รีวิว ซีรีส์ The Witcher Season 2 Netflix
รีวิว ซีรีส์ The Witcher Season 2 Netflix ภาคต่อของซีรีส์สุดมันส์ที่สร้างมาจากเกมยอดนิยม
เกมนั้นเป็นสื่อบันเทิงที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งอย่างล้นหลามเนื่องจากในปัจจุบันนี้เราสามารถเข้าถึงเกมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ขอเพียงแค่เรามีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเราก็สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นเกมมากมายให้เราได้เล่นตามความต้องการซึ่งแต่ละเครื่องเล่นนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกอีกไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือเครื่องเล่น Playstation Nintendo Xbox ด้วยเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าทำให้เรานั้นมีเกมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเรื่องราวที่เข้มข้นไม่ต่างอะไรจากการรับชมภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งให้เราได้เล่นกันมากมาย และด้วยความที่เกมมันพัฒนาไปอย่างก้าวหน้าจะมีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความสลับซับซ้อน ประกอบฐานแฟนคลับที่มีเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ทำให้คนในอุตสาหกรรมบันเทิงนั้นสนใจที่จะหยิบยกนำเอาเรื่องราวภายในเกมมาบอกเล่าในรูปแบบของภาพยนตร์หรือซีรีส์กันมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในซีรีส์จากเกมยอดนิยมที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามก็คือ The Witcher เกมแนวต่อสู้ผจญภัยที่เล่าถึงเรื่องราวในช่วงยุโรปยุคกลางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดแฟนตาซีและความสนุกสนานเข้มข้นเร้าใจ หลายคนค่อนข้างกังวลตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ออกภาคแรกมาเนื่องจากมีซีรีส์และภาพยนตร์จากเกมหลายเรื่องที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเนื่องจากข้อจำกัดในการเล่าเรื่องทั้งหลาย แต่หลังจากที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้ออกฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้วพวกเขาก็ได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่าพวกเขานั้นสามารถนำเสนอเรื่องราวจากเกมได้อย่างยอดเยี่ยม จนในที่สุดก็มีการสร้างภาคต่อออกมาในชื่อ The Witcher Season 2 โดยเป็นการกลับมาสานต่อความสนุกสนานที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและกับปี 2019 อีกครั้ง
โดยซีรีส์เรื่องนี้เป็น Original Series จากทาง Netflix ที่ได้มีการนำเอาเกมและนวนิยายชื่อดังมาสร้างเป็นซีรีส์ให้เราได้รับชมกันต่อเป็นภาคที่ 2 แล้ว โดยในครั้งนี้จะทวีความเข้มข้นและพัฒนาให้จุดอ่อนจากซีซั่นที่แล้วหายไปจนเริ่มเป็นไปด้วยความสนุกสนานและความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเปิดเส้นเรื่องเพื่อสร้างตำนานบทใหม่ในจักรวาลได้อีกด้วย สำหรับใครที่เป็นแฟนซีรีส์อยู่แล้วหรือเป็นแฟนมาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเกมเราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
เรื่องราวภายในซีรีส์เรื่อง The Witcher Season 2
The Witcher Season 2 เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวหลังจากเกิดเหตุการณ์ในภาคแรก โดยในภาคแรกนั้นจะเล่าถึงเรื่องราวของนักล่าอสูรหนึ่งที่มีชื่อว่าแกรอลท์ เขานั้นถูกทดลองจนกลายพันธุ์และได้รับการอุปการะโดยเจ้าหญิงซิริลา แต่ชีวิตของเขานั้นก็ต้องยังคงเผชิญกับความยากลำบากเนื่องจากทั้งคู่นั้นต้องเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินพร้อมกับพลังงานลึกลับบางอย่างที่แฝงอยู่ในตัว สาเหตุที่ทำให้เจ้าหญิงต้องออกจากพระราชวังมาเดินทางเร่ร่อนนั่นก็เป็นเพราะว่ามีทหารจากแคว้นนิฟการ์ดผู้หนึ่งได้บุกเข้ามาโจมตีเมืองของเธอ ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องพยายามหาวิธีการในการแก้แค้นเพื่อชำระหนี้ที่ครอบครัวของเธอนั้นต้องถูกฆ่าจนเสียชีวิตทั้งหมด
โดยเรื่องราวในภาคนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากที่เจ้าหญิงหนีออกมาจากการตามล่าและพลังลึกลับในตัวเธอก็ได้ตื่นขึ้นมาทำให้เสาหินลึกลับที่ถูกเรียกว่าโมโนลิทที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแผ่นดินมาเป็นระยะเวลานานหลายพันปีล้มลงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ มันทำให้แผ่นดินแยกเป็นเสี่ยงๆ ในความจริงแล้วเสาร์ดังกล่าวมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่และมันก็เกี่ยวข้องกับพลังของเธอแบบที่เราคาดไม่ถึง
ในขณะเดียวกันเองในดินแดนมหาทวีป แคว้นนิฟการ์ดที่ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือก็มีความพยายามที่จะบุกเข้าไปยึดครองเมืองต่างๆ ในมหาทวีปไปด้วยเช่นเดียวกัน เรื่องราวจึงเต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนและปริศนามากมายที่กำลังรอการแก้ไข
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง The Witcher Season 2
The Witcher Season 2 เป็นซีรีส์ภาคต่อที่คุ้มค่าแก่การรอคอยเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่สร้างมาจากเกมและนวนิยายยอดนิยมที่ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ไม่มีการติดหลุมพรางการเล่าเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากเกมให้เราได้เห็นเลยแม้ว่าในภาคที่ 1 จะยังมีอยู่บ้างก็ตาม เห็นได้ชัดว่าทีมงานผู้สร้างนั้นมีความพยายามที่จะนำเอาจุดอ่อนในภาคที่แล้วมาปรับปรุงให้ภาคนี้ดีขึ้นแล้วก็เขาก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม เรื่องราวนั้นจะมีการขยายจักรวาลเส้นเรื่องให้กว้างมากยิ่งขึ้นไปอีก มีฉากมากมายที่น่าจดจำของแต่ละตัวละคร การเดินทางนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจและความสนุกสนาน ฉากการต่อสู้รวมไปถึงศัตรูที่โผล่มานั้นก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ในครั้งนี้หาค่อนข้างจะดำเนินเป็นเส้นตรงไม่ได้มีอะไรชวนสับสนงงงวยเหมือนกับภาคแรก มีการปรับฉากแอ็คชั่นให้มีความดุดันสนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิม แฝงเรื่องราวการเมืองที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นได้เป็นอย่างดี แต่จุดด้อยก็คือในภาคนี้มาเพียงแค่ 8 ตอนเท่านั้น การที่จะเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนและความยิ่งใหญ่จำนวนตอนเพียงเท่านี้ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร นอกจากนี้มันยังค่อนข้างตัดอารมณ์อีกด้วยเนื่องจากเรารับชมแบบสนุกสนานกันมาอยู่ดีๆ เรื่องราวก็ดันมาขมวดจบอย่างรวดเร็วเสียอย่างนั้น
ตัวอย่างซีรีส์ The Witcher Season 2
รีวิว ซีรีส์ The Witcher Season 2 บางส่วนจาก beartai
หลังทิ้งให้คนดูค้างเติ่งกับการพบกันระหว่างแกรอลท์แห่งริเวียกับซิริลาและชะตากรรมของเยนนิเฟอร์หลังปล่อยพลังโกลาหลจนเกิดการสังหารหมู่ ในที่สุด ‘The Witcher’ ก็กลับมาสานต่อเรื่องราวของมันพร้อมขยายจักรวาลให้เราได้รู้จักกับเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งเอลฟ์ ทั้งพวกผู้วิเศษและที่สำคัญคือเราจะได้รู้จักกับเผ่าเดอะวิทเชอร์กันมากขึ้น
ซิริลา (รับบทโดย เฟรยา อัลลัน Freya Allan) กับแกรอลต์แห่งริเวีย (รับบทโดย เฮนรี คาร์วิลล์ Henry Carvill) เดินทางสู่เคียร์ มอร์เธน รังของเผ่าวิทเชอร์ ที่นั่นเขาได้กลับไปพบกับเวเซเมียร์ (รับบทโดย คิม บอดเนีย Kim Bodnia) อาจารย์ของแกรอลต์และเขาก็ได้พบว่าบัดนี้เหล่าปีศาจร้ายได้หลุดมาจากมิติอื่นอันเป็นผลมาจากการปล่อยพลังคลื่นเสียงของซิริลาและพวกมันก็กำลังต้องการตัวเธอเพื่อสิงร่างและครอบครองโลกโดยอาศัยจิตใจที่อ่อนแอของเยนนิเฟอร์ (รับบทโดย อันยา ชาโลตรา Anya Chalotra) ที่สูญเสียพลังไปหมดสิ้น
สำหรับ ‘The Witcher Season 2’ นี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัดคือการที่มันตัดสินใจเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงแทนการเรียงแบบบทในหนังสือแล้วไม่ลำดับเวลาเหมือนซีซันแรก และที่สำคัญคือการที่มันทำให้เราได้รู้จักกับการเมืองของเผ่าและอาณาจักรต่าง ๆ ซึ่งทำให้เรื่องราวของซีรีส์ทั้ง 8 ตอนมีความเข้มข้นมากขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องราวในส่วนที่เยนนิเฟอร์ต้องไปร่วมชะตากรรมเป็นเชลยของพวกเอลฟ์ร่วมกับฟริงจิลา (รับบทโดย มีมี นดีเวนี Mimi Ndiweni) และทำให้พวกเธอได้พบกับฟรานเชสกา (รับบทโดย เมเซีย ซิมสัน Mecia Simson) ราชินีของเหล่าเอลฟ์ที่พบว่าโชคชะตาของพวกเธออาจผูกพันกันมากกว่าที่คิด ซึ่งเรื่องราวในส่วนนี้จะนำไปสู่อีกเส้นเรื่องที่่ทำให้เห็นว่าโลกการเมืองที่อเรตทูซา เมืองหลวงเองก็กำลังตึงเครียดไม่แพ้กันหลังฟริงจิลากับฟรานเชสกาได้ร่วมมือกันยึดนิล์ฟการ์ด
แต่ถึงแม้เส้นเรื่องของซีรีส์ซีซันนี้จะมีเรื่องราวการเมืองที่หนักอึ้งแต่มันก็ยังเซอร์วิสคนดูด้วยฉากแอ็กชันและวิชวลเอฟเฟกต์อันยิ่งใหญ่ตระกาลตา โดยเรื่องราวในภาคนี้ก็พร้อมชดเชยให้คนดูแบบจัดเต็มด้วยเหล่าปีศาจต่าง ๆ ซึ่งหลายตัวก็ได้แรงบันดาลใจมาจากฉบับวีดีโอเกม ตั้งแต่ บรุกซา แวมไพร์ที่ซ่อนตัวใต้ร่างสาวสวยสุดหลอนในตอนแรกต่อด้วย เลชี ปีศาจต้นไม้ที่สามารถแพร่เชื้อให้วิชเชอร์จนแกรอลต์ต้้องสูญเสียสหายวิทเชอร์ไปจนไปถึงตอนสุดท้ายที่จัดเต็มด้วยศึกระหว่างเหล่าวิทเชอร์กับปีศาจมังกรที่เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจและโหดแบบถึงเลือดถึงเนื้อจริง ๆ เรียกได้ว่าเซอร์วิสแฟนเกมเต็มคราบเลย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ ‘The Witcher Season 2’ จะได้รับความนิยมทันทีที่มันลงสตรีมวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา และนอกจากการเล่าเรื่องของซีรีส์จะสนุกขึ้น ฉากแอ็กชันเยอะขึ้น มีมุมให้เล่าหลากหลายขึ้นแล้วอีกจุดที่น่าจะทำให้เรื่องราวในภาคนี้น่าติดตามเหลือเกินคงหนีไม่พ้นความสัมพันธ์ระหว่างแกรอลต์กับซีรีลาที่เริ่มพัฒนาขึ้น แต่ไม่ใช่ในแบบหนุ่มสาวนะครับ
ตรงกันข้ามคราวนี้แกรอลต์ของเรามาสไตล์แดดดีปกป้องลูกสาว ซึ่งก็ต้องยอมรับล่ะครับว่าคราวนี้การที่ซีรีส์หันมาโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทำให้ประเด็นแวดล้อมดูมีเอกภาพมากขึ้นกว่าซีซัน 1 ที่แกรอลต์ไปทาง ซีรีลาไปทาง ที่สำคัญมันยังช่วยไขปริศนาหลายอย่างที่ซีีรีส์ซีซันแรกทิ้งไว้ให้ด้วย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการแทนคุณไร้เงื่อนไขที่พาให้ซีรีลาต้องมาร่วมผจญภัยไปกับแกรอลต์ และเคมีระหว่างเฮนรี คาวิลกับเฟรยา อัลลันก็ทำให้ซีรีส์มีกลิ่นอายของความสัมพันธ์พ่อลูกเติมความอบอุ่นให้กับซีรีส์ที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟันเพื่อแย่งชิงอำนาจเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี