รีวิว หนัง Justice League Zack Snyder’s
รีวิว หนัง Justice League Zack Snyder’s ปรากฏการณ์ที่ฉบับผู้กำกับได้รับความนิยมมากกว่าฉบับ Official
สำหรับคนที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์อยู่แล้วนั้นน่าจะพอทราบดีว่าการทำงานระหว่างค่ายภาพยนตร์และผู้กำกับนั้นเป็นอย่างไร ค่ายภาพยนตร์นั้นย่อมมีความต้องการสูงสุดที่จะทำให้ภาพยนตร์ที่ตัวเองสร้างนั้นสามารถทำกำไรได้อย่างงดงาม แต่ในฝั่งของผู้กำกับซึ่งเปรียบเสมือนกับศิลปินนั้นก็ย่อมต้องการให้ภาพยนตร์ที่ตัวเองสร้างออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดแม้ว่าจะไม่ได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุดก็ตาม
ด้วยความต้องการที่ไม่ตรงกันระหว่างค่ายภาพยนตร์และผู้กำกับทำให้ภาพยนตร์หลายเรื่องนั้นต้องประสบปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการที่ค่ายเลือกตัดภาพยนตร์โดยที่ไม่เคารพการตัดสินใจของผู้กำกับ จนทำให้ผู้กำกับนั้นตัดสินใจถอนตัวกลางคัน หรือไม่ก็เป็นเรื่องของงบประมาณที่ทางค่ายนั้นจำกัดจนผู้กำกับไม่สามารถสร้างภาพยนตร์ออกมาได้ดีเท่าที่ควร
ปัญหาโลกแตกนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะแก้ไขด้วยการพูดคุยกันก่อน แต่ก็มีบางกรณีที่ทางค่ายภาพยนตร์นั้นตัดสินใจที่จะนำเอาฉบับ official ที่ตัวเองนั้นเป็นคนตัดสินใจตัดภาพยนตร์ด้วยตนเองโดยอ้างอิงถึงความคิดเห็นผู้กำกับบางส่วนออกฉายในโรงภาพยนตร์ และนำเอาฉบับผู้กำกับตัดมาลงให้กับช่องทางอื่นๆ
แต่ด้วยความที่ฉบับ official นั้นเป็นฉบับที่ทุกคนรับทราบถึงการมีอยู่ของมันทำให้ส่วนใหญ่แล้วฉบับนี้ก็จะได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนฉบับผู้กำกับตัดนั้นก็จะได้รับความนิยมในกลุ่มแฟนคลับหรือคนที่ติดตามโดยเฉพาะ แต่ปรากฏการณ์ที่ฉบับผู้กำกับนั้นได้รับความนิยมมากกว่าฉบับ official ก็มีเช่นเดียวกัน อย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง Zack Snyder’s Justice League
แม้ว่าจะไม่ได้ออกฉายในโรงภาพยนต์และเลือกที่จะออกฉายผ่านโทรทัศน์ในช่อง HBO Go และ 3BB TVGIGATV แต่มันก็ได้รับความนิยมและกลายเป็นกระแสพูดถึงในวงกว้างมากกว่าตอนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในโรงภาพยนตร์เสียอีก ความแตกต่างแรกนั่นก็คือเวลาโดยภาพยนตร์ฉบับผู้กำกับตัดนั้นใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงในการรับชม ซึ่งเป็นเวลาที่ยาวนานกว่าฉบับที่ฉายในโรงภาพยนตร์เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว
ดังนั้นมันจึงน่าสนใจตรงที่เราจะได้เห็นภาพบางส่วนที่ถูกตัดออกและไม่ได้ฉายในโรงภาพยนต์และสามารถรับชมได้เฉพาะฉบับผู้กำกับตัดเท่านั้น
เรื่องราวที่น่าสนใจในภาพยนตร์เรื่อง Zack Snyder’s Justice League
Zack Snyder’s Justice League เป็นภาพยนตร์ฉบับต้นฉบับก่อนที่ทางค่ายภาพยนตร์นั้นจะนำเอาผู้กำกับท่านอื่นมารับช่วงต่อ ทำให้เรื่องราวนั้นจะมีบางส่วนที่แตกต่างออกไปหรือมีเพิ่มเข้ามา
