รีวิว หนัง Death Note สมุดมรณะ
รีวิว หนัง Death Note สมุดมรณะ ภาพยนตร์เอาชนะอาถรรพ์ภาพยนตร์จากการ์ตูนมังงะได้สำเร็จ
เคยสังเกตหรือไม่ว่าหากมีการนำเอาการ์ตูนมังงะยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่นมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงหรือที่เราเรียกกันแบบติดปากว่าภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นส่วนใหญ่แล้วมันมักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควรอย่างเช่นล่าสุดที่มีการนำเอามังงะยอดนิยมอย่าง Attack on Titan มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงก็ทำออกมาได้ไม่ค่อยดีด้วยเหตุนี้มันจึงกลายเป็นอาถรรพ์ที่ลบล้างได้ยาก
สำหรับภาพยนตร์ที่สร้างมาจากการ์ตูนมังงะสาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนั้นมีค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียวส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากความแฟนตาซีหรือความเป็นจริงของมังงะด้วยความที่มังงะเป็นการ์ตูนจากการวาดทำให้ผู้วาดการ์ตูนนั้นสามารถแต่งเสริมจินตนาการและความแฟนตาซีเข้าไปได้อย่างอิสระพอจะนำมาทำเป็นภาพยนตร์มันจึงทำได้ยากไม่ว่าจะเป็นตัวคาแรคเตอร์ที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครจนพอเป็นคนจริงๆแล้วดูแปลกประหลาดอากของเรื่องที่บางครั้งก็เต็มไปด้วยจินตนาการ
หรือแม้กระทั่งการดำเนินเรื่องราวที่ยาวนานหลายสิบเล่ม แต่ต้องถูกย่อลงมากลายเป็นภาพยนตร์เพียงแค่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่สามารถลบล้างอาถรรพ์ดังกล่าวได้สำเร็จนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Death Note ต้องบอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น Live Action ที่สามารถแคสนักแสดงได้ดีที่สุดตลอดกาลในบรรดาภาพยนตร์ที่สร้างมาจากการ์ตูนมังงะทั้งหมดเพื่อความที่ตัวละครมีความสมจริงแถมยังเป็นภาพยนตร์ในยุค 2000 ที่เริ่มมีเทคโนโลยีเข้ามามากยิ่งขึ้นทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถสร้างสรรค์งานภาพออกมาได้มีความสมจริงและน่าเชื่อถือมากขึ้นไปด้วยพอประกอบเข้ากับความโด่งดังของการ์ตูนมังงะเรื่องนี้อยู่แล้วยิ่งทำให้มันได้รับความสนใจและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นไปอีกจนมีการสร้างภาคต่อออกมาอีกหลายภาคและประสบความสำเร็จไปตาม ๆ กันหากใครยังไม่เคยรับชมแล้วล่ะก็เราขอแนะนำว่าคุณไม่ควรพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Death Note
Death Note เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะเรื่องเดียวกันทำให้เรื่องราวนั้นแทบจะถอดแบบจากในการ์ตูนมังจะมาแบบไม่มีผิดเพี้ยนถือว่าเป็นความกล้าหาญไม่น้อยเลยทีเดียวกับการนำเอาการ์ตูนที่มีมากกว่า 20 เล่มในขณะนั้นมาย่อทั้งหมดให้เหลือเพียงแค่ภาพยนตร์ความยาวไม่เกิน 2 ชั่วโมงแถมยังมีการทิ้งปมปริศนาเอาไว้สร้างภาพต่ออีกต่างหากราวกับว่ามันจะประสบความสําเร็จเรื่องราวทั้งหมดนั้นจะเริ่มต้นขึ้นที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่ายางามิไลท์เขาเป็นเด็กหนุ่มชั้นมัธยมปลายหน้าตาดีเรียนเก่งกีฬาเลิศทำให้เขานั้นกลายเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ไปทั่ว
