รีวิว หนัง Heist Netflix
รีวิว หนัง Heist Netflix มินิซีรีส์ที่จะเล่าเรื่องราวการปล้นโดยคนธรรมดาที่เคยเกิดขึ้นจริง
ซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการปล้นส่วนใหญ่นั้นก็มักจะเล่าถึงตัวละครที่เต็มไปด้วยความสามารถหรืออำนาจมืด แต่ลองนึกถึงโลกแห่งความเป็นจริงที่ปกติแล้วคนที่ก่อเหตุปล้นต่างๆ นั้นก็เป็นคนธรรมดาทั่วไปที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ช่วงเวลาตั้งแต่ก่อนปล้นไปจนถึงหลังปล้นเสร็จของพวกเขานั้นจะเป็นอย่างไรเราแทบไม่มีวันได้รู้เลย แถมภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการปล้นยังไม่ได้บอกเล่าถึงการปล้นของคนธรรมดาพวกนี้แต่อย่างใด
หากคุณอยากจะรับรู้เรื่องราวที่สร้างมาจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงของการปล้นโดยคนธรรมดา เราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง Heist เป็นซีรีส์ตอนสั้นที่มาเพียงแค่ 6 ตอน แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องราวที่จบในตอนแต่การเล่าเรื่องแต่ละเรื่องนั้นก็กินเวลาเพียงแค่ 2 ตอนหรือใช้เวลาเทียบเท่ากับรับชมภาพยนตร์เพียงแค่ 1 เรื่องเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นซีรีส์ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากจะรับชมแต่ไม่ค่อยมีเวลา
ความน่าสนใจของมันก็คือการเล่าเรื่องราวการก่อคดีปล้นที่ล้วนแล้วแต่มาจากกลุ่มคนธรรมดาทั่วไปชนชั้นกลางหรือชนชั้นล่างที่ต้องเผชิญกับปัญหาทั้งครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม นอกจากเราจะได้ลุ้นระทึกไปกับการปล้นของพวกเขาแล้วเราจะยังจะได้เห็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจลุกขึ้นมาเป็นอาชญากรอีกด้วย เรื่องราวอาจจะไม่ได้เต็มไปด้วยความสนุกสนานหรือความบันเทิงเมื่อเทียบกับซีรีส์แนวปล้นเรื่องอื่น แต่สิ่งที่คุณจะไม่ได้รับจากซีรีส์แนวปล้นเรื่องอื่นก็คือความเป็นจริงที่บอกเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Heist
Heist เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของคดีปล้น 3 คดีด้วยกัน คดีด้วยกันคดี คดีด้วยกันคดีและ คดีด้วยกันคดีแรกจะเล่าถึงเรื่อง คดีด้วยกันคดีแรกจะเล่าถึงเรื่องราวของอดีตนักโทษอย่างโรเบอร์โต้ ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกตัดสินให้ต้องจำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากก่อเหตุฆาตกรรมคนขับรถขนเงินหุ้มเกราะในปี 1969
แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนมีความสามารถด้านการเขียนทำให้ช่วงที่อยู่ในคุกเขาได้ทำผลงานออกมามากมายและช่วยให้เขาได้อุทธรณ์โทษจนเหลือจำคุกเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้นก่อนจะถูกปล่อยออกมา แต่เขากลับไม่ใช้ความสามารถในการทำงานสุจริตและเลือกที่จะล่อลวงหญิงสาวที่มีชื่อว่าเฮเธอร์ วัยรุ่นขาดความรักและความอบอุ่นให้มาเป็นผู้ช่วยในการก่อเหตุโจรกรรม เขาได้ทำการวางแผนปล้นเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์ที่ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนอะไร แค่อาศัยช่องโหว่ของระบบขนเงินมาใส่ในตู้ ATM แม้ว่าภารกิจจะสำเร็จแต่พวกเขาก็กลายเป็นเป้าหมายที่ fbi กำลังตามล่า
