รีวิว ซีรีส์ THE WHEEL OF TIME
รีวิว ซีรีส์ THE WHEEL OF TIME ซีรีส์แฟนตาซีจาก AMAZON PRIME ที่ทุ่มทุนสร้างกว่า 80 ล้านเหรียญ
การสร้างสื่อบันเทิงขึ้นมาแต่ละเรื่องนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก และไม่ได้รับประกันเลยว่าสื่อบันเทิงเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จหรือสามารถสร้างกำไรให้กับผู้สร้างได้ มันจึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับซีรีส์ที่มีการทุ่มทุนสร้างในจำนวนเงินมหาศาล เพราะมูลค่าของมันไม่สามารถวัดได้จากตัวเหมือนกับภาพยนตร์แต่อย่างใด ถึงอย่างนั้น AMAZON PRIME ก็ยังคงยินดีที่จะทุ่มทุนสร้างซีรีส์แนวแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ออกมาด้วยมูลค่ากว่า 80 ล้านเหรียญ นั่นก็คือซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง THE WHEEL OF TIME
มันเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่เล่าเรื่องราวสดแฟนตาซีสมกับทุนสร้างมหาศาลที่ลงทุนไป ทำให้ทุกอย่างออกมาดูอลังการงานสร้างตื่นตาตื่นใจไปหมด งานคอมพิวเตอร์กราฟิกออกมายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าดูงานคอมพิวเตอร์กราฟิกเพียงอย่างเดียวก็คุ้มค่าแล้ว
ซีรีส์เรื่องดังกล่าวดัดแปลงมาจากนวนิยายจำนวน 14 เล่มจบที่เขียนมาตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปี 2013 ในซีซั่นแรกมีทั้งหมดจำนวน 8 ตอน มูลค่าในการสร้างถือว่าสูงกว่า GAME OF THRONES ในซีซั่นแรกกว่า 60 ล้านเหรียญเลยทีเดียว แม้ว่าจะต้องยอมรับว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมากแต่ก็ต้องแบกรับความเสี่ยงไม่น้อยเช่นเดียวกันเพราะมันคือซีรีส์ซีซั่นแรกแถมยังไม่มีอะไรรับประกันเลยว่ามันจะประสบความสำเร็จ ใครที่กำลังสนใจซีรีส์เรื่องนี้อยู่วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่ามันคุ้มค่าแก่การสมัคร AMAZON PRIME หรือไม่
ซี รี่ย์ น่าดู ใน Prime Video
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง THE WHEEL OF TIME
THE WHEEL OF TIME เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของตัวเอกทั้งหมดจำนวน 5 คนด้วยกัน พวกเขาเป็นวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันยิ่งคนธรรมดาในหมู่บ้านที่แสนห่างไกลซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง แต่แล้วในวันหนึ่งชีวิตของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลหลังจากที่พวกเขาได้พบเจอกับมอเรน หญิงสาวลึกลับที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ เธอเดินทางมาจนถึงหมู่บ้านของพวกเขา
เธอได้กล่าวอ้างว่าเด็กวัยรุ่นทั้ง 5 คนนี้มีหนึ่งในนั้นที่เป็นเด็กตามคำพยากรณ์โบราณที่จะสามารถใช้พลังในการเปลี่ยนแปลงสมดุลระหว่างความมืดและแสงสว่างได้ตลอดกาล ด้วยเหตุนี้เด็กวัยรุ่นทั้ง 5 คนจึงตัดสินใจออกเดินทางตามเธอไปยังหอคอยขาว แหล่งรวบรวมเหล่าอายเซได บุรุษศักดิ์สิทธิ์ผู้มีพลังวิเศษเหนือธรรมชาติที่มีการเรียกขานว่าพลังเอก ก่อนที่อนธการหรือความมืดมนที่ถูกขังเอาไว้จะทำลายคุกออกมาได้สำเร็จและกลายเป็นฉากเปิดของสงครามครั้งสุดท้าย
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง THE WHEEL OF TIME
THE WHEEL OF TIME เป็นซีรีส์ที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากสำหรับการลงทุนกว่า 80 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างขึ้นมาเพราะมันไม่ได้สามารถวัดความสำเร็จได้ด้วยเม็ดเงินแต่อย่างใด และน่าหวาดเสียวเป็นอย่างมากเพราะ 3 ตอนแรกที่ออกฉายเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้รับชมรวมไปถึงสื่อออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่เราอยากให้ทุกคนใจเย็นและรับชมต่อไปเพราะหลังจากคุณผ่าน 3 ตอนแรกไปได้หลังจากนั้นจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตามเราต้องเตือนก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายก็จริงแต่มีความเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนแล้วมารับชมในช่วงเปิดเรื่องรับรองว่างงอย่างแน่นอนเพราะมันไม่มีการอธิบายอะไรให้เราได้เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดของการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ที่ผู้รับชมต้องไปศึกษาข้อมูลเอาเองว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น เรื่องราวของโลกใบนี้เป็นอย่างไรกันแน่
บรรยากาศภายในซีรีส์จะมีความคล้ายคลึงกับลอร์ดออฟเดอะริงนั่นก็คือมีปีศาจร้ายที่เรียกว่าอนธการหรือความมืด สิ่งมีชีวิตที่มีความพยายามในการเปลี่ยนแปลงโลก ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ใช้พลังวิเศษที่เรียกว่าอายเซไดออกมารวมตัวกันต่อสู้และจับปีศาจตัวดังกล่าวไปคุมขังเอาไว้ในคุก
สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็นงาน PRODUCTION ที่มาในระดับสูงกว่า GAME OF THRONES เสียอีก ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะว่าทุนสร้างสูงขนาดนั้นย่อมตามมาพร้อมกับงานคอมพิวเตอร์กราฟิกที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ฉากเต็มไปด้วยความสวยงามและความอลังการ ผสมผสานระหว่างความแฟนตาซีเข้ากับธรรมชาติออกมาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือทุกอย่างมีความสมจริงเป็นอย่างมาก
โดยรวมแล้วถือเป็นซีรีส์ที่เรายังอยากให้ทุกคนได้ลองเปิดใจรับชมดูเพราะการสมัคร AMAZON PRIME หลักร้อยไร่กับการรับชมงานโปรดักชั่นราคา 80 ล้านเหรียญถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย งานภาพออกมาอลังการงานสร้างและมีคุณภาพสูงเป็นอย่างมาก สวยงามจนทำให้คุณหลงใหลได้อย่างแน่นอน ดัดแปลงนวนิยายที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อน นักแสดงแต่ละคนก็เหมาะสมกับบทบาทและถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จุดด้อยของซีรีส์เรื่องนี้มีเพียงแค่ 3 ตอนแรกทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรและมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในนวนิยายมากจนเกินไปเท่านั้น หากคุณไม่เคยรับชมนวนิยายมาก่อนก็เท่ากับว่ามันจะมีจุดด้อยเพียงแค่3 ตอนแรกเท่านั้นที่เราต้องผ่านไปให้ได้