รีวิว หนัง Jagame Thandhiram
รีวิว หนัง JAGAME THANDHIRAM เมื่ออาบังขายโรตีผันตัวเป็นนักฆ่า
ภาพยนตร์อินเดียในปัจจุบันได้รับการพัฒนาจนสามารถลบภาพจำเก่าๆ ออกไปได้แทบจะหมดสิ้นแล้วกับการใส่ชุดส่าหรีผ้าบางๆ แล้วเต้นข้ามไปมาระหว่างโขดหินพร้อมกับร้องเพลง เมื่อพูดถึงภาพยนตร์อินเดียในตอนนี้คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงภาพยนตร์แนวดราม่าชีวิต หรือแนวใหม่ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจอย่างเช่นภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ซึ่งเป็นแนว Dark Comedy ผสมกับแนวฮีโร่นั่นก็คือ Jagame Thandhiram
เป็นภาพยนตร์ตลกร้ายที่จะทำให้เราหัวเราะไม่ออกอย่างแน่นอน เพียงแค่เปิดเรื่องมากับการที่อาบังขายโรตีในลอนดอนต้องกลายมาเป็นนักฆ่า Anti Hero นั้นก็ว่าหนักแล้ว เรื่องราวยังลามไปจนถึงการปะทะกันของกลุ่มมาเฟียสัญชาติอินเดียและอังกฤษในเมืองลอนดอน หลังจากนั้นเรื่องราวก็ลุกลามไปเล่าถึงเกี่ยวกับผู้อพยพจากศรีลังกาที่อังกฤษนั้นเป็นต้นเหตุของปัญหาของการอพยพที่เกิดขึ้น
นับเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์อินเดียบน netflix ที่น่าสนใจ ที่หากคุณมีบัญชี netflix อยู่แล้วเราอยากจะแนะนำให้ลองรับชมว่าถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์สัญชาติอินเดียแต่ก็มีการลงทุนยกกองไปถ่ายถึงในเมืองลอนดอน ทั้งงานภาพ นักแสดง บท และเรื่องราวนั้นถือว่าสามารถออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมและมีความลงตัว แม้ว่ามันจะมีจุดด้อยอยู่บ้างแต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่คุ้มค่าแก่การรับชมไม่น้อย
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Jagame Thandhiram
Jagame Thandhiram เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าซุรูลี เบื้องหน้านั้นเขาเป็นคนอินเดียที่เปิดร้านโรตีอยู่ในเมืองลอนดอนตามปกติเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขานั้นเป็นถึงมือปืนขาโหดรายใหญ่ที่สามารถกำจัดคนได้อย่างแนบเนียน ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาถูกมาเฟียสัญชาติอังกฤษจ้างให้ไปเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการแก๊งมาเฟียคู่อริสัญชาติอินเดียให้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือน
แต่ด้วยค่าจ้างที่สูงถึง 2 000 ปอนด์ต่อสัปดาห์พร้อมกับการย้ายสถานะเป็นพลเมืองอังกฤษพร้อมกับการเปิดร้านอาหารอินเดียในลอนดอนทำให้เขานั้นตัดสินใจที่จะทำงานดังกล่าวแม้ว่าจะต้องใช้ล่ามอินเดียมาช่วยแปลภาษาก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนกลายมาเป็นลูกน้องคนโปรดของมาเฟียอังกฤษและได้ครอบครองกิจการร้านค้ามากมาย
ชายชาวอินเดียที่ต้องจัดการมาเฟียสัญชาติอินเดียเพราะไปเป็นลูกจ้างของมาเฟียอังกฤษก็ถือว่าเป็นเรื่องตลกร้ายมากพออยู่แล้ว แต่หลังจากที่เขาได้คลุกคลีกับปัญหาระหว่างทั้ง 2 แก๊งก็พบว่ามีเรื่องราวที่มันลึกซึ้งไปมากกว่านั้นโดยเฉพาะการอพยพของชาวศรีลังกาและการเมืองระหว่างศรีลังกาและอังกฤษ ปัญหาที่ชาวอังกฤษมีกับประเทศอินเดียมาอย่างยาวนาน ทำให้เขาพบว่าสิ่งที่ตนเองกำลังลงมือทำนั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับชาวอินเดียเชื้อสายทมิฬอย่างเขา เมื่อหัวหน้าของเขานั้นต้องการที่จะหารายได้จากผู้อพยพชาวทมิฬจากศรีลังกาที่หนีภัยสงครามจากการรุกรานของอังกฤษ