สำหรับตัวละครไซบอร์กในเรื่องนี้เรานั้นจะได้เห็นภาพในอดีตของเขาที่เต็มไปด้วยปมของครอบครัวและความเจ็บปวด พี่สามารถบอกได้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ห่างไกลความเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน ส่วนตัวละครสายฉะนั้นเราจะได้เห็นความโรแมนติกของเขามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงฉากการใช้พลังที่ตื่นตาตื่นใจจนสามารถสร้างความรู้ระลึกให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี
อควาแมนในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้มีการเล่าเรื่องราวไปในทิศทางเดียวกันราวกับเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเล่าต่อกันโดยเฉพาะ มีการเล่าถึงเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างพี่น้องต่างพ่อรวมไปถึงการแสวงหาอำนาจจนก่อให้เกิดการต่อสู้ในที่สุด
และสำหรับตัวละครยอดนิยมที่ไม่สามารถขาดไปได้เลยใน DC นั่นก็คือโจ๊กเกอร์ที่ได้จาเรด เลโทมารับบทอีกครั้งเพื่อนลบคำสบประมาทที่เคยได้รับในภาพยนตร์เรื่อง Suicide Squad ก่อนหน้านี้ ซึ่งการกลับมาในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถลบความสบประมาทได้อย่างที่เขาต้องการ ฉากการปรากฏตัวนั้นเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและน่าประทับใจ
สำหรับคนที่ชื่นชอบซุปเปอร์แมนนั้นฉบับนี้ไม่ได้แตกต่างจากฉบับ Original เท่าไรนัก แต่ก็มีการเติมเต็มข้อบกพร่องรวมไปถึงช่องโหว่ของบทออกมาได้ค่อนข้างดี ในส่วนของวันเดอร์วูแมนและ Batman นั้นเรียกว่าไฮป์ขึ้นเป็นเท่าตัว และเรายังจะได้เห็นฉากโรแมนติกระหว่างทั้งสองคนที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เจาะสาเหตุทำไม Zack Snyder’s Justice League จึงได้รับความนิยมมากกว่าฉบับ Original
Zack Snyder’s Justice League เป็นฉบับผู้กำกับตัดที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและดูเหมือนว่ามันจะสามารถทำออกมาได้ดีกว่าฉบับ Original ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำไปในมุมมองของแฟนภาพยนตร์ ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าผู้กำกับอย่างแซ็ค สไนเดอร์นั้นได้ถอนตัวจาก Project นี้เนื่องจากเขานั้นต้องสูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับจากการอัตวินิบาตกรรมจากการเป็นโรคซึมเศร้า
ผู้กำกับมากฝีมือจึงตัดสินใจที่จะละทิ้ง Project ดังกล่าวและกลับไปให้เวลากับครอบครัวมากยิ่งขึ้นทำให้เขานั้นต้องถอนตัวจากภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างน่าเสียดาย ทางภาพยนต์จึงได้ตัดสินใจให้จอส วีดอน ผู้กำกับซึ่งมีประสบการณ์ในการสร้างภาพยนตร์ฮีโร่ใน Marvel มาก่อนมารับไม้ต่อ แต่สุดท้ายแล้วผลที่ออกมานั้นกลับกลายเป็นหายนะของภาพยนตร์ DC ในที่สุด เมื่อกระแสตอบรับที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควรทางค่ายจึงได้นำเอาฉบับที่แช็กทำตั้งแต่ในครั้งแรกมา Streaming บนโทรทัศน์เพื่อเอาใจแฟนคลับ จนในที่สุดก็สามารถกู้ชื่อเสียงภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาได้อีกครั้งจากกระแสตอบรับและบทวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม
ตัวอย่างหนัง Justice League Zack Snyder’s
หนัง Justice League Zack Snyder’s
คงจำกันได้ว่าสาเหตุที่ แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) ต้องถอนตัวออกจากโปรเจกต์ ‘Justice League’ เวอร์ชันฉายโรงปี 2017 เพราะการจากไปของ ออทัมน์ สไนเดอร์ (Autumn Snyder) ลูกสาวของเขา ที่ทำอัตวินิบาตกรรมจากโรคซึมเศร้า สไนเดอร์เลยขอกลับไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวพร้อมด้วยเดบอราห์ สไนเดอร์ (Deborah Snyder) ภรรยาของเขาก็ถอนตัวจากการเป๋็นโปรดิวเซอร์หนังในคราวนั้นด้วย
หลังจากหนังที่ทางวอร์เนอร์จ้างจอส วีดอน (Joss Whedon) ผู้กำกับหนัง ‘Avengers’ ของมาร์เวลมาสานต่องานและถ่ายแก้ใหม่โดยไม่ได้รับเครดิตผู้กำกับผลลัพธ์ก็ออกมาใกล้เคียงกับหายนะที่สเตปเพนวูล์ฟ (Steppenwolf) ตัวร้ายของหนังได้ก่อไว้นั่นแหละคือมันออกมาเร่งรีบและดูเป็นหนังฮีโรขายความบันเทิงประหนึ่งหนังมาร์เวลที่เอาตัวละครดีซีไปปู้ยี่ปู้ยำจนแฟนหนังดีซีหลายคนรับไม่ได้เลยเกิดการเรียกร้องผ่านแคมเปญ #Releasethesnydercut
เพื่อให้ทางวอร์เนอร์นำฉบับที่สไนเดอร์ตั้งใจทำแต่แรกออกฉายเพื่อล้างตาแฟน ๆ และด้วยผลตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเสียงเรียกร้องก็ได้ผล คุณพ่อและแม่แห่งบ้านสไนเดอร์รวบรวมพลังจากหัวใจที่แตกสลายกลับมาสานต่องานชิ้นนี้เป็นหนังรวมฮีโรความยาว 4 ชั่วโมงแบ่งเล่าเป็น 5 บทที่ตอบโจทย์ทั้งวิสัยทัศน์และความต่อเนื่องในซีรีส์หนังดีซีได้อย่างยอดเยี่ยมและสิ่งที่หลายคนอยากรู้ที่สุดคงหนีไม่พ้นว่าฉบับนี้มีอะไรต่างจากเดิมบ้างเรารวบรวมมาให้แล้วครับ
ส่วนใครรอการมาของซูเปอร์แมนในเวอร์ชันนี้แล้วหวังเห็นมุมอื่นที่ต่างจากเดิมก็ขอบอกว่ามันไม่ได้ชัดเจนเหมือนกรณีไซบอร์ก เดอะแฟลชหรืออควาแมนขนาดนั้นแต่เป็นงานดีไซน์ชุดที่เปลี่ยนไปชัดเจนและฉากบู๊ที่มีให้เห็นเยอะกว่าเดิมแต่โครงเรื่องนอกจากการชุบชีวิตแล้วก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นครับ ส่วนตัวละครที่บทบาทไม่เยอะแต่เท่เหลือเกินอย่างอัลเฟรด (Alfred) พ่อบ้านของนายท่านเวย์นนั้น
ก็ต้องบอกว่า เจเรมี ไอออนส์ (Jeremy Irons) เสน่ห์แรงมากเป็นคนแก่ที่ลูกล่อลูกชนเยอะสร้างสีสันได้ดีทีเดียว ส่วนท่านอธิบดีกอร์ดอน ของเจ เค ซิมมอนส์ก็ดูมีบทบาทมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยภาพรวมแล้วต้องบอกว่า ‘Zack Snyder’s Justice League’ ถือว่าเติมเต็มจุดบกพร่องและช่องโหว่ของเรื่องราวได้ดีทีเดียวแม้บทหนังของ คริส เทอริโอ (Chris Terrio) จะยังมีช่องโหว่ตรงการเฉลี่ยน้ำหนักให้ตัวละครแต่ละตัวอยู่บ้างหรือบทสรุปที่หนังก็เลือกจะปลายเปิดไว้เพื่อรอหนังภาคต่อไปหรือหนังในจักรวาลมาสานต่อจนบางประเด็นยังไม่เคลียร์อยู่บ้าง
แต่อย่างน้อยการที่พ่อและแม่ตระกูลสไนเดอร์กลับมาสานต่อเรื่องราวโดยยังคงหัวใจของประเด็นครอบครัวพร้อมบทสรุปที่หนังตั้งชื่อว่า ‘ได้เป็นพ่อถึงสองครั้ง’ ก่อนจะจบด้วยตัวอักษรแด่ ออทัมน์ สไนเดอร์ (For Autumn) แล้วก็คงยากที่เราจะไม่คารวะหัวใจของ แซ็ก สไนเดอร์ และ เดบอราห์ สไนเดอร์