รีวิว หนัง CHERRY MAGIC THE MOVIE
รีวิว หนัง CHERRY MAGIC THE MOVIE จากมังงะแนว BL สู่การเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดง
เรื่องราวแนวบอยเลิฟนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเริ่มต้นจากการเขียน FICTION ของบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย จากนั้นมันก็เริ่มพัฒนามาเป็นนวนิยายและการ์ตูนมังงะในเวลาต่อมา แล้วมันก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนถึงขั้นที่หลายประเทศเริ่มยอมรับและเปิดกว้างในการเผยแพร่สื่อเกี่ยวกับความรักของเพศทางเลือกมากยิ่งขึ้น บางเรื่องประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนถึงขั้นมีการสร้างสื่อบันเทิงฉบับคนแสดงออกมาเลยทีเดียว
อย่างเช่นที่ภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ก็ดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะแนวบอยเลิฟมาเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงที่มีชื่อว่า CHERRY MAGIC THE MOVIE ดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะในชื่อเดียวกันที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 2 ล้านเล่มเลยทีเดียว ในครั้งหนึ่งเคยถูกหยิบยกนำเอามาสร้างเป็นซีรีส์และกลายเป็นปรากฏการณ์ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งทวีปเอเชีย เป็น SERIES จำนวนทั้งหมด 12 ตอนพร้อมกับตอนพิเศษอีก 3 ตอนที่ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะผ่านมาอย่างยาวนานถึง 2 ปีแล้วแต่มันก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและบรรดาแฟนคลับก็ยังคงติดตามนักแสดงรวมไปถึงความเคลื่อนไหวกันอย่างเหนียวแน่น
การ์ตูนที่ ทำเป็น หนัง
ด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความละมุนและสามารถสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้รับชมได้ หลายคนจึงคาดหวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะถูกนำกลับเอามาสร้างใหม่ให้เราได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง และในวันนี้วันนั้นก็มาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยการนำเอาซีรีส์เรื่องดังกล่าวมาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้เราได้รับชมกัน โดยเป็นการสานต่อเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและสร้างความสุขให้กับผู้รับชมอีกครั้ง
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง CHERRY MAGIC THE MOVIE
CHERRY MAGIC THE MOVIE เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าอาดาจิ เขาเป็นพนักงานในบริษัทเครื่องเขียนอายุ 30 ปีที่ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยจะมีความมั่นใจในตัวเองเลยแม้แต่น้อย หากเป็นในการ์ตูนมังงะเขาเป็นตัวละครมืดมนที่ผ่านฉากไปมาไม่ได้มีความสำคัญอะไร เกิดจากนิสัยที่ไม่กล้าจะเข้าหาคนอื่น มีปัญหาเรื่องอัธยาศัยแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วเขาจะไม่ได้เป็นคนที่มืดมนอะไรขนาดนั้นก็ตาม
เขามีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งเป็นนักเขียนนวนิยายที่มีชื่อว่าซึเกะ เป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมาอย่างยาวนานและเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาเขาอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขามีอายุครบ 30 ปีอยู่ดีๆ เขาก็เกิดมีพลังวิเศษขึ้นมา พลังดังกล่าวจะทำให้เขาได้รับรู้ว่าแต่ละคนมีจิตใจและความนึกคิดอย่างไรเพียงแค่แตะตัวของคนนั้น พลังดังกล่าวมันทำให้เขาได้รู้ว่าหนุ่มหล่อจากแผนกขายของบริษัทอย่างคุโรซาวะแอบชอบเขาอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่แอบชอบธรรมดาแต่อยู่ในระดับข้ามรักกันเลยทีเดียว
ด้วยพลังวิเศษทำให้เขานั้นได้เข้าไปใกล้ชิดกับคุโรซาวะมากขึ้นกว่าเดิม และมันก็ทำให้เขาได้พัฒนาตัวเองจากชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความมืดมนและความไม่มั่นใจกลายมาเป็นคนที่กล้าจะลองมีความรักดูสักครั้ง และมันก็ทำให้ทั้งคู่ได้ตกลงคบกันในที่สุด เรื่องราวความรักของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องไปติดตามรับชมกันในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง CHERRY MAGIC THE MOVIE
CHERRY MAGIC THE MOVIE เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากซีรีส์ที่กลายเป็นกระแสแบบปากต่อปากออกจากประเทศญี่ปุ่นไปทั่วทั้งเอเชียและกลายเป็นซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนได้รับการนำเอามาสร้างเพื่อสานต่อเรื่องราวในรูปแบบของภาพยนตร์อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ก็ยังคงสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างอบอุ่นหัวใจและเต็มไปด้วยความน่ารักเหมือนเดิม
แต่ในครั้งนี้จะเพิ่มเติมความดราม่าเข้ามาด้วยโดยเล่าถึงเรื่องราวความรักที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นระหว่างตัวละครทั้งสองที่กำลังสดใหม่และข้างรักกันอย่างเต็มที่ แต่พวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่จะเข้ามาทดสอบความรักของพวกเขาเสียอย่างนั้น เพราะอาดาจิดันได้รับตำแหน่งใหม่ที่ทำให้เขาต้องย้ายไปทำงานถึงเมืองนางาซากิ พวกเขาจึงต้องอยู่ห่างไกลกันมากกว่า 1000 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความอึดอัดใจในการเลือกระหว่างหน้าที่การงานหรือการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก ยังไม่รวมไปถึงประเด็นเรื่องความเชื่อมั่นอีกด้วย
ดังนั้นแม้ว่าคราวที่แล้วซีรีส์เรื่องนี้จะสร้างความอบอุ่นละมุนหัวใจให้กับเรามากแค่ไหนก็ตาม แต่ขอให้เตรียมรับแรงกระแทกเอาไว้ได้เลยเพราะภาพยนตร์จะเพิ่มความดราม่าเข้ามาแบบเต็มเปี่ยมอย่างแน่นอน มันทำให้ผู้รับชมรู้สึกลุ้นและเอาใจช่วยได้ไม่ยากเพราะตัวละครทั้ง 2 ตัวนั้นได้แสดงให้เราได้เห็นถึงความเป็นตัวเองของพวกเขาออกมาผ่านทางซีรีส์ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับมาตั้งแต่การ์ตูนมังงะหรือซีรีส์เราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
สำหรับใครที่กังวลว่าการกลับมาสานต่อเรื่องราวที่ดูเหมือนจะจบลงไปอย่างสมบูรณ์แบบเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะทำให้เรื่องราวไม่สนุกสนานเหมือนเคย ขอบอกได้เลยว่าสบายใจได้เนื่องจากผู้กำกับนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นฮีโร่กิ คาซาม่าที่กลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นยังได้โปรดิวเซอร์อย่างคานามิ ฮอนมะมาทำหน้าที่อีกด้วย การที่พวกเขาได้ทำความรู้จักกับตัวละครมาตั้งแต่ต้นจะทำให้พวกเขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีอย่างแน่นอน