่างเป็นเรือได้ มีห้องบัญชาการลับ บรรดาตัวร้ายของเรื่องดูมีสีสัน ชาร์ลีมีแขนขวาเป็นหุ่นยนต์ที่มีพละกำลังสูง ป๊อปปี้มีองค์รักษ์เป็นหมาหุ่นยนต์ 2 ตัว เปรียบเสมือนบอสด่าน 1 ด่าน 2 ที่เอ็กซี่จะต้องกำจัดก่อนจะไปเจอตัวบอสอย่างป๊อปปี้
จุดหลักที่นำมาขายในภาคนี้คือการรวมพลังสายลับอังกฤษและอเมริกัน แต่พอเอาเข้าจริงคิงส์แมนก็ยังต้องอยู่ในสถานะพระเอกตามชื่อเรื่องนะ ตัวเอกที่เดินหน้าลุยก็ยังคงเป็นเอ็กซี่และแฮรี่ ฮาร์ตเช่นเดิม ฝ่ายสเตทแมน ก็เพียงสนับสนุนด้านยานพาหนะและอาวุธเท่านั้น ต้องเตือนไว้กันผิดหวังสำหรับคนที่คาดว่าจะได้เห็นแชนนิง ทาทัม ในบทสายลับออกมาวาดลวยลายกับเหล่าคิงส์แมน ไม่มีนะครับ บท”เตกิล่า”ของแชนนิง กากมาก แต่เหมือนทิ้งท้ายไว้ว่าจะได้มีบทบาทมากขึ้นในภาค 3 ตัวเด่นจริง ๆ จากฝั่งสเตทแมนคือพี่หนวดเปโดร พาสคาล จากซีรีส์ Narcos เปโดร มาในบท “วิสกี้”
มีอาวุธคู่มือคือบ่วงบาศเลเซอร์ ฟาดโดนอะไรขาดหมด วิสกี้ คนเดียวได้มีฉากโชว์ของตัวเองถึง 3 ฉากเลย ฮัลลี เบอร์รี่ จิงเจอร์เอล เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการ ก็ได้โผล่มาแค่ไม่กี่นาที เจฟฟ์ บริดเจ็ส มาในมาดเดิมเป๊ะ ที่เราเคยเห็นเขาใน Ironman และ The Giver การที่ได้เห็น เจฟฟ์ บริดเจ็ส และ โคลิน เฟิร์ธ มาร่วมฉากกัน ถือว่าเป็นวาระสำคัญเพราะคู่นี้แข่งกันบนเวทีออสการ์กันมาแล้วสองรอบ ปี 2009 เจฟฟ์ บริดเจ็ส ได้ออสการ์นำชายจาก Crazy Heart เอาชนะ โคลิน เฟิร์ธ ที่เข้าชิงจากเรื่อง “A Single Man” และในปี 2010 โคลิน เฟิร์ธก็เอาชนะเจฟฟ์ ได้บ้างจาก “The King’s Speech” ในขณะที่เจฟฟ์เข้าชิงจากเรื่อง “True Grit” ทารอน อีเกอร์ตัน พระเอกของเรื่องยังคงดูดีในชุดสูทคิงส์แมน ที่สวมแล้วดูเป็นพระเอ๊กพระเอก รอดูทารอนในมาดโรบิน ฮู้ด ปีหน้านะครับ
เจน โกลด์แมน คู่หูของผู้กำกับแมทธิว วอห์น มาร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์อีกครั้ง ก็ถือว่าเล่าเรื่องได้เก่ง แม้ไม่ต้องมีปริศนาหรือสถานการณ์ต้องเอาใจช่วยกับบรรดาตัวละคร แต่ก็ทำเราสนุกไปกับหนังได้ด้วยการหยอดฉากแอ็คชั่นมาตลอดทาง จุดที่น่าชื่นชมที่สุดคือการออกแบบฉากต่อสู้ บรรดาคิงส์แมนได้โชว์ท่าเท่ ๆ และประยุกต์ข้าวของรอบ ๆ ตัวมาเป็นอาวุธ มีสโลว์ภาพเน้นจังหวะเด่นเป็นระยะ ๆ มองเห็นถึงการเตรียมงานทำการบ้านมาได้เป๊ะมาก เป็นหนังที่เหมาะดูสบาย ๆ ผ่อนคลายจริง ๆ ครับ คิดซะว่านี่คือหนังการ์ตูนที่มีคนแสดง สนุกครับ เชียร์ครับ