รีวิว ซีรีส์ ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้
รีวิว ซีรีส์ ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้ เมื่อซอมบี้ฟีเวอร์ในเกาหลีจนต้องทำซีรีส์ออกมาเพิ่ม
ประเทศเกาหลีนั้นถือว่าเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมบันเทิงนั้นเจริญเติบโตไปแบบก้าวกระโดด พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการสร้างสื่อบันเทิงฟอร์มยักษ์ลบภาพจำเก่าๆ ที่ภาพยนตร์หรือซีรีส์เกาหลีจะมีเพียงแค่การเล่าเรื่องราวในรักดราม่าเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น พวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าเรื่องราวแนวอื่นพวกเขาก็สามารถทำได้และทำได้ดีอีกด้วย เริ่มต้นจากการที่ซีรีส์เรื่อง KINGDOM ซีรีส์แนวซอมบี้ย้อนยุคเกาหลีประสบความสำเร็จอย่างงดงามบนแพลตฟอร์ม STREAMING ชื่อดังของโลกอย่าง NETFLIX ก่อนที่ซีรีส์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามก่อนหน้านี้ก็เคยมีการสร้างภาพยนตร์แนวซอมบี้มาแล้วนั่นก็คือ TRAIN TO BUSAN ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วทั้งโลกเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นเราก็จะเห็นว่าเกาหลีนั้นมีความชื่นชอบในซอมบี้เป็นอย่างมากจนมีการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้ออกมามากมายไม่รู้จบจนในช่วงหลังมานี้คงทำให้ใครหลายๆ คนเริ่มรู้สึกเอือมกับซีรีส์หรือภาพยนตร์แนวนี้ไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยความที่ทำออกมาเท่าไหร่มันก็ได้รับความนิยมอยู่ดีทำให้สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถหนีความจริงของโลกทุนนิยมได้และระเบิดออกมาเป็นซีรีส์ที่มีชื่อว่า ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้ ซีรีส์ที่จะพาเราไปวิ่งหนีซอมบี้ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยนักเรียนมากมาย
และแน่นอนว่าคนจำนวนมากพี่ฉากน่าดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนกันแต่ความจริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในทุกโรงเรียนนั้นจะมีการแบ่งชนชั้นนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งพวกขี้แพ้ พวกหน้าตาดี รูปโดดเด่นด้านกีฬา พวกเรียนดี พวกมีอำนาจ ถึงแม้แต่พวกคนดี การที่พวกเขาทุกคนต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ที่จะทำให้ถึงชีวิตได้นั้นจึงเกิดมาเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย แต่อย่างไรก็ตามกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของซีรีส์เรื่องนี้ยังมีทั้งในแง่บวกและแง่ลบจนทำให้หลายคนสงสัยว่าเราควรดูซีรีส์เรื่องนี้ดีหรือไม่ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมกัน
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้
ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้เป็นซีรีส์เกาหลีที่จะเล่าถึงเรื่องราวปรากฏการณ์ที่สุดแสนจะสยดสยองที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการที่เด็กสาวคนหนึ่งหายตัวไปในโรงเรียน ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอหายไปไหนหรือเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่แล้วในวันหนึ่งเธอก็ปรากฏตัวขึ้นมาในห้องเรียนพร้อมกับไล่ทำร้ายคนในโรงเรียนอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานโรงเรียนที่ควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัยและสงบสุขกลับกลายเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยซอมบี้คลั่งที่พร้อมจะแพร่เชื้อไวรัสให้กับทุกคนด้วยการกัดจนทำให้มีบาดแผล