ทำให้จากมือปืนที่รับจ้างจัดการปัญหาระหว่างแก๊งมาเฟียกลับกลายมาเป็นฮีโร่ที่ไม่มีใครรู้จักได้เข้ามาแก้ไขเกี่ยวกับสถานการณ์ทางกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความคลุกรุ่นระหว่างชาวอังกฤษและผู้อพยพชาวศรีลังกา สุดท้ายแล้วเรื่องราวของฮีโร่ลับๆ ผู้นี้จะจบลงอย่างไรต้องติดตามในภาพถ่าย
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Jagame Thandhiram
Jagame Thandhiram เป็นภาพยนตร์สัญชาติอินเดียที่มีความแปลกใหม่เนื่องจากลงทุนยกกองไปถ่ายทำในประเทศอังกฤษตลอดทั้งเรื่อง เป็นการเล่าเรื่องแนวอาชญากรรมผสมตลกร้ายไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวละครหลักของเราเป็นชาวอินเดียที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้แต่ต้องมาทำงานให้กับมาเฟียชาวอังกฤษ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นมือปืนชาวอินเดียที่เป็นลูกน้องมาเฟียชาวอังกฤษที่ต้องไปจัดการกับแก๊งมาเฟียชาวอินเดียด้วยกัน เรื่องราวที่สุดแสนจะวุ่นวายเหล่านี้กลายมาเป็นมุขตลกที่ทำให้ผู้รับชมขำไม่ออกได้เป็นอย่างดี
แม้ว่ามันจะดูเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรมากมายแต่ความจริงแล้วภาพยนตร์ได้ลงไปแตะปัญหาทางการเมืองแบบเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างชาวทมิฬและชาวสิงหลในศรีลังกา ปัญหาการรุกรานทางการเมืองของอังกฤษต่อชาวศรีลังกาที่ทำให้ชาวทมิฬนั้นต้องอพยพมายังอังกฤษแต่แล้วก็ต้องมาเจอกับมาเฟียอังกฤษที่ต้องการจะหาผลประโยชน์กับตนเองอีก
เมื่อตัวละครหลักของเราได้รับรู้ถึงปัญหาที่หยั่งรากลึกลงไปในสังคมเกี่ยวกับด้านการเมืองเขาจึงได้ผันตัวไปเป็นฮีโร่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่อย่างไรก็ตามนักฆ่าตัวเล็กคนเดียวในลอนดอนที่อยู่ระหว่างความขัดแย้งของแก๊งมาเฟียนั้นการจะทำอะไรไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีเรื่องราวปัญหาความรักเข้ามาเกี่ยวข้องอีกยิ่งทำให้เรื่องราววุ่นวายไปกันใหญ่
อย่างไรก็ตามขอให้ทำใจเอาไว้ก่อนว่าในช่วงแรกเราจะเกลียดตัวพระเอกอย่างแน่นอนก่อนจะมาเห็นใจในชะตากรรมของเขาในช่วงหลัง ฉากแอ็กชันเต็มไปด้วยความโหดและความรุนแรงดังนั้นมันจึงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กอย่างแน่นอน จุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้คือมีบางฉากที่ใส่ออกมายืดยาวโดยที่ไม่จำเป็น มีหลายครั้งที่มุมกล้องวนไปวนมารอบตัวละครจนทำให้รู้สึกเวียนหัว มีหลายฉากที่มีความขาดๆ เกินๆ แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รับชมอยู่ดี
ตัวอย่างหนัง JAGAME THANDHIRAM
หนัง JAGAME THANDHIRAM
หนังอินเดียทุนสร้างที่ยกกองไปถ่ายทำที่ลอนดอน อันเป็นฉากหลังใหญ่ของเรื่องราวแก๊งมาเฟียอินเดียกับอังกฤษปะทะกันในลอนดอน โดยมีตัวเอกชื่อ “ซุรูลี” เป็นมือปืนขาใหญ่เจ้าของร้านโรตีที่ถูกมาเฟียอังกฤษจ้างมาให้เป็นที่ปรึกษาหาทางจัดการแก๊งมาเฟียอินเดียคู่อริให้ได้ภายใน 1 เดือน แต่เรื่องราวไม่ได้หยุดอยู่ตรงจุดนั้น ตัวหนังกลับลงลึกไปถึงเรื่องการเมืองกับผู้อพยพ และปัญหาของอังกฤษที่มีต่ออินเดียมาช้านาน ซึ่งซุรูลีเองก็ได้กลายเป็นฮีโร่ลับๆ ช่วยแก้ไขสถานการณ์คุกรุ่นทางการเมืองของผู้อพยพกับชาวอังกฤษได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หนังเรื่องนี้วางแนวตัวเองเป็นแอ็กชั่นดาร์กคอมเมดี้ เป็นการเล่าชีวิตของซุรูลีนักเลงหรือมือปืนขาใหญ่ที่มีฝีมือเหลือร้ายมาก