เรื่องที่ 2 จะเล่าถึงลูกหลานชาวคิวบาที่อพยพมาตั้งรกรากใหม่ในอเมริกาที่มีชื่อว่าคาร์ล เขาอาศัยอยู่ในเมืองฟลอริดาที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย และด้วยเหตุนี้ทำให้มันมีแก๊งต่างๆ มากมายผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด Fortify เป็นเมืองที่สะสมทั้งปัญหาความรุนแรง ยาเสพติด รวมไปถึงการก่อเหตุอาชญากรรมที่มีอัตราพุ่งสูงปรี๊ด แม้ว่าเขาจะได้แต่งงานมีความสุขกับคนที่เขารักแต่หลังจากที่ภรรยาตั้งท้องพวกเขาก็ต้องสูญเสียลูกไป ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงเด็กแต่มันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาลที่เขาไม่สามารถหาได้ แต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่าเพื่อนของเขานั้นได้ทำงานเป็นคนขับรถขนเงิน โดยจะต้องขนเงินสดจำนวน 100 ล้านดอลลาร์จากเครื่องบินมาเก็บเอาไว้ในโกดัง ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ทำการวางแผนปล้นเงินโดยรวบรวมญาติพี่น้องฝีมือดีที่ได้รับการชักชวนให้มาร่วมขบวนการด้วยกัน แม้จะไม่มีความรู้แต่เขาก็ทำการศึกษาจาก FBI ทั้งจากข่าว สารคดี รวมไปถึงซีรีส์
เหตุการณ์สุดท้ายนั้นเล่าถึงเรื่องราวในปี 1999 นักกีฬาซอฟท์บอลร่างใหญ่อย่างโทบี้นั้นมีชีวิตที่เหมือนจะประสบความสำเร็จ แต่หลังจากที่เขาแต่งงานชีวิตของเขาก็ยากมากขึ้นเพราะเขาต้องหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว แถมยังต้องเลิกเล่นในสิ่งที่ชอบอย่างซอฟต์แวร์เพื่อทำงานในโรงกลั่นเหล้าแห่งหนึ่งแทน ชีวิตของเขาก็เหมือนกลุ่มผู้ใช้แรงงานทั่วไปจนกระทั่งเพื่อนของเขามาขอซื้อเหล้าราคาแพง หลังจากนั้นเล่าเหล่านี้ก็เริ่มมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนราคาเพียงแค่หลักสิบพุ่งขึ้นไปถึง 4000 ดอลลาร์ ภารกิจการปล้นเหล้าจึงได้เกิดขึ้น
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Heist
Heist เป็นซีรีส์ที่เหมือนกับรับชมสารคดีที่มีตัวละครแสดงแทนให้เราได้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีตว่าการปล้นของคนทั่วไปนั้นเป็นอย่างไร เวลาที่เรารับชมซีรีส์แนวปล้นเรื่องอื่นเราจะรู้สึกว่าเรื่องราวมันช่างเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและความสนุกสนาน ผู้คนที่ออกมาปล้นนั้นต่างก็มีวิสัยทัศน์และความต้องการที่ยิ่งใหญ่ แต่ความเป็นจริงแล้วแรงจูงใจที่ทำให้คนธรรมดาลุกขึ้นมาปล้นไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปมากกว่าการที่พวกเขาต้องการเงินเป็นจำนวนมากแต่พวกเขาไม่มีทางที่จะหามันมาได้ด้วยตัวเอง
ทำให้นอกจากมันจะเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานแล้วยังเปรียบกับอุทาหรณ์เตือนใจให้กับผู้รับชมอีกด้วยว่าการกระทำที่ไม่ถูกต้องนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อเราในแง่ร้ายในภายหลัง แม้ว่าบางตัวละครจะสามารถปล้นและหนีไปได้ มีชีวิตที่ได้เสวยสุขอยู่สักพักสุดท้ายแล้วกันก็จะหวนกลับมาตามสนองเขาอยู่ดี
โดยรวมแล้วซีรีส์เรื่องนี้สามารถทำออกมาได้อย่างสนุกสนาน การเล่าเรื่องกระชับรวดเร็ว งาน Production มีคุณภาพ สามารถถ่ายทอดการปล้นของคนธรรมดาออกมาตั้งแต่ในช่วงของการเกิดแรงจูงใจไปจนถึงจุดจบของพวกเขาออกมาได้อย่างละเอียดรอบคอบ ถือเป็นซีรีส์ที่เหมาะสำหรับการรับชมในเวลาว่างไม่น้อยเลยทีเดียว
ตัวอย่างหนัง Heist
หนัง Heist
Heist Netlix รีวิว ปล้น สารคดี มินิซีรีส์ ที่สร้างจากเรื่องจริง ของการปล้น เนื้อหาจะแบ่งเป็น 3 เคส รวมทั้งหมด 6 ตอน ของคดีการปล้นที่สร้างจากเรื่องจริงและมีบุคคลจริงที่เกี่ยวข้องมาเป็นส่วนหนึ่งในการเล่าเรื่องราว ซึ่งแต่ละคดีที่อยู่ในเรื่องเป็นการปล้นที่มีมูลค่าสูงอย่างมาก แต่ที่น่าสนใจคือทั้งสามคดีมันเป็นฝีมือของกลุ่มคนที่มาจากคนระดับล่าง ชนชั้นแรงงาน คนที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหา
ลูกหลานผู้อพยพ เรียกง่ายๆ ว่ามันคือการปล้นของสามัญชนคนทั่วไป คนที่เราอาจพบเห็นได้ในสังคม แต่ตัวซีรีส์จะบอกเล่าว่าแล้วคนเหล่านั้นมีแรงจูงใจอะไรที่ทำให้พวกเขาก้าวข้ามเส้นแบ่งขอกฏหมายมาทำการปล้นเหล่านี้ แน่นอนว่ามีเรื่องเงินที่เป็นสาเหตุหลักอยู่แล้ว สามารถรับชมได้เลยใน Netflix
บทสรุปของแต่ละคดี เป็นเสมือนอุทาหรณ์เตือนใจผู้คนจริง ว่าการปล้นนั้นมันไม่ได้ให้อะไรดีเลยกับชีวิตของเรา ถึงแม้ว่าการปล้นที่ว่าจะได้เงินมหาศาลแล้วดูเหมือนว่าประสบความสำเร็จอย่างงดาม คนที่ปล้นหอบเงินหนีไปใช้ชีวิตต่อได้ แต่ที่จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้มีความสุขอะไรนัก ทั้งยังต้องอยู่อย่างหลบซ่อนตัวตนที่แท้จริง บางคนมีลูก ก็ต้องหลอกลูก จนมาถึงจุดหนึ่งก็ต้องยอมเผยความจริง และต้องยอมรับโทษที่เกิดขึ้น
ในด้านโปรดักชั่น การถ่ายทำ งานสร้าง ถือว่าเป็นงานคุณภาพสูง เสมือนเราได้ดูหนังสารคดีแบบกึ่งซีรีส์ชั้นดีที่บอกเล่าเรื่องราวอย่างไม่น่าเบื่อ มีแทรกมุกตลกร้าย อารมณ์ขันท่ามกลามเส้นแบ่งศีลธรรมเข้ามาอยู่ตลอด
ส่วนหนึ่งที่ดีของซีรีส์คือ มีการนำเสนอและบอกเล่าเรื่องราวในแบบที่ไม่ให้มันดราม่ายืดยาด แต่เน้นความฉูดฉาด เดินเรื่องเข้าประเด็นเร็ว แต่ก็จะมีส่วนที่เดินเรื่องช้าหรือยืดไปบ้างในบางจุด ซึ่งถ้าเอาจริงๆแล้วแต่ละคดีที่บอกเล่ามาสามารถเล่าให้จบในตอนเดียวได้ แต่ตัวสารคดีพยายามเล่าในหลายมุมมองทั้งกับผู้คนที่เกี่ยวข้องในการปล้นนั้นๆ คนที่ลงมือปล้น ครอบครัวของคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเล่าปมที่มาและพื้นเพแต่หนหลังของคนปล้น เพื่อให้เข้าใจแรงจูงใจของพวกเขาเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความต้องการเงิน ความต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องการถีบตัวจากความอดอยาก และอื่นๆ
ซึ่งการเล่าเรื่องลักษณะนี้ก็ทำให้มันกลายเป็นสารคดีที่มีความรอบด้าน มากกว่าแค่การนำเสนอเรื่องการปล้นปกติ แต่บอกเล่าให้เราเห็นภาพของประวัติศาสตร์และสังคมของอเมริกันในยุค 80s-90s ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาครอบครัว ชนชั้น ปัญหาผู้อพยพ แล้วยังสะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบทางการเงินที่หากว่าใครมีความกล้า ความบ้า การเตรียมการ และแผนการที่ดีพอ คุณก็สามารถปล้นเงินล้านได้ โดยไม่ต้องเป็นทีมงานสุดยอดนักโจรกรรมแบบในหนังฮอลลีวูด แต่ก็อย่างที่บอกว่า บรรดานักปล้นเหล่านี้ก็ต้องชดใช้ในความผิดที่พวกเขาทำลงไปเช่นกัน
ถึงอย่างนั้นจุดที่คนรีวิวอดคิดไม่ได้ก็คือ ถึงแม้ทุกคดีจะให้อุทาหรณ์และบทสรุปของคนปล้นว่าไม่ดี แต่มันอาจจะไปกระตุ้นให้คนดูก่อเหตุได้เหมือนกัน เพราะมันเป็นการบอกเล่าถึง “ช่องว่าง” ของระบบในแต่ละวงการต่างๆว่ามันสามารถทำเงินด้วยวิธีการซิกแซกเหล่านั้นได้ยังไง
ภาพรวมแล้ว นี่จึงเป็นสารคดีการปล้นที่แม้ว่าจะนำเสนอชีวิตนักโจรกรรมเหล่านี้ที่ดูเหมือนว่าพื้นเพของพวกเขาก็คือคนธรรมดาทั่วไป อาจจะเชื่อมโยงกับคนดูได้ไม่ยาก หากอยู่ในสถานะคล้ายกัน แต่หนังก็แสดงให้เห็นว่า คนเราก็มีทางเลือก มันอยู่ที่ว่าเราเลือกจะเป็นแบบไหน หรือจะไปลงเอยเหมือนกับเหล่านักปล้นในสารคดีชุดนี้ครับ