แถมเขายังเป็นถึงดีกรีลูกชายคนเดียวของนายตำรวจอีกด้วยยิ่งทำให้เขากลายเป็นเด็กหนุ่มที่มีความเพอร์เฟคมากที่สุดอีกคนนึงมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตามเขานั้นมีปมในจิตใจบางอย่างที่ทำให้เขานั้นมีวิธีคิดไม่เหมือนกับพวกเราตามปกติทั่วไปแล้วเหตุการณ์ความวุ่นวายก็ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เขานั้นได้พบสมุดโน๊ตปริศนาเล่มหนึ่งเขาได้ตัดสินใจเก็บมันเอาไว้กับตัวก่อนที่จะมียมทูตตนหนึ่งปรากฏกายขึ้นมามันมีชื่อว่าลุคยมทูตตัวนี้ได้ทำสมุดโน๊ตประจำตัวของตัวเองหล่นหายและคนที่เก็บได้ก็จะสามารถใช้งานสมุดโน๊ตแห่งความตายของยมทูตได้ด้วยสมุดโน้ตดังกล่าวมีความพิเศษตรงที่หากเราเขียนชื่อจริงของใครไปหรือเราเคยเห็นหน้าใครมาก่อนแล้วทำการเขียนชื่อคนนั้นลงไปพวกเขาจะหัวใจวายตายในทันที
แต่ความสนุกมีมากกว่านั้นเพราะเราสามารถเขียนกำหนดเวลารวมไปถึงสาเหตุการตายของคนเหล่านั้นได้อีกด้วย ในตอนแรกเด็กหนุ่มไม่เชื่อเขาจึงได้ทำการลองเขียนชื่อลงไปในสมุดและเห็นผลลัพธ์ว่ามันเป็นความจริงด้วยเหตุนี้เขาจึงทำพันธะสัญญากับยมทูตและครอบครองสมุดโน๊ตแห่งความตายเอาไว้เพื่อเปลี่ยนโลกจากเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นพระเจ้าที่ต้องการจะเปลี่ยนโลกให้ดียิ่งขึ้นด้วยการเขียนชื่อเหล่าอาชญากรที่ถูกจับขังคุกหรือที่ยังไม่ถูกจับให้ตายแม้ว่ามันจะเป็นการกระทำความผิด แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่ยกให้เขาเป็นพระเจ้าและเรียกชื่อเขาว่าคิระ แต่ในขณะเดียวกันตำรวจต่างก็พยายามไล่ล่าตัวฆาตกรที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีวันจับได้คนนี้เช่นเดียวกันถึงชั้นที่พวกเขานั้นต้องพึ่งพานักสืบอัจฉริยะ IQ ระดับเทพเจ้าอย่างแอลมาช่วยสืบคดีนี้ด้วยมหากาพย์ของคู่ต่อสู้อย่างคะและแอลจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Death Note
Death Note เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะที่ต้องยอมรับเลยว่าดีที่สุดอีกหนึ่งเรื่องเลยทีเดียวนับตั้งแต่เคยมีมาในประวัติศาสตร์แม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายมาตั้งแต่ยุค 2000 ที่เทคโนโลยีอาจจะยังไม่ได้เทียบเท่ากับในปัจจุบันจนทำให้มีบางส่วนที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่สมจริงไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าสามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบในฐานะของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนความสนุกสนานของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเชือดเฉือนกันระหว่างคนที่เต็มไปด้วยมันสมองทั้งสองคนพวกเขาแทบจะไม่มีการต่อสู้ทางกายภาพกันเลยแม้แต่น้อยแถมพวกเขาทั้งคู่ยังเป็นคู่ต่อสู้ที่มีความสูงสีกันเป็นอย่างมากอีกด้วยแม้ว่าในช่วงท้ายของเรื่องจะค่อนข้างแผ่วลงไปบ้าง แต่ภาพรวมภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับคุณได้ตลอดการรับชมอย่างแน่นอน