จนเขาได้รับการติดต่อให้ไปช่วยเหลือมาเฟียอังกฤษ ด้วยค่าจ้าง 2 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน พร้อมกับเสนอสถานะพลเมืองอังกฤษกับร้านอาหารอินเดียให้ในลอนดอน ซึ่งในครึ่งแรกของเรื่องคือการทำงานของซุรูลีที่มาลอนดอนทั้งๆ ที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ต้องมีล่ามคนอินเดียมาช่วยแปลอีกที และก็ใช้ความไม่รู้ภาษาอังกฤษของซุรูลีมาเป็นมุกตลกเล็กๆ ประกอบเรื่อง ผสมกับการเจาะเครือข่ายแก๊งชาวอินเดียด้วยกัน ที่หาเงินจากปืนเถื่อนแลกเป็นทอง ผ่านบริษัทจัดงานศพกับงานแต่งงานของชาวอินเดียในลอนดอน ซึ่งซุรูลีก็สามารถเจาะเส้นทางเครือข่ายพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย จนช่วยมาเฟียอังกฤษถล่มปิดบัญชีแก๊งอินเดียชาวทมิฬนี้ได้อย่างราบคาบ
แต่ครึ่งแรกของเรื่องกลับไม่ใช่หัวใจหลัก เพราะตัวเรื่องจริงๆ เริ่มจากจุดที่ซุรูลีประสบความสำเร็จและได้กลายมาเป็นลูกน้องคนสำคัญของมาเฟียอังกฤษ มีกิจการร้านรวงในครอบครองมากมาย แต่เขากลับพบว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปกลายเป็นความอัปยศที่สุดของชาวอินเดียเชื้อสายทมิฬ เมื่อปีเตอร์หัวหน้าแก๊งมาเฟียอังกฤษกลับคิดการใหญ่กว่านั้น ในการหากินกับผู้อพยพที่หนีมาจากที่อิ่น โดยเฉพาะชาวทมิฬที่ศรีลังกา ที่ต้องหนีภัยสงครามกับการแบ่งแยกการปกครองที่มีต้นเหตุมาจากอังกฤษ แถมยังมีแผนการผลักดันกฎหมายจับกุมผู้อพยพอย่างรุนแรงเข้าคุกที่เขาสร้างขึ้นมาเอง โดยฮั้วกับนักการเมืองในสภา และมีซุรูลีเป็นตัวหมากสำคัญในแผนการนี้
ตัวหนังจริงๆ ถือว่าดูได้เพลินๆ แม้ความยาวจะถึง 2 ชั่วโมง 37 นาที แต่หนังกลับใช้เวลาไปกับฉากเต้นประกอบเพลงตามสูตรหนังอินเดียมากไปหน่อย เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นหนังโรงที่เน็ตฟลิกซ์ซื้อมาถึงมีฉากเต้นเยอะมากจากปกติที่ออริจินอลเน็ตฟลิกซ์มักไม่ค่อยทำกัน ซึ่งผู้เขียนไม่ได้มีปัญหากับฉากเต้นในหนังอินเดีย แต่เพราะเรื่องนี้ฉากเต้นกลับใส่มาแบบไม่เหมาะเจาะกับเรื่อง อย่างฉากเต้นในงานหมั้นของตัวเอกตอนแรกที่ยาวนานก็ไม่ได้เป็นฉากสำคัญกับเรื่องราวเลย เพราะโดยปกติฉากเต้นของหนังอินเดียคือการบอกเล่าเรื่องราวแบบรวดรัดผ่านบทเพลงกับท่าเต้น แต่ในเรื่องนี้กลับเอามาใช้สุรุ่ยสุร่ายไม่ได้เป็นฉากสำคัญใดๆ แถมยังยืดเยื้อยาวมาก เพลงก็ไม่เพราะติดหู ท่าเต้นก็ไม่ได้ทำได้ดีอะไร ฉากเต้นที่เป็นส่วนสำคัญของหนังอินเดียบอลลีวู๊ดเลยกลายเป็นส่วนแย่ๆ ของเรื่องที่อยากกรอข้ามไปซะมากกว่า
แต่ก็ต้องถือว่าเป็นหนังที่กล้าเล่าเรื่องการเมืองปัญหาจากประวัติศาสตร์จริงของอังกฤษกับอินเดีย แถมยังยกกองถ่ายทำหลักในอังกฤษอีก เรียกว่าลงทุนมากพอตัวกับเซ็ตติ้งแก๊งอินเดียในลอนดอน ส่วนตัวปีเตอร์เจ้าพ่อแก๊งอังกฤษ บทจะออกแนวให้ดูติดตลกมากกว่า แม้การกระทำต่างๆ จะออกแนวมาเฟียจริงจังก็ตาม แต่นักแสดงเล่นแนวโอเว่อร์แอ็กติ้งจนทำให้ดูติดตลกร้าย ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรเพราะตัวเรื่องก็วางแนวนี้มาตั้งแต่แรกกับตัวซุรูลีที่ทำร้านโรตีแต่ประกอบระเบิดได้ในชั่วพริบตา ซึ่งตลกร้ายในเรื่องนี้แม้จะไม่ถึงกับขำก๊ากได้ แต่ก็แอบเจ็บแสบนิดๆ พอดูเหมือนกัน ยิ่งกับตอนจบของเรื่องบทสรุปของปีเตอร์กับซุรูลีถือว่าเจ็บแสบ และแอบเผื่อไว้เป็นภาคต่อได้อีก เพราะซูรูลีเองก็กลายมาเป็นพระเอกแอนตี้ฮีโร่ที่พร้อมจะช่วยคนอินเดียด้วยกันในต่างแดนไปแล้ว