รีวิว หนัง จอมขมังเวทย์ 2020
รีวิว หนัง จอมขมังเวทย์ 2020 ภาพยนตร์แอ็กชันแนวไสยศาสตร์ที่กำลังถูกพูดถึง
จอมขมังเวทย์ 2020 ภาพยนตร์แอ็กชันแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี 2020 เป็นอีกหนึ่งผลงานของสหมงคลฟิลม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ผู้กำกับแนวหน้าอย่างต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร เรียกได้ว่าทุ่มแรงทุ่มกำลังสุดตัวในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมา โดยได้นำเอาความเชื่อของคนเข้ามานำเสนอบนภาพยนตร์เพื่อเปิดโลกไสยเวท อาคม ความขลัง สอดแทรกแอ็กชันที่เรียกได้ว่าถึงพริกถึงขิง เป็นความครีเอทความคิดสร้างสรรค์ที่มีความหลากหลายการควบคุมงาน
การเขียนที่ออกมาได้ดีเพราะได้ผู้เขียนบทที่ใส่ใจถึงความละเอียดของบทบาทและเนื้อเรื่องอย่างอังเคิล-อดิเรก วัฏลีลา รวมถึงนักแสดงที่มากความสามารถและมาแรงแห่งปีเรียกว่าไม่มีมีใครไม่รู้จักอย่างพระเอกของเรื่องทั้งหมาก-ปริญ สุภารัตน์ , นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช, ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล, นกสินจัย เปล่งพานิช, คิตตี้-ชิชา อมาตยกุล และแพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา จากราบชื่อนักแสดงแต่ละคนก็ถือว่าสามารถดึงดูดคนดูให้มาภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มากเลยทีเดียว
เรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่องจอมขมังเวทย์ 2020
จอมขมังเวทย์ 2020 การเริ่มต้นของเรื่องนี้จะเป็นการเริ่มต้นเล่าเรื่องของวินที่มีอาชีพเป็นนักมวยหนุ่มที่กำลังมาแรง เป็นเด็กหนุ่มยุคใหม่ผู้ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ อาคม แต่เพราะโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับการเล่นของทำให้หลายๆ คนต้องการของสิ่งของเหล่านี้เพื่อเสริมอำนาจและปกป้องคุ้มครองตัวเองเรียกได้ว่าเป็นหายาก หนึ่งในคนที่มีของขลังเป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่ก็คือพ่อของวิน
เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่วินนั้นได้ขึ้นชกแต่ตัวเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ จนพ่อของวินสงสัยและได้เดินหาสาเหตุจึงได้รู้ว่ามีคนกำลังเล่นของใส่ลูกชายของตน เขาได้นำของขลังที่มีอยู่ออกมาสู้จนเอาชนะอีกฝ่ายไปได้และนั้นก็เป็นสาเหตุเขานั้นได้รับการติดต่อจากคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการซื้อของขลังนั้นมาไว้ครอบครอง แต่พ่อของวินนั้นกลับปฏิเสธไป เป็นเหตุทั้งวินและพ่อของวินได้ถูกชายกลุ่มหนึ่งดักทำร้ายระหว่างทางที่เขานั้นจะต้องกลับบ้านหลังจากทำการขึ้นแข่งชกมวยเสร็จ พ่อขอวินได้ทำการช่วยเหลือปกป้องลูกชายของตนโดยการเอาตัวเข้าไปบังลูกไว้แล้วบอกให้วินนั้นหนีไป
ทำให้เขานั้นได้เห็นพ่อของตัวเองถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเขานั้นไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลยและเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ตัวเขาเองนั้นก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเช่นกัน หลังจากที่ตัวเขานั้นได้พักฟื้นร่างกายจนตัวเองหายดีแล้ว หลังจากการสูญเสียครั้งใหญ่ทำให้ตัวเขานั้นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเปลี่ยนความเชื่อความศรัทธาที่มีอยู่มุ่งสู่ทางไสยศาสตร์เพื่อแก้แค้นให้กับพ่อของตน เป็นของการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างเหล่าจอมขมังเวทย์ที่มีตัวตน อาคม และปาฏิหาริย์เป็นตัวชี้ชะตาอยู่ กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้
บทสรุปและความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องจอมขมังเวทย์ 2020
จอมขมังเวทย์ 2020 จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวความเชื่อที่มีมาแต่โบราณเข้ารวมกับความเชื่อสมัยใหม่ที่อาจจะมองไม่เห็นแล้วในยุคปัจจุบันแต่ก็ยังถือว่าเรื่องราวลี้ลับเหล่านี้จริงๆ มันยังคงมีอยู่ การออกแบบฉากงานสร้างที่สุดตระการตาที่ดึงดูดทุกสายตาอย่างฉากคุกขังจอมขมังเวทย์ในตำนาน ฉากคลังสินค้า รอยสักที่ถือว่าออกแบบมาได้อย่างสมจริง ภาพที่สีสดและสวยงาม