ตัวอย่างหนัง Death Note สมุดมรณะ
รีวิว หนัง Death Note สมุดมรณะ บางส่วนจาก voyagepvp
รีวิวหนัง Death Note สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มด้วยฉากการตายด้วยโรคหัวใจวายของอาชญากรที่ถูกหมายจับหรืออยู่ในที่คุมขัง ซึ่งทางการสาธารณสุขก็ตั้งสมมุติฐานว่าน่าจะเกิดจากเชื้อโรคที่ไม่ทราบว่าอะไรกันแน่
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็สร้างกระแสให้แก่ประชาชนและเรียกคนที่ฆ่าอาชญากรเหล่านี้ว่า “คิระ” ซึ่งมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อ 1 เดือนก่อน ยางามิ ไลท์ นักเรียนมหาวิทยาลัย ได้พบว่าระบบกฎหมายและความยุติธรรมต่างๆ กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด อาชญากรกลับลอยนวลไปได้ทั้งๆ ที่กระทำผิด
และในระหว่างทางเขาเดินกลับบ้านนั้น ไลท์ก็ได้พบกับสมุดสีดำเล่มหนึ่งกลางถนน และด้านบนมีคำเขียนว่า “Death Note” และในหนังสือเล่มนั้นเขียนว่า “ใครก็ตามที่ถูกเขียนชื่อในสมุดเล่มนี้จะต้องตาย”
ไลท์จึงได้เขียนชื่อของอาชญากรคนหนึ่งลงไป ในวันรุ่งขึ้น ไลท์ก็พบว่าอาชญากรคนที่ถูกเขียนชื่อนั้นได้เสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย หลังจากที่เขาฆ่าผู้ต้องหาคนที่สองไม่นาน เขาก็ได้พบกับยมทูตชื่อ “ลุค” โดยมาบอกว่า “ตอนนี้ไลท์ได้เป็นเจ้าของเดธโน้ตแล้ว แต่ถ้าไลท์ไม่ต้องการเดธโน้ต
ก็ส่งต่อคนอื่น แต่ก็จะถูกลบความทรงจำเกี่ยวกับเดธโน้ตทั้งหมด” ทำให้ไลท์ต้องการใช้เดธโน้ตในการฆ่าพวกอาชญากรโดยหวังให้โลกนี้ปราศจากความอยุติธรรม
หลังจากนั้น 4 เดือน กรมตำรวจก็ยังหาข้อสรุปการตายของอาชญากรได้ แต่หัวหน้ากองตำรวจโซอิจิโร่
ยางามิก็ไม่ต้องการให้ผู้ต้องหา (คิระ) กระทำการฆ่าคนต่อไปอีก เขาจึงไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำการติดต่อกับอธิบดี แต่เมื่อไปถึงผู้กองยางามิก็ได้พบกับวาตาริ
ซึ่งเขาสามารถติดต่อ “แอล” (L) ซึ่งเป็นนักสืบที่แม้แต่คดียากๆ ก็สามารถทำได้ และเป็นไพ่ตายสุดท้ายของตำรวจ วาตาริจึงได้เปิดข้อความเสียงให้ผู้กองยางามิและอธิบดีฟัง
และแอลได้สรุปว่าการตายที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ และคนร้าย (คิระ) ทำการลงมือทำคนเดียว อธิบดีจึงแต่งตั้งให้ผู้กองยางามิเป็นหัวหน้าการสืบสวนเรื่องนี้
หลังจากนั้นไม่นานก็มีการถ่ายทอดสดจากองค์กรตำรวจสากล
โดยคนที่ออกมาพูดนั้นอ้างตัวว่าตนชื่อ “ลินด์ แอล เทยเลอร์ ฉายาว่า แอล” โดยเขาออกมาประณามถึงการกระทำของคิระในด้านต่างๆ ทำให้ไลท์ไม่พอใจและเขียนชื่อของเขาลงไปในเดธโน้ต
ทำให้เขาหัวใจวายตายคาโทรทัศน์ แต่ก็มีการตัดภาพพร้อมเสียงของ “แอล” ตัวจริง โดย “แอล” กล่าวว่า “เราจะจับนายให้ได้ โทษนายมีสถานเดียวคือประหารเท่านั้น… เพราะชั้นคือความถูกต้อง”
และเช่นกัน เรื่องของแอลถูกตีลงหนังสือพิมพ์ในด้านต่างๆ นานา
ณ กรมตำรวจ ทีมสอบสวนได้เสนอแอลถึงระยะเวลาการตายในแต่ละเวลา
ซึ่งแอลสามารถสรุปออกมาว่าระยะเวลาการตายนั้นเข้ากับตารางเวลาเรียนของเด็กมหาวิทยาลัย แต่ไลท์ก็ได้แอบดูฐานข้อมูลตำรวจและได้ใช้เดธโน้ตกำหนดเวลาตายใหม่ ทำให้ทางแอลรู้ว่า
“คิระอาจจะแฝงตัวอยู่ในกลุ่มตำรวจก็ได้”
หลายวันต่อมาไลท์ก็ถูกชายคนหนึ่งสะกดรอยตาม หลังจากเขากลับมาถึงบ้านลุคก็ได้เสนอไลท์ถึง “ดวงตายมทูต” ซึ่งสามารถมองเห็นชื่อคนและอายุขัยของคนโดยการมองแต่ไลท์ปฏิเสธข้อเสนอ และก็ได้อ่านกฎของเดธโน้ตโดยมีข้อหนึ่งกล่าวว่าสามารถเขียนสาเหตุการตายหลังชื่อของคนที่เขียนได้ เขาจึงลองทดสอบเดธโน้ตโดยการเขียนสาเหตุการตายของนักโทษ 3 คนลงไปในเดธโน้ต โดยคนหนึ่งกรีดนิ้วตัวเองเขียนเป็นดาวหกแฉก คนที่สองเขียนจดหมายลาตายไว้ คนที่สามหนีออกมาจากห้องขังแล้วตายในห้องน้ำ ทำให้แอลรู้ว่าคิระพยายามจะทดสอบอะไรบางอย่าง
ในวันต่อมาขณะที่ไลท์ขึ้นรถเมล์กับชิโอริ เพื่อนสาวของเขา ก็มีคนที่สะกดรอยไลท์ขึ้นมาด้วย แต่หลังจากนั้นก็มีโจรปล้นธนาคารขึ้นมายึดรถไว้ ในระหว่างนั้นคนที่สะกดรอยตามไลท์จึงเปิดเผยชื่อว่าเขาชื่อ เรย์ อิวามัตสึ เป็นเอฟบีไอ ซึ่งไลท์ได้ใช้อุบาย โดยทำเศษกระดาษเดธโน้ตหล่น และเมื่อคนร้ายจับเศษกระดาษทำให้เขาเห็นยมทูต คนร้ายจึงหนีลงจากรถและถูกรถชนเสียชีวิต โดยเรย์ อิวามัตสึหารู้ไม่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การทดสอบความสามารถของเดธโน้ตเท่านั้น
หนึ่งวันให้หลัง ไลท์ก็ลองที่จะฆ่าเอฟบีไอทุกคนผ่านเรย์ อิวามัตสึ เรย์ได้ปฏิเสธคู่หมั้นของเขา (นาโอมิ มิโซระ) ว่าเขามีธุระทั้งที่ทั้งคู่เตรียมพร้อมที่จะแต่งงาน เรย์ได้ขึ้นรถไฟฟ้าและพบซองซึ่งมีเครื่องติดต่อสื่อสารโดยให้ติดต่อกับคิระ โดยให้เรย์เขียนชื่อเอฟบีไอที่เข้ามาสืบสวนทุกคนในกระดาษที่อยู่ในซอง และเมื่อเขาก้าวออกมาจากรถไฟไม่กี่ก้าว เขาก็หัวใจวายทันที แต่ภรรยาเขาก็มาเห็นเข้าและรู้ว่าเขาตายด้วยฝีมือคิระ ทางกรมตำรวจก็ได้รู้เรื่องนี้ทำให้ตำรวจที่กำลังทำคดีนี้อยู่ในความกลัว ทำให้หลายคนของถอนตัวจะคดีนี้ไปโดยเหลือตำรวจเพียง 6 คนเท่านั้น โดยวาตาริจะพาพวกเขาไปพบแอลด้วยตัวเอง เมื่อมาถึงแอลก็บอกแก่ผู้กองว่าหลังจากนี้ห้ามเปิดเผยชื่อของตนเองต่อคนภายนอกเด็ดขาด และสรุปเรื่องราวต่างๆโดยละเอียด ในอีกด้านหนึ่งนาโอมิก็กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีปล้นรถเมล์ที่ผ่านมาเพื่อโยงไปถึงคิระ ในคืนวันนั้นแอลได้ดูวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟและพอที่จะจำกัดรายชื่ออกมาได้ โดยมีครอบครัวหัวหน้าและรองหัวหน้าที่จะเป็นตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยให้ติดกล้องให้บ้านของผอ. และผู้ช่วยเป็นเวลา 7 วัน เพื่อหาตัวคิระ
นาโอมิก็ได้มาพบกับไลท์ทั้งบอกว่า “ชั้นรู้ว่าคุณคือคิระ ไลท์ ยางามิ” แต่เนื่องจากนาโอมิบอกชื่อปลอมแก่ไลท์ ไลท์จึงไม่สามารถฆ่านาโอมิได้ เมื่อไลท์กลับมาถึงบ้านก็พบว่ามีคนแอบเข้าไปห้องของเขา ทำให้ไลท์รู้ทันทีว่ามีคนจับตาดูอยู่ ถึงแม้จะผ่านไปหลายวันแอลก็ไม่พบสิ่งผิดสังเกตจากกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด แอลสั่งให้วาตาริเอากล้องออกมาจากบ้านพวกเขาแต่แอลก็ยังสงสัยในตัวไลท์อยู่