บางคนโชคร้ายหน่อยก็ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นทำให้เหล่านักเรียนที่สามารถเอาชีวิตรอดได้ต้องพยายามเอาชีวิตรอดต่อไปอย่างถึงที่สุด แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะในโรงเรียนเต็มไปด้วยคนที่แตกต่างกันและอำนาจในโรงเรียนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นความดำมืดในจิตใจจึงประทุออกมาในช่วงเวลาวิกฤตที่ต่างคนต่างก็อยากที่จะเอาชีวิตรอด ความเห็นแก่ตัวและความเสียสละได้แสดงให้เราได้เห็นตลอดระยะเวลาสั้นๆ ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญกับปัญหาภายในจิตใจของพวกเขารวมไปถึงซาบซึ้งไปกับมิตรภาพและพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้แม้ว่าความหวังจะเหลือเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนไม่ได้รับความสนใจเฉพาะในประเทศเกาหลีเท่านั้นแต่ได้รับความสนใจไปทั่วทั้งโลก มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาสามารถเอาชีวิตรอดจากโรงเรียนที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งได้สำเร็จก็คือความสามัคคี แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถสามัคคีกันได้หรือไม่เราต้องไปติดตามรับชมกันในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้
ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชื่อดังในเว็บตูน APPLICATION ชื่อดังที่มีการเผยแพร่การ์ตูนหลายชาติให้เราได้อ่านเพื่อความบันเทิง ดังนั้นหากใครที่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อนก็จะทราบดีว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรและต้องชื่นชมในส่วนนี้ที่ SERIES สามารถทำออกมาได้ใกล้เคียงกับเว็บตูนแทบจะทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ว่าจะมีการเล่าขยายความ เพิ่มความสมเหตุสมผล และเพิ่มความสมจริงให้กับเรื่องมากยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็ดันมาตกม้าตายกับตัวละครบางตัวที่น่ารำคาญเหลือเกิน ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องยอมรับความน่ารำคาญของตัวละครเหล่านั้นที่ทำให้เราอยากจะติดตามต่อเพราะเราอยากจะรู้ว่าจุดจบของพวกเขาเป็นอย่างไร
ความโดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้เลยก็คือสามารถนำเสนอความน่ากลัวของซอมบี้ออกมาได้แบบไม่มีกั๊ก ฉากสยดสยองที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลนั้นจะมีให้เราเห็นแทบจะตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว สามารถนำเอาความสัมพันธ์และมิตรภาพมาขยี้ได้อย่างสุดยอด นำเอาประเด็นเกี่ยวกับโรงเรียน รัฐบาล สังคม หรือแม้แต่ความเป็นมนุษย์มาจิกได้อย่างยอดเยี่ยมและเจ็บแสบ แม้ว่ามันจะมีความน่าหงุดหงิดน่ารำคาญไปบ้างแต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันคือความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตปัจจุบันของเราโดยที่ไม่ต้องมีซอมบี้ด้วยซ้ำไป และในส่วนของงานสร้างก็ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเทคนิคการถ่ายทำ
แต่ในส่วนของจุดด้อยถ้ามีเช่นเดียวกันโดยเฉพาะฉากจบที่เหมือนกับจะทิ้งท้ายไปต่อในซีซั่นที่ 2 ความน่ารำคาญของบางตัวละครที่ตัดสินใจแบบโง่ๆ ที่เข้าใจว่ามีได้แต่ดูเหมือนว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีมากเกินไป มีการพยายามสอดแทรกความดราม่าเข้ามาจนน่าเบื่อและผิดจังหวะ และที่สำคัญคือมันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปมากกว่าซีรีส์ซอมบี้เกาหลีที่เคยสร้างออกมา
ตัวอย่างซีรีส์ ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้
รีวิวซีรีส์ ALL OF US ARE DEAD มัธยมซอมบี้ บางส่วนจาก beartai
‘All of Us Are Dead’ หรือ ‘มัธยมซอมบี้’ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าจับตามองของเน็ตฟลิกซ์เกาหลี ด้วยองค์ประกอบที่การันตีความนิยมอย่างเช่นรุ่นพี่ที่มีมาก่อนหน้า ทั้งเป็นการใช้ภาพจำซอมบี้กายกรรมที่วิ่งเร็วบ้าคลั่ง (และชอบบิดตัวรวมถึงทำสะพานโค้งอันเป็นเอกลักษณ์) ที่ต้องยอมรับว่าเกาหลีทำซอมบี้แนวนี้จนกลายเป็นของตนเองได้แข็งแรงมากทั้งที่ไม่ใช่คนต้นคิดด้วยซ้ำ จากทั้งหนังอย่าง ‘Train to Busan’ (2016) หรือซีรีส์ ‘Kingdom’ (2019-2021) ซีรีส์เรื่องนี้ก็มาตอกย้ำภาพให้แข็งแรงขึ้นอีก
ทั้งยังเป็นการนำเนื้อหามาจากเว็บตูนผลงานของ จูดองกึน (Joo Dong-geun) ที่ฉบับภาษาไทยใช้ชื่อว่า ‘ตอนนี้ โรงเรียนของเรา..’ ซึ่งมีฐานแฟนการันตีความนิยมมาก่อนแล้ว คล้ายกับซีรีส์ ‘Sweet Home’ (2020) หรือ ‘Hellbound’ (2021) ที่ต่างเรียกกระแสความสนใจได้มากตั้งแต่แรกเช่นกัน
เอาจริงแค่ที่ว่ามาก็พอแล้วในการสร้างความอยากดูโดยไม่ต้องไปใช้ดารานักแสดงดัง ๆ เลย ทำให้ซีรีส์กล้าลองใช้นักแสดงวัยรุ่นอัดเต็มพิกัดแบบยกให้แบกเรื่องได้ ทั้งดัน พักจีฮู (Park Ji-Hoo) ที่เคยมีผลงานในเน็ตฟลิกซ์และรับบทนำในหนังมากรางวัลอย่าง ‘House of Hummingbird’ (2018) มารับบท อนโจ ประกบกับ ยุนชานยอง (Yoon Chan-Young) ในบท ชองซาน ที่พอบอกได้ว่าเป็นคู่นำหลัก 1 ใน 2 คู่เลยก็ว่าได้ ในขณะที่ฝั่งผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เน้นนักแสดงเบอร์ใหญ่แต่ใช้ดาราที่มีฝีมือเคยผ่านงานหนังและซีรีส์มาเล่นช่วยประคองเรื่องราวในพาร์ตฝั่งพ่อแม่ผู้ปกครองและฝั่งการเมืองการทหารได้ลงตัว
ซีรีส์มีความยาวมากถึง 12 ตอน ตอนละเกือบ ๆ 1 ชั่วโมง และปูเรื่องในช่วงแรกได้น่าสนใจดี โดยขยายความจากเรื่องการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน จนหนึ่งในผู้ปกครองเด็กที่ถูกรังแกทนดูไม่ได้ที่ลูกอยากฆ่าตัวตายมากกว่าอยากจะลุกขึ้นสู้ จึงช่วยเหลือด้วยการฉีดสารกระตุ้นที่สกัดจากหนูทดลองที่จนตรอกให้กับลูกชาย และกลายสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติที่เราคุ้นเคยอย่างซอมบี้เพื่อไปล้างแค้นโลกที่มันบิดเบี้ยวนี้
จริง ๆ มุมเรื่องตรงนี้น่าสนใจ การถกเถียงและชูปมขัดแย้งเชิงศีลธรรมของตัวละครครูวิทยาศาสตร์และเป็นผู้ปกครองที่มีลูกถูกรังแกอย่าง ครูอี กับตำรวจนั้น เป็นช่วงที่ดูสนุกและจริงจังที่สุดในซีรีส์แล้ว ในขณะที่การแสดงภาพของการกลั่นแกล้งในโรงเรียนจากแก๊งหัวโจกที่แสดงความสัมพันธ์แบบผู้ล่าและเหยื่อในโรงเรียนเองก็ปูได้อย่างเข้มข้น เช่นในฉากที่หนึ่งในกลุ่มตัวเอกอย่าง ซูฮยอก (รับบทโดย พักโซโลมอน (Park Solomon) เข้าไปช่วยเหลือพวกที่โดนรังแกแต่กลายเป็นว่าเหล่าเหยื่อยอมถูกรังแกต่อเพราะกลัวจะโดนหนักข้อขึ้นในคราวหลัง ก็แสดงความเป็นลูกไก่ในกำมือและการปลูกฝังทัศนคติแบบทาสในโรงเรียนได้น่าสนใจ
แต่พอซีรีส์เข้าฝั่งเนื้อเรื่องของปมรักหลายเส้าของพวกกลุ่มนักเรียนเพื่อขยