รีวิว หนัง Fatherhood Netflix
รีวิว หนัง FATHERHOOD NETFLIX ภาพยนตร์เพื่อคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทั่วโลก
ด้วยสังคมในปัจจุบันทำให้คู่รักมีปัญหาเป็นปกติ แต่เรื่องจะยากมากขึ้นหากคู่รักคู่นั้นมีลูกด้วยกันแล้ว ปัญหาที่ตามมากลายเป็นปัญหาใหญ่ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวแตกแยก ลูกต้องเผชิญกับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเลี้ยงลูกคนเดียวให้เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ
เราต้องยกย่องพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่สามารถเลี้ยงลูกออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะการเลี้ยงลูกคนเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงเท่านั้นอัตราการเพิ่มขึ้นของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจากปัญหาในสังคมและเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ Fatherhood จึงเป็นภาพยนตร์ที่ทำออกมาเพื่อคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยเฉพาะทั่วโลก เป็นภาพยนตร์ต้อนรับวันพ่อที่จะทำให้ผู้รับชมซาบซึ้งไปกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเลี้ยงเดี่ยวและลูกสาวตัวเล็กได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะดูเป็นภาพยนตร์แนวดราม่า แต่มันก็ไม่ได้ดราม่าเรียกน้ำตาแค่เพียงอย่างเดียว เรื่องราวยังเต็มไปด้วยความสุข การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เป็นภาพยนตร์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวได้เป็นอย่างดีในการเลี้ยงดูลูกของตนเองให้เติบโตมาเป็นคนดีของสังคม
นอกจากมันจะเป็นภาพยนตร์ที่เราอยากจะแนะนำให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวได้รับชมแล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ที่เราอยากจะแนะนำให้คุณรับชมกับคู่รัก ครอบครัว หรือลูกๆ รับรองว่าคุณจะได้รับแง่คิดและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอีกมากมายจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่แน่ว่าความสัมพันธ์ที่กำลังกระท่อนกระแท่นอยู่นั้นอาจจะกลับมาดีอีกครั้งก็เป็นได้
เรื่องราวสุดซึ้งในภาพยนตร์เรื่อง Fatherhood
Fatherhood เป็นภาพยนตร์เที่ยวถึงเรื่องราวของคู่แต่งงานที่มีชื่อว่าแมตต์และลิชชี่ ทั้งสองคนนั้นแต่งงานกันและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งพวกเขาวางแผนที่จะมีลูกด้วยกันและภรรยาสาวตั้งท้องสำเร็จ ทั้งสองคนนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นที่จะได้กลายเป็นพ่อแม่คน แต่เรื่องราวที่ไม่มีใครคาดฝันกับเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้หลังจากที่ภรรยาสาวได้คลอดลูกสาวที่มีชื่อว่าแมดดี้ออกมาเธอกลับต้องเสียชีวิตลงไป กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนที่รับรู้
แมตต์ต้องยอมรับชะตากรรมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เขาต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีกับการเลี้ยงทารกแรกเกิดด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันญาติพี่น้องของเขาไม่ว่าจะเป็นตายายหรือญาติฝั่งภรรยานั้นต่างก็รู้สึกว่าเขาไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกสาวได้ด้วยตนเอง ทำให้เขาต้องพิสูจน์ตนเองด้วยกันดูลูกสาวตามลำพังตั้งแต่เธอเกิดจนเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กหญิงที่น่ารักน่าชังได้สำเร็จ
แต่มันก็ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาต้องหาวิธีการที่จะทำให้ชีวิตสมดุลระหว่างการทำงานและการเลี้ยงลูก โชคดีที่ผู้คนรอบข้างของเขานั้นพร้อมเอาใจช่วยและหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นญาติ และหัวหน้างาน ทำให้การเลี้ยงลูกของเขานั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เด็กหญิงเติบโตขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้วเขาก็เริ่มคิดว่าบางทีการมีกันแค่สองคนอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ความคิดของเขาจะถูกลูกสาวที่กลัวว่าจะมีคนมาแย่งความรักจากพ่อขัดขวางเอาไว้หรือไม่ ชะตากรรมครอบครัวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Fatherhood
Fatherhood เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้เราได้เห็นถึงความยากลำบากและความพยายามของชายคนหนึ่งที่ต้องตกที่นั่งเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เขานั้นก็เปรียบเสมือนกับพ่อเลี้ยงเดี่ยวทั่วไปที่มีอยู่ทั่วทั้งโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมจริงจนทำให้ผู้รับชมสามารถมีความรู้สึกร่วมในขณะการรับชมไปด้วยได้ไม่ยาก ไม่เพียงเท่านั้นมันยังแต่ความรู้เกี่ยวกับเลี้ยงเด็กทารกตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งเติบโตขึ้นมาอีกด้วย
แม้ว่าจะเล่าถึงเรื่องราวผ่านตัวละครที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเป็นหลักแต่ภาพยนตร์นั้นก็ไม่ได้โฟกัสตัวพ่อเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงลูกและความหมายของครอบครัวอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่บทของภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการที่จะสร้างออกมาให้มีความฟีลกู้ด ทำให้เมื่อเทียบกับภาพยนตร์ดราม่าเรื่องอื่นแล้วสิ่งที่ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้พบเจอไม่ได้มีความยากลำบากอะไรมากมายนัก
ความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วพร้อมกับลูกสาว แน่นอนว่าคนที่เจอเรื่องราวเหล่านี้ย่อมมีความกลัวที่จะมุกตอนต่อไป แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วใช่หนุ่มก็ตัดสินใจที่จะก้าวข้ามผ่านเรื่องราวที่เลวร้ายในอดีตและเปิดใจสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือการที่ลูกสาวกลัวว่าจะมีใครแย่งพ่อไป เมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาลูกสาวจึงแสดงออกถึงการต่อต้านบ้าง แต่ก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นเพราะตัวละครลูกสาวเองก็ต้องการให้มีคนเข้ามาเพิ่มสีสันให้กับครอบครัว
นับเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่เล่าถึงเรื่องราวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีการแต่งงานใหม่แล้วลูกให้การยอมรับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเด็กและวิธีการเลี้ยงเด็กนั้นช่วยให้เด็กสามารถยอมรับบุคคลที่เข้ามาในครอบครัวใหม่ได้ดีขึ้น สุดท้ายแล้วเรื่องราวของครอบครัวนี้จะเป็นอย่างไร เราอยากจะให้ทุกคนไปติดตามรับชมต่อในภาพยนตร์กัน
ตัวอย่างหนัง FATHERHOOD NETFLIX
หนัง FATHERHOOD NETFLIX
Fatherhood Netflix รีวิว คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หนังแนวดราม่า ฟีลกู้ด ให้กำลังใจ สร้างจากเรื่องจริงของคุณพ่อมือใหม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว หลังจากเสียภรรยาไปหลังคลอดลูก เป็นหนังที่เหมาะกับทุกครอบครัว
หนังความยาว 1.49 ชม. แสดงโดย Kevin Hart รับชมได้เลยใน Netflix
เรื่องราวทั้งหมดในหนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นเรื่องราวที่คนดูสามารถพบได้ง่ายๆ ชีวิตของตัวเอกอย่าง แมตต์ และ แมดดี้ เสมือนกับพ่อลูกที่มีอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวหรือไม่ก็ตาม นี่จึงเป็นหนึ่งในหนังชีวิตที่คนดูมีความรู้สึกร่วมไปด้วยในระหว่างรับชม เพราะเสมือนได้ดูชีวิตของตัวเองไปด้วย ทั้งการเลี้ยงดูทารก ขั้นตอนต่างๆที่ใหม่หมดสำหรับพ่อแม่มือใหม่ แม้กระทั่งเรื่องอึเด็กที่แตกต่างกันไป หรือแม้แต่คนที่เป็นลูกๆ ไม่ว่าจะลูกชายหรือลูกสาวก็อาจจะชวนให้รู้สึกนึกถึงพ่อแม่ของตนเองได้เหมือนกัน
ส่วนจุดดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ ขอยกให้การแสดงของ Kevin Heart ในบทแมตต์ ที่ต้องชมว่าเขาเล่นได้ถึงจริงๆ และตีบทแตกจนเราเชื่อว่าเขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวจริง รวมถึงเด็กหญิง Melody Hurd ที่แสดงได้ดีพอสมควรกับบทลูกสาวแมดดี้
แม้ว่าประเด็นในหนังจะไม่ใช่เรื่องใหม่ มีหนังแนวครอบครัวหลายเรื่องที่เล่นเรื่องพวกนี้ แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่หนังนำเสนอได้ดีมากนั่นคือปมเรื่องความกลัวที่จะมูฟออนของแมตต์ ที่ได้เจอความสูญเสียจนเขารู้สึกว่าแมดดี้คือสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ ในขณะที่แมดดี้เองนั้น แมตต์ก็คือสิ่งที่เธอรักมากที่สุดและเธอรู้สึกกลัวเหมือนกันหากจะมีใครมาแย่งเขาไป ดังนั้นเมื่อเริ่มมีบุคคลที่สามเข้ามาใหม่ แมดดี้จึงมีการต่อต้านไปบ้าง แต่จุดที่หนังทำได้ดีมากก็คือการต่อต้านของแมดดี้ใช้เวลาเพียงสั้นมากๆ เพราะลึกๆแล้วแมดดี้เองก็เป็นเด็กหญิงที่ต้องการใครสักคนเข้ามาเพิ่มในครอบครัวที่มีกันแค่สองคน ตรงนี้เองที่หนังวางคาแรคเตอร์ของตัวละครมาได้สมจริงดีและเหมือนเป็นการบอกบรรดาพ่อแม่ในโลกความจริงที่ชอบเลี้ยงลูกแบบโอเวอร์ดราม่าหรือปกป้องเกินไปว่า เฮ้ย ที่จริงแล้วไม่ใช่เด็กหรอกที่ติดคุณ แต่พวกคุณต่างหากที่ติดเด็กมากไป หัดให้เขาได้อยู่กับปู่ย่าตายายหรือคนอื่นบ้าง
อีกทั้งเด็กอย่างแมดดี้ก็ไม่ใช่เด็กดราม่า แต่เป็นเด็กฉลาดที่เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว และกล้าจะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ แล้วแม้ว่าเธอจะมีความกบฏและหนังพยายามนำเสนอเรื่องการเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมในแบบเฟมินิสต์ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องฝืนไม่ทำตามกฎระเบียบไปเสียหมด เพราะเด็กอย่างแมดดี้ยังมีลักษณะที่เราพบได้ในเด็กทั่วไป ในทางกลับกัน เป็นฝั่งแมตต์เองที่ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ ยอมปล่อยวาง และหาทางข้ามปมความเศร้าจากากรสูญเสียในอดีตให้ได้
อีกจุดที่หนังนำเสนอได้ดีคือ การเรียนรู้การเลือกบาลานซ์ระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งในเรื่องก็จะนำเสนอประเด็นนี้ตั้งแต่แรกจนจบที่ตัวแมตต์ต้องเลือกเส้นทางการทำงานควบคู่ไปการการเลี้ยงลูกสาว
ภาพรวมแม้ว่าพล็อตหนังจะเข้าขั้นธรรมดา และประเด็นดราม่าในเรื่องก็ไม่ได้แปลกใหม่ หากเทียบกับหนังแนวดราม่าเรียกน้ำตาเรื่องอื่น แต่เข้าใจได้ว่าการที่หนังเป็นที่นิยมและขึ้นติดท็อปอันดับต้นๆทั่วโลก เป็นเพราะหนังเข้าฉายในช่วงวัน Father’s Day ของโลก ซึ่งในแต่ละปีจะไม่ตรงกัน โดยในปี 2021 นี้ตรงกับวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งหนังเรื่องนี้คงจะเหมาะกับคนที่เป็นพ่อแม้ทุกคนที่จะได้รับชมกัน และคนเป็นลูกก็ควรจะได้ดูเช่นกัน