รีวิว หนัง His House Netflix
รีวิว หนัง His House Netflix ภาพยนตร์สยองขวัญผสมผสานจิตวิทยาที่เพิ่มความหลอนได้เป็นอย่างดี
หากให้เปรียบเทียบความน่ากลัวระหว่างภาพยนตร์สยองขวัญที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติโดยตรงกับภาพยนตร์สยองขวัญที่ผสมผสานจิตวิทยาเข้ามาด้วย สำหรับหลายคนแล้วภาพยนตร์ที่ผสมผสานจิตวิทยาเข้ามาด้วยจะสามารถสร้างความกลัวได้มากยิ่งขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่ามันมีความใกล้ตัวเป็นอย่างมาก เวลาที่ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวจะสามารถทำให้ผู้รับชมอย่างเราเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกในภาพยนตร์ได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันภาพยนตร์สยองขวัญส่วนใหญ่จึงได้มีการนำเอาจิตวิทยาเข้ามาผสมผสานเพื่อเพิ่มความสยองขวัญให้กับภาพยนตร์ของตัวเองมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง Get Out ที่นำเอาพิธีกรรมลึกลับสุดสยองขวัญมารวมเข้ากับจิตวิทยาได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ His House แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์บน Netflix แต่ด้วยคุณภาพของมันทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอีกหนึ่งเรื่องที่ติดอันดับยอดนิยมในปี 2020
สิ่งที่เราจะได้รับจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสยองขวัญดาษดื่นทั่วไปที่พอรับชมจบแล้วก็รู้สึกหลอนต่อไปเป็นเวลาประมาณ 2-3 วันแล้วก็หาย แต่มันจะสร้างความกลัวให้กับคุณแถมยังมีประเด็นข้อคิดมากมายให้คุณได้เอามาแตกแขนงคิดกันต่อได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย มันอาจจะไม่ได้มีสิ่งลี้ลับน่ากลัวโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัดเหมือนภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง The Conjuring แต่รับรองได้ว่ามันจะสามารถสร้างความกลัวให้กับคุณได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน
เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง His House
His House เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวสามีภรรยาชาวผิวสีคู่หนึ่งที่มีชื่อว่าโบลและริอัล โชคร้ายที่ทั้งสองคนนั้นต้องเผชิญกับภาวะสงครามในประเทศบ้านเกิดของพวกเขาอย่างซูดานใต้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องหนีตายด้วยการลี้ภัยสงครามมายังประเทศอังกฤษด้วยเรือ การเดินทางมาครั้งนี้สำหรับทั้งคู่ก็ไม่ต่างอะไรจากการหนีตายเอาดาบหน้า แม้ว่าพวกเขาจะได้ที่พักใหม่หลังจากที่ตั้งอยู่ในศูนย์พักพิงมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ระหว่างทางพวกเขาก็ต้องพบเจอกับเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลดเมื่อลูกสาวของพวกเขาทั้งสองที่มีชื่อว่าเนียกัดบังเอิญตกเรือลงไปในน้ำและทำให้เธอนั้นเสียชีวิตระหว่างเดินทาง พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะกู้ร่างงไร้วิญญาณของลูกสาวมาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ด้วยซ้ำไป
สองสามีภรรยาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและการสูญเสียลูกสาวในครั้งนี้ก็ได้กลายมาเป็นปมในจิตใจของพวกเขาในที่สุด แม้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะได้อยู่ในบ้านใหม่ที่ดีกว่าศูนย์พักพิงหลังจากที่ทางรัฐบาลอังกฤษเรียกตัวเขาไปรับทราบ แต่อย่างไรก็ตามการเป็นผู้ลี้ภัยสงครามในอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะพวกเขาที่เป็นชาวผิวสีแถมยังไม่พูดภาษาอังกฤษอีกด้วย พวกเขาต้องเผชิญกับกฎระเบียบมากมายและต้องพยายามทำตัวให้ดีอยู่เสมอไม่เช่นนั้นก็จะถูกตัดสิทธิ์เป็นผู้ลี้ภัยและมีโอกาสที่จะถูกส่งกลับไปยังซูดาน
หลังจากย้ายเข้าบ้านใหม่ทุกอย่างกลับไม่เหมือนกับที่ทั้งสองคิดเอาไว้ แม้ว่ามันจะดีกว่าการอยู่ในศูนย์พักพิงแต่บ้านนั้นทั้งโทรม ไม่มีไฟฟ้า บ้านยังมองว่าพวกเขานั้นเป็นตัวประหลาดอีกด้วย แต่ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างความวุ่นวายเทียบเท่ากับวิญญาณ อำนาจมืด ปีศาจที่แฝงตัวอยู่ในบ้านของเขา พอรวมเข้ากับสภาพจิตใจที่ไม่ปกติทำให้ทั้งสองคนต้องเผชิญกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความย่ำแย่และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในที่สุด
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง His House
His House เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ผสมผสานจิตวิทยาเข้ามาได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นยังเล่าประเด็นดราม่าได้อย่างกลมกล่อมลงตัว ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปอีกด้วย เรียกว่าไม่ตกม้าตายเหมือนภาพยนตร์สยองขวัญอีกหลายเรื่องที่พยายามจะใส่ความดราม่าเข้ามาแต่กลับใส่เข้ามาได้ไม่ลงตัวเท่าที่ควรจนทำให้อรรถรสของเรื่องราวโดยรวมเสียไป
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเริ่มต้นมาด้วยความระอามากของครอบครัวหนึ่งที่เดินทางหนีสงครามมาจากซูดาน ย้ายถิ่นฐานมายังอังกฤษที่ห่างไกลแถมวัฒนธรรมก็ยังไม่เหมือนกัน และด้วยความที่พวกเขาเป็นคนผิวสีทำให้พวกเขายิ่งถูกปฏิบัติด้วยแย่ลงไปอีก ต้องสูญเสียลูกสาวระหว่างทางไปไม่พอยังต้องมาอยู่ในบ้านใหม่ที่เต็มไปด้วยความทรุดโทรมและมีวิญญาณร้ายแฝงตัวอยู่
ชีวิตที่ย่ำแย่เริ่มทำให้ตัวละครสติแตก พวกเขาเริ่มแยกไม่ได้ว่าอะไรเป็นเรื่องจริงอะไรเป็นสิ่งที่หลอนอยู่ภายในหัวของตัวเอง เมื่อพวกเขาแยกไม่ได้สิ่งที่พวกเขาทำจึงเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลและน่าอันตราย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะกฎระเบียบที่ทางรัฐบาลอังกฤษมอบให้กับพวกเขานั้นเหมือนบีบบังคับให้พวกเขาต้องจำยอมอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว
พอรับชมไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มสัมผัสได้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่น่ากลัวอาจจะไม่ใช่ความลึกลับดำมืดที่แฝงอยู่ภายในบ้าน แต่เป็นจิตใจของมนุษย์ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวเลวร้ายที่มนุษย์ด้วยการสร้างขึ้นมาจนทำให้เกิดการสูญเสีย ต้องเผชิญความรุนแรงจากสงคราม เผชิญความไม่เท่าเทียมกันระหว่างชนชาติ ซึ่งภาพยนตร์สามารถสอดแทรกประเด็นเหล่านี้เข้ามาได้อย่างยอดเยี่ยม
ตัวอย่างหนัง His House
รีวิว หนัง His House บางส่วนจาก beartai
ปัญหาผู้อพยพในยุโรปน่าจะเป็นวาระแห่งทวีปที่คลุมบรรยากาศตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นธรรมดาที่คนทำหนังอย่าง เรมี วีกเกส ผู้กำกับดาวรุ่งชาวอังกฤษ จะนำความรู้สึกหวาดกลัวลึก ๆ ในใจของทั้งผู้อพยพจากต่างถิ่นต่างแดน หอบหิ้วความทรงจำอันโหดร้ายจากสงครามกลางเมืองในบ้านเกิดมาสู่ชีวิตใหม่อันแปลกแยก และทั้งผู้ให้ที่พำนักที่ต้องเฝ้ามองผู้มาขออาศัยอย่างหวาดระแวง ทั้งปัญหาต่างวัฒนธรรม โรคระบาด การแย่งงานแย่งอาชีพ ตลอดภาระด้านภาษีของประเทศที่ต้องเจียดไปให้แก่คนเหล่านั้น ดั่งโฮสต์ที่เฝ้ามองปรสิตว่าเป็นประเภทกาฝาก ประเภทพึ่งพิง หรือเป็นต้นเหตุของเนื้อร้าย
โบล (โซปี ดิริซู) และ ริอัล (วุนมี โมซากู) คือคู่สามีภรรยาที่หนีตายจากสงครามกลางเมืองในซูดาน นั่งเรืออพยพฝ่าพายุเพื่อไปยังอังกฤษ (นึกอารมณ์ข่าวที่ชาวโรฮิงญาหนีตายมาขอขึ้นฝั่งไทย) แต่โชคร้ายเรือเกิดคว่ำกลางทางจนทำให้พวกเขาสูญเสีย นากัค ลูกสาวคนเดียวไป ทว่าบททดสอบชีวิตใหม่ของพวกเขาก็เริ่มต้นจากนั้น เมื่อรัฐบาลอังกฤษวางเงื่อนไขในการประเมินว่าโบลและริอัลจะสามารถลี้ภัยพำนักในอังกฤษได้หรือไม่ ถ้าไม่ก็จะส่งตัวกลับไปที่ซูดาน ความกดดันจึงเกิดขึ้นกับโบลในฐานะหัวหน้าครอบครัวอย่างมาก
ในขณะที่ด้าน ริอัล กลับยังรู้สึกฝังใจกับการสูญเสียนากัคจนเริ่มเหมือนคนบ้า เมื่อเธอได้ยินเสียงของใครบางคนในบ้านบอกว่า หากสังเวยสามีของเธอ นากัคจะคืนชีพได้ ริอัลรู้ทันทีว่านี่คือเสียงของหมอผีในความเชื่อของแอฟริกาที่เธอได้ยินผ่านนิทานมาตลอด ว่ามันจะตามสาปแช่งหัวขโมยผู้ละโมบมายึดบ้านยึดชีวิตของโจรผู้นั้น และความเชื่อนี้ก็ถูกส่งต่อจากริอัลสู่โบล เมื่อโบลเริ่มได้ยินและเห็น ร่างของผู้อพยพที่ตายไปบนเรือคอยมาหลอกหลอนถึงในบ้านเขาเอง โบลหวาดผวาอย่างหนักขณะเดียวกันริอัลก็ทำตัวแปลก ๆ และกล่าวโทษเขาว่าเป็นคนผิดอยู่เสมอ ซึ่งอีกด้านผู้ประเมินของรัฐบาลอังกฤษก็เริ่มเพ่งเล็งพฤติกรรมแปลกประหลาดของคู่สามีภรรยาด้วย
หนังประสบความสำเร็จในการนำเสนอความย้อนแย้ง และบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจ จากการอยู่ผิดที่ แปลกแยกจากคนท้องถิ่น ทั้งจากฉากที่เพื่อนบ้านผิวขาวมักจ้องมองพวกเขาอย่างไม่วางใจ ความไร้อารยธรรมของสังคมที่เชื่อว่าเจริญแล้ว อย่างฉากที่นักเรียนสาวผิวขาวเข้ามาแอบนั่งฉี่ในรั้วบ้านต่อหน้าริอัล หรือการที่ริอัลถูกคนที่สีผิวหน้าตาไม่ต่างจากเธออย่างพวกนักเรียนชายอังกฤษผิวดำแกล้งหลอกให้หลงทาง แถมตะโกนไล่ให้กลับแอฟริกา ก็ชวนให้ผู้อพยพที่เคยฝันหวานต้องฝันสลายอยู่ไม่น้อย ไม่แปลกที่ริอัลจะมีใจฝักใฝ่ยอมรับคำเชิญจากปีศาจเพื่อได้กลับบ้าน