รีวิว ซีรีส์ THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY
รีวิว ซีรีส์ THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY จะเป็นอย่างไรหากโลกใบนี้มียารักษาอัลไซเมอร์แบบเฉียบพลัน
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่น่ากลัวเป็นอย่างมากสำหรับคนที่เคยสัมผัสมาก่อน มันเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นจะเริ่มต้นจากอาการหลงลืมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นอาการหลงลืมก็จะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาจลืมถึงขั้นว่าตัวเองเป็นใคร ลืมว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่สามารถจดจำความทรงจำระยะสั้นได้ส่วนความทรงจำระยะยาวก็เริ่มเลอะเลือนลาง และสุดท้ายจะจบลงไปด้วยการลืมวิธีการหายใจเลยทีเดียว ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยสามารถหายขาดจากโรคดังกล่าวได้ อย่างดีก็เพียงแค่ชะลอให้อาการไม่ย่ำแย่ลงเท่านั้น
มันคงจะดีไม่น้อยหากมียารักษาโรคดังกล่าวแบบเฉียบพลันชนิดที่รับประทานเข้าไปแล้วก็สามารถจำได้ในทันที หากคุณอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรเราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY มันเป็นซีรีส์แนวดราม่าวิทยาศาสตร์ไซไฟที่เล่าถึงเรื่องราวโลกในอนาคตที่มียาทดลองสำหรับการรักษาโรคอัลไซเมอร์แบบเฉียบพลัน
สิ่งที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเท่านั้น แต่ยังได้นักแสดงมากฝีมืออย่างซามูเอล แจ็คสันมาเป็นนักแสดงนำและยังรับบทเป็นโปรดิวเซอร์ด้วยตัวเองอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจซีรีส์เรื่องนี้ออกฉายผ่านทาง APPLE TV+ สามารถรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้ววันนี้
APPLE TV มีอะไรดู
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY
THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวโลกอนาคตอันใกล้ที่จะมีการพัฒนายาสำหรับการรักษาโรคอัลไซเมอร์ขึ้นมาและมีการทดลองใช้ในมนุษย์เพื่อรักษาอาการหลงลืมแบบเฉียบพลัน อย่างไรก็ตามยาในขั้นทดลองดังกล่าวยังคงมีผลที่ตามมา อาการข้างเคียงของมันจะแลกมาด้วยอาการป่วยที่หนักกว่าเดิมหลังจากที่ยาหมดฤทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการบ่งชี้ชาประเภทดังกล่าวจึงมีข้อจำกัดค่อนข้างสูงและมีสิ่งที่จะต้องแลกมาเพื่อให้เราสามารถกลับมาจดจำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
มีชายชราป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์คนหนึ่งชื่อว่าเกรย์ได้รับยาขั้นทดลองดังกล่าวเพื่อให้ตนเองสามารถฟื้นฟูความทรงจำกลับมาได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และมันก็ทำให้เขาสามารถนึกเกี่ยวกับภารกิจในอดีตที่ผู้มีบุญคุณสมัยเด็กได้ฝากฝังเขาเอาไว้ได้ เขาจึงต้องพยายามใช้ระยะเวลาที่จำกัดก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์ลงไปเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จและสืบสวนหาให้ได้ว่าใครที่เป็นฆาตกรฆ่าหลานของเขา
เกรย์วัย 70 ปีผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ครอบครัวไม่ได้สนใจดูแล ถูกทิ้งเอาไว้ให้อยู่กับบ้านที่รกเลอะเทอะตามลำพังโดยการใช้เงินเกษียณประทังชีวิต ต้องร่วมมือกับเด็กสาววัย 17 ปีอย่างโรบินที่กำพร้าพ่อแม่และได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันจึงต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาปริศนาที่เกิดขึ้นให้สำเร็จก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์ลง
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY
THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY เป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์ไซไฟผสมดราม่าที่ทำออกมาได้ค่อนข้างสลับซับซ้อนและหลากหลายไม่น้อยเลยทีเดียว ในแกนเรื่องหลักที่ตัวละครหลักของเราจะต้องรับประทานยาที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงเพื่อให้ตัวเองสามารถกลับมาจำเรื่องในอดีตได้อีกครั้งจะได้มีข้อมูลเอาไว้สำหรับการไขปริศนามีเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ สอดแทรกเอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นภารกิจที่ผู้มีพระคุณในวัยเด็กฝากฝังเอาไว้ การตายอย่างปริศนาของผู้เป็นหลาน ความพยายามของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ถูกทอดทิ้งโดยครอบครัวเนื่องจากพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ตลอดการเล่าเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยการเดินทางที่ทั้งอบอุ่น ผสมผสานกับความรู้สึกเหงาและเศร้าไปตลอดทั้งเรื่อง ในส่วนของเนื้อเรื่องอาจจะทำให้ผู้รับชมสามารถเอาออกได้ตั้งแต่ต้นว่าจุดสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เรื่องราวทั้งหมดจะมีบทสรุปเป็นอย่างไรแต่เป็นการเดินทางของทั้ง 2 ตัวละครที่แตกต่างกันแต่ต้องมาร่วมมือกันทำภารกิจให้สำเร็จมากกว่า ดังนั้นแน่นอนว่าคุณจึงจะไม่ได้เห็นการสืบสวนสอบสวนที่ลุ้นระทึกอะไรขนาดนั้น เผลอๆ บางคนอาจรู้อยู่แล้วด้วยว่าใครที่เป็นฆาตกร แต่มันก็ยังสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้รับชมอย่างเราได้อยู่ดี
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการถ่ายทอดอาการของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะผ่านการแสดงที่เต็มไปด้วยความสมจริงของนักแสดงมากฝีมืออย่างซามูเอล แจ็คสัน การลำดับภาพ การถ่ายทอดมุมมองภาพ ช่วยให้เราสามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้ผู้ป่วยกำลังอยู่ในระยะไหนและเป็นอย่างไรโดยที่ไม่ต้องพูดออกมาเลยแม้แต่น้อย
เป็นการนำเอาความดราม่ามาผสมผสานวิทยาศาสตร์ไซไฟออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและกลมกล่อมจนไม่รู้สึกเลยว่าเรากำลังถูกยัดเยียดให้รับชมอะไรที่ไม่เข้ากันอยู่ ทุกอย่างสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัวและสร้างความสนุกสนานความซาบซึ้งให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี
โดยรวมแล้วนับว่าเป็นซีรีส์ที่คู่ควรแก่การรับชมไม่ว่าจะเป็นการแสดงของซามูเอล แจ็คสันที่เพิ่มบทบาทการเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย สามารถถ่ายทอดอาการของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ออกมาได้อย่างสมจริงแถมลึกซึ้ง มีการเล่าเรื่องราวมิตรภาพต่างวัยออกมาได้เป็นอย่างดี มีจำนวนเพียงแค่ 6 ตอนจบไม่ยืดเยื้อ แต่สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับซีรีส์เรื่องนี้เลยก็คือตอนจบที่คาดเดาง่ายจนเกินไป การสืบสวนสอบสวนที่เนื้อหาค่อนข้างบางเบาทำให้มันไม่น่าลุ้นสักเท่าไหร่
ตัวอย่างซีรีส์ THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY
รีวิวซีรีส์ THE LAST DAYS OF PTOLEMY GREY บางส่วนจาก alldramarevive
เรื่องราวของปโตเลมี เกรย์ ชายที่ป่วยแถมยังไม่มีใครดูแลและสนใจ เขาเริ่มป่วยลงช้าๆ สมองเขาเริ่มจะจำอะไรไม่ได้ เขาจึงมอบหมายให้โรบิน ที่รับบทโดยโดมินิก ฟิชแบ็ค เมื่อพวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาที่สามารถฟื้นฟูความทรงจำที่เพิ่มเข้ามาของปโตเลมีได้ มันเริ่มต้นการเดินทางสู่ความจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
เพื่อไม่ให้ผลงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จลดน้อยลง แต่คุณสามารถพูดได้ว่ามีซามูเอล แอล. แจ็คสันส์สองคน หนึ่งในนั้นคือจอมวายร้ายที่เยือกเย็นอย่างหินที่จ่ายไหวพริบและความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันตั้งแต่เรื่อง Pulp Fiction: ในฐานะศาลเตี้ยจอห์นชาฟต์และนิค ฟิวรี่ นักมวยปล้ำจากจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แล้วแจ็คสันก็เป็นคนที่มีอายุมากกว่า อ่อนแอ เต็มไปด้วยความอ่อนแอและความสงสัยในโครงการศิลปะเช่น Black Snake Moan, The Sunset Limited และ Django Unchained สิ่งที่เรียบร้อยเกี่ยวกับมินิซีรีส์ Apple TV+ เรื่อง The Last Days Of Ptolemy Grey? ได้แจ็คสันทั้งคู่
จากนวนิยายปี 2010 ที่เขียนโดยวอลเตอร์ มอสลีย์ (ผู้สร้าง เขียนร่วม และผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ร่วมกับแจ็คสัน) ปโตเลมี เกรย์ได้ถักเปียหลายประเภทด้วยสไตล์และอารมณ์ขันเพื่อแสดงช่วงของดารา เรามีละครครอบครัวที่เลือกสรร, หนังระทึกขวัญเชิงทดลองและการแพทย์, ความลึกลับของการฆาตกรรม (นี่คือผู้แต่ง Devil In A Blue Dress) และโศกนาฏกรรมในช่วงเวลาจาก Jim Crow South ทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่ง และการตัดสินจากสามตอนที่มีให้ตรวจสอบ มีเรื่องราวเบื้องหลังมากมายให้เชื้อเพลิงหกชั่วโมง
อย่างแรกและสำคัญที่สุด ปโตเลมี เกรย์คือภาพวาดที่สลักด้วยความรักของชายผู้อยู่ในความเมตตาแห่งความทรงจำ โดยหลบเศษจากอดีตที่ติดอยู่ในปัจจุบัน ปโตเลมีวัย 91 ปีของแจ็กสันตัดร่างที่สิ้นหวังในตอนแรก ฤๅษีผู้สูงอายุที่ถูกฝังอยู่ใต้หอคอยของหนังสือ หนังสือพิมพ์ และแมลงเม่าที่สะสมอยู่ในตัวเขา อพาร์ตเมนต์แอตแลนต้า ปโตเลมีอาศัยอยู่นอกกระป๋องถั่วและมองดูข่าวทีวีในขณะที่วิทยุคลาสสิกหายไป ปโตเลมีไม่สามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่เหมือนเป็นพล็อตจากรัฐมิสซิสซิปปี้ในทศวรรษที่ 1930 ได้ คนที่อยู่ในกองไฟ กรีดร้องขณะที่เขาวิ่งเข้าไปในทุ่งนา บ้านที่ถูกไฟไหม้ ผู้ชายชื่อ Coydog (Damon Gupton) ผู้ซึ่งยืนยันว่าหนุ่ม Ptolemy ปฏิบัติตามสัญญาที่ไม่มีชื่อ นอกจากแขกรับเชิญเหล่านี้แล้ว ปโตเลมียังถูกลืม