การปล่อยภาพในจินตนาการสัตว์เวทย์ในตำนานอย่างวัวธนู, พยนต์, ต่อแตน, สัมภเวสี ที่ใช้เทคนิคในการสร้างกว่า 600 ช็อต มาพูดถึงนักแสดงในเรื่องอย่างบทของวิน นำแสดงโดยหมาก-ปริญที่ตอนแรกให้สัมภาษณ์ว่าไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำได้ดีไหมกับบทบาทที่ได้รับ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ถือว่าเขาทำได้ดีมากเลยทีเดียว แสดงออกมาอย่างลื่นไหลไม่ติดขัด รวมถึงนักแสดงที่ต้องเข้าฉากบู้ด้วยกันอย่างก๊อต-จิรายุที่ได้แสดงฝีมือการแสดงออกมาถือว่าไม่แพ้กัน
เพราะมากด้วยนักแสดงที่มากความสามารถทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดึงดูดผู้คนให้เข้ามารับชมได้อย่างง่ายดาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างมาจากแรงบรรดาลใจของพี่ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ที่ได้ไปทำการบวชและได้ไปเรียนรู้ถึงความหมายของบทสวนมนต์ จนทำให้เกิดไอเดียสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาถึงแม้เรื่องราวและเนื้อหาของภาคนี้จะหลุดออกนอกเรื่องไปไกล ความสนุกอาจจะมีไม่มากเท่าจอมขมังเวทย์ภาคแรก
บทอาจจะขาดความสมเหตุสมผลไปบ้าง การตัดต่อบางฉากที่ดูไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ตัดกลับไปกลับมาอาจจะทำให้คนดูสับสนทำให้ตามไม่ทันในบางตอน แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจน้อยลงไปเลย ยังไงหากใครที่ยังไม่ได้ดูเราก็ของแนะนำว่าให้หามารับชมได้เลยเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างความสุข ความสนุก และความเพลิดเพลินได้ไม่แพ้กัน
ตัวอย่างหนัง จอมขมังเวทย์ 2020
หนัง จอมขมังเวทย์ 2020
หลังทิ้งห่างจากภาคแรกไปถึง 15 ปี ต้อม ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ ได้กลับมารื้อปัดภาคต่อหนัง จอมขมังเวทย์ อีกครั้ง โดยสิ่งที่เราสังเกตได้เลยคือการเก็บเล็กผสมน้อยเหตุการณ์บ้านเมืองต่าง ๆ เอามาสอดแทรกไว้ในหนังเสมือนเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ด้านความเชื่อความศรัทธาหรืองมงายย่อม ๆ ทั้งการบูมของธุรกิจไลฟ์โค้ช ธุรกิจวัตถุมงคลที่มีตลาดระดับหลายพันล้าน หรือแม้กระทั่งการล้อเลียนเหตุการณ์ที่
พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ไหว้ นายเปรมชัย (คดีฆ่าเสือดำ) ก็กลายเป็นกลไกหลักในการสร้างให้ผู้ร้ายในหนังดูเหนือมนุษย์และกฎหมายเอื้อมมือไม่ถึง แม้ในภาพรวมต้องยอมรับว่าหนังเองมีจุดบกพร่องแบบ เอาปากกาแดงวงคำผิดก็คงแดงเถือกเป็นหย่อม ๆ ทั้งการไม่อธิบายที่มาที่ไปหรือให้เราได้รับรู้ปมลึก ๆ ในใจตัวละคร หรือกระทั่งการไม่อธิบายกระทั่งการใช้พลังคุณไสย จนคนไม่เคยดูภาคแรกอาจงงกับตรรกะการต่อสู้เชิงอาคมในเรื่องได้ แต่หนังก็เอาตัวรอดและกลบข้อด้อยด้วยพลังของนักแสดงและการอัดฉากบู๊ให้ตื่นเต้นมาแบบแทบไม่ได้พักเลย
ด้านฉากแอ็กชัน แม้หนังจะดูออกว่าได้ทุนสร้างที่จำกัดจำเขี่ย แต่ต้อม ปิยะพันธุ์ ก็อุตส่าห์ใช้ความครีเอทีฟมานำเสนอมุมมองแอ็กชันใหม่ ๆ ได้อย่างน่าชื่นชม แม้ว่าฉากต่อสู้ประชิดตัวจะใช้การตัดต่อมาช่วยเยอะไปหน่อยจนขาดความดิบอันน่าตื่นเต้น แต่ฉากไสยเวทย์ต่าง ๆ ก็จัดเต็ม แม้ว่างานซีจีเราจะสู้ฮอลลีวูดยังไม่ได้แต่ถ้านับจาก ซีจีควายธนู ในหนังภาคแรกแล้วก็ถือว่ามาไกลทีเดียว แถมต้อมยังเหมือนยำใหญ่องค์ประกอบแบบฮอลลีวูดมาจัดให้คนไทยแบบถึงเครื่องโดยเฉพาะสัตว์ไสยเวทย์ที่แทบมีมูฟเมนต์การปรากฏตัวแบบนึกถึง ทรานส์ฟอร์มเมอรส์ ขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้เลยหละ
โดยภาพรวมแล้ว จอมขมังเวทย์ 2020 ถือเป็นหนังไทยที่ให้ความบันเทิงได้ไม่ขี้เหร่เลย บทหนังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีช่องโหว่ประปรายแต่ก็ทดแทนด้วยฉากแอ็กชันและพลังการแสดงอันเข้มข้น แนะนำอย่างเดียวคือควรดูภาคแรกก่อนเข้าชมจะได้ไม่งงกับตรรกะด้านอาคมในเรื่องครับ