รีวิว ซีรีส์ PAM & TOMMY

รีวิว ซีรีส์ PAM & TOMMY มินิซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวคลิปหลุดฉาวในยุค 90

ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไปหากจะมีคลิปหลุดหรือคลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยค่านิยมที่เปลี่ยนไปทำให้คนเราสามารถลงคลิปของตัวเองผ่านทางแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ด้วยซ้ำ แต่หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว อะไรแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่หากใครมีอะไรหลุดออกมาจะถือว่าเป็นข่าวฉาวที่ทำให้คนสนใจไปทั่วทั้งโลกได้ในพริบตา ในช่วงเวลานั้นมีนักแสดงฮอลลีวูดหลายต่อหลายคนที่พลาดถ้าทำคลิปวีดีโอของตัวเองหลุดทั้งที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำไป หนึ่งในนั้นก็คือพาเมลา แอนเดอร์สัน นักแสดงสาวที่กลายมาเป็น SEX SYMBOL อย่างน่าสงสาร พร้อมทั้งสามีของเธอผู้เป็นมือกลองในวงเฮฟวี่เมทัลอย่างม็อตลีย์ ครู

  สองสามีภรรยาคู่นี้มีคลิปหลุดออกมาซึ่งในสมัยนั้นจะถูกเรียกว่าเซ็กส์เทป มันถูกเผยแพร่โดยที่ทั้งสองไม่ได้ตั้งใจ ในยุคสมัยที่ทุกอย่างยังคงเป็น ANALOG และผู้คนกำลังรู้จักกับคำว่าอินเทอร์เน็ตได้ไม่นานแต่คลิปวีดีโอเหล่านั้นกลับเผยแพร่ไปทั่วทั้งโลกอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนทั่วทั้งโลกสนใจได้ในระยะเวลาอันสั้นและเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกหยิบยกนำเอามาถ่ายทอดให้เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดใหม่อีกครั้งในมินิซีรีส์เรื่อง PAM & TOMMY ซีรีส์จำนวน 8 ตอนจากฮูลูที่ผู้รับชมชาวไทยสามารถรับชมได้บน DISNEY+ สร้างมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงโดยยึดมาจากบทความที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารชื่อดังเมื่อปี 2014 เกี่ยวกับเหตุการณ์คลิปหลุดฉาวในครั้งนั้น 

แต่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าเรื่องราวเฉพาะคลิปหลุดแค่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเราไปถึงวิธีการรับมือกับความโด่งดังและช่วงขาลงของทั้งสองคน ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรัก การหลอกลวง การแก้แค้น รวมไปถึงเรื่องราวในวงการภาพยนตร์ลงไปถึงนิตยสารผู้ใหญ่ การกลั่นแกล้งกันทางสังคม การคุกคามทางเพศ ทั้งที่ในยุคสมัยนั้น SOCIAL MEDIA ยังไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยซ้ำไป แล้ววันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับซีรีส์เรื่องนี้ให้มากขึ้นกัน 

ซีรีย์ น่าดู Disney+ Hotstar

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง PAM & TOMMY

PAM & TOMMY จะเล่าถึงเรื่องราวผ่านชายหนุ่มที่มีชื่อว่าแรนด์ ช่างไม้คนหนึ่งที่ทำงานตามปกติธรรมดาทั่วไป ในวันหนึ่งเขาถูกจ้างให้มาปรับปรุงบ้านให้กับเจ้าของบ้านที่มีชื่อว่าทอมมี่ การทำงานในครั้งนี้ทำให้เขาพบว่านายจ้างอย่างทอมมี่เป็นคนที่นิสัยแย่เป็นอย่างมาก และเขาก็มักจะแสดงนิสัยแย่ๆ ออกมาอยู่เป็นประจำแทบจะตลอดเวลา ในวันหนึ่งทำมีดตัดสินใจยกเลิกการว่าจ้างโดยที่ไม่มีเหตุผล นอกจากจะไม่จ่ายค่าแรงจากงานที่ทำไปทั้งหมดแล้วยังเอากล่องเครื่องมือของเขาไปอีกต่างหาก 

ด้วยเหตุนี้แรนด์จึงรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมากเขาจึงแอบย่องเบาเข้ามาขโมยตู้เซฟของทอมมี่ออกไปและพบว่ามันมีเทปวิดีโอลับอยู่ในนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้นำเอาเทปวีดีโอดังกล่าวไปให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ผู้ใหญ่ที่เขารู้จักให้เปิดเทปวีดีโอดังกล่าว และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นในการปล่อยเทปภาพยนตร์ผู้ใหญ่แบบถ่ายออกมาสู่สายตาของชาวโลกในที่สุด 

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง PAM & TOMMY

PAM & TOMMY เป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการหลุดของเทปวีดีโอสุดฉาวที่ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียวเนื่องจากไม่ได้เข้าไปที่ตัวละครหลักโดยตรงแต่เล่าเรื่องราวผ่านช่างไม้ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นช่างไม้คนดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนกับคนธรรมดาทั่วไปที่ได้สัมผัสกับพฤติกรรมสุดหยาบคายของคนหนึ่งทำให้เราตัดสินใจที่จะอยู่ข้างเขาตั้งแต่เริ่มต้น แต่หลังจากนั้นซีรีส์ก็จะหันมาเล่าเรื่องราวระหว่างทอมและแพมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของพวกเขา พฤติกรรม ปัญหาความสัมพันธ์ รวมไปถึงวิธีการรับมือกับการเป็นคนดังหลังจากมีเทปหลุดแบบไม่รู้ตัว

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้นำเอาเรื่องราวเซ็กส์เทปหลุดมาทำให้กลายเป็นเรื่องตลกแต่อย่างใด แต่ก็มีการแฝงมุกตลกเข้ามาที่ทำให้เรารู้สึกอยากขำแต่ก็ขำไม่ออก เนื่องจากมันเป็นตลกร้ายซึ่งเป็นการปรับบรรยากาศของเรื่องราวทั้งหมด อีกหนึ่งความชาญฉลาดของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการแสดงให้เห็นถึงฉากวาบหวิวโดยไม่ได้ทำให้เรารู้สึกจ่าหรือส่อไปทางเพศแต่อย่างใด 

มันเหมือนกับจะไม่มีอะไรแต่ซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งรับชมมากเท่าไหร่ความเข้มข้นของเรื่องราวก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะหลังจากที่อินเทอร์เน็ตเริ่มได้รับความนิยมเทปของพวกเขาก็ถูกอัพโหลดลงบนอินเทอร์เน็ต หลังจากนั้นบรรยากาศภายในเรื่องราวก็เต็มไปด้วยความดราม่า เราจะเห็นว่าทั้งสองได้รับผลกระทบในอาชีพรวมไปถึงชีวิตประจำวันมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นในด้านอาชีพ ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่ความโด่งดังของพวกเขาก็ตาม และช่วงเวลานี้นี่เองที่เราเริ่มรู้สึกไม่เห็นด้วยกับตัวละครที่เราเอาใจช่วยตั้งแต่แรกอย่างแรนด์ 

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะถูกเคลือบเอาไว้ด้วยประเด็นคลิปฉาวของคู่รักดาราชื่อดัง แต่ความจริงแล้วมันสะท้อนให้เราได้เห็นถึงประเด็นอะไรมากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับสื่อผู้ใหญ่ในช่วงยุคนั้น การตีค่าผู้หญิงให้เป็นวัตถุทางเพศ ความเสมอภาคของเพศ รวมไปถึงการกลั่นแกล้งจากสังคม 

ตัวอย่างซีรีส์ PAM & TOMMY

รีวิวซีรีส์ PAM & TOMMY บางส่วนจาก beartai

ใครที่โตมาในยุค 90s ทุกคนน่าจะเคยได้ยินหรือ “ได้ดู” เซ็กส์เทปของ พาเมลา แอนเดอร์สัน เซ็กส์ซิมโบลที่ดังสุดขีดจากซีรีส์ ‘Baywatch’ และทอมมี่ ลี สามีหนุ่มเลือดร้อนที่เป็นมือกลองของวงเฮวีเมทัล ม็อตลีย์ ครู (Motley Crue) ในปี 1995 เซ็กส์เทปนี้ “หลุด” ออกมาอย่างไม่ตั้งใจในยุคที่ทุกอย่างยังเป็นแอนะล็อกและทุกคนบนโลกเพิ่งจะรู้จักคำว่า “อินเทอร์เน็ต”

‘Pam & Tommy’ มินิซีรีส์ 8 ตอนจบของ Hulu (รับชมได้ทาง Disney+) สร้างจากเหตุการณ์จริงที่ยึดจากบทความ ‘Pam and Tommy: The Untold Story of the World’s Most Infamous Sex Tape’ ของอแมนดา ชิคาโก ลิวอิส ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร ‘Rolling Stone’ เมื่อปี 2014 ซึ่งไม่ได้เล่าแค่เรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เกิดเซ็กส์เทปสุดอื้อฉาว แต่ยังพูดถึงการรับมือกับความรุ่งโรจน์ (และร่วงหล่น) การแก้แค้นและการหลอกลวง ความรักและความสัมพันธ์ วงการหนังและนิตยสารโป๊ การคุกคามทางเพศและการกลั่นแกล้งทางสังคม (Social Bullying) ทั้งที่ในตอนนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดียใด ๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้มินิซีรีส์ชุดนี้เป็นมากกว่าการนำเรื่องเซ็กส์เทปมาขยี้ให้เป็นเรื่องตลก 

ซีรีส์เปิดเรื่องด้วยการให้ความสำคัญกับตัวละครนำอย่าง แรนด์ (เซธ โรเกน – Seth Rogen) ช่างไม้ที่ถูกว่าจ้างมาช่วยปรับปรุงบ้านให้กับทอมมี่ ลี (เซบาสเตียน สแตน – Sebastian Stan) และได้เจอนิสัยแย่ ๆ ของเขาตลอดเวลา กระทั่งวันหนึ่งทอมมียกเลิกการว่าจ้างอย่างไม่มีเหตุผล แถมเบี้ยวไม่จ่ายค่าแรงทั้งหมดและยึดกล่องเครื่องมือเขาอีกต่างหาก แรนด์โกรธแค้นและหาทางแก้แค้นด้วยการแอบเข้ามาขโมยตู้เซฟของทอมมี่ ซึ่งพบว่ามีเทปลับ Hi8 อยู่ในนั้นด้วย แรนด์เลยนำไปให้ผู้สร้างหนังโป๊ที่เขารู้จักเปิดเทปนี้ และจุดเริ่มต้นของการปล่อยเซ็กส์เทปสู่สายตาชาวโลกก็เกิดขึ้น

ด้วยการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาด ‘Pam & Tommy’ ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของทอมและแพม แต่ใช้แรนด์ ช่างไม้ธรรมดาคนหนึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง และเสมือนเป็นสายตาของคนดูซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่มองเห็นพฤติกรรมอัน “สุดโต่ง บ้าบอ อึกทึก และหยาบคาย” ของทอม จนทำให้เราเกิดความเห็นใจและเลือกที่จะอยู่ฝ่ายแรนด์ตั้งแต่ต้น จากนั้นในตอนที่ 2 จึงหันกลับมาโฟกัสที่ทอมและแพม ตั้งแต่นาทีที่พบกัน ความสัมพันธ์ พฤติกรรมส่วนตัว ปัญหาชีวิตคู่ จนถึงการรับมือกับความดังของทั้งคู่ 

ถ้าใครดูตอนแรกแล้วรู้สึกว่า “บ้าบอ” ขอให้ดูถึงตอน 2 ที่มีฉาก “น้องชายพูดได้ของทอมมี่ ลี” ที่ปรับโทนของมินิซีรีส์ให้มีความแฟนตาซีและตลกร้าย ซึ่งหลังจากที่เราได้เห็นน้องชาย (น่าจะเป็นของปลอม) แบบเต็มจอแล้ว ฉากโป๊เปลือยของทอมและแพมที่มีให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องขัดสายตาอีกต่อไป พูดง่าย ๆ ว่า ‘Pam & Tom’ มีความฉลาดในการนำเสนอฉากเปลือยแบบโจ๋งครึ่งให้ออกมาดูไม่อุจาดและไม่ส่อไปทางยั่วยุทางเพศ 

ความเข้มข้นเริ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงกลางของมินิซีรีส์ เมื่อทอมมี่และแพมพบว่าเทปลับถูกขโมยและนำไปปั๊มขายเป็นวิดีโอเทป ต่อด้วยอัปโหลดขึ้นอินเทอร์เน็ต จนเริ่มเปลี่ยนโทนเป็นดราม่าและคนดูเริ่มย้ายไปอยู่ฝ่ายทอมมี่และแพมที่ได้รับผลกระทบในชีวิต อาชีพ ความดัง และความสัมพันธ์จาก “เซ็กส์เทปหลุด” อย่างน่าเห็นใจ ในขณะเดียวกันเราก็เริ่มโกรธและไม่ให้อภัยในกระทำที่อ้างว่าเป็นการ “แก้แค้น” ของแรนด์ 

แนะนำหนัง รีวิวหนัง รีวิวซีรีส์เกาหลี Netflix ซีรีส์ต่างประเทศ

นักแสดงซีรีส์ PAM & TOMMY

Lily James

Sebastian Stan

Yangdu-Duyang.com จะพาทุกท่านไปพบกับ การรีวิว แนะนำหนัง ภาพยนตร์ ทั้งในและต่างประเทศ ที่น่าดู น่าติดตาม สูตรบาคาร่า sa บอกได้เลยว่าทุกท่านต้องห้ามพลาด ไทเกอร์สล็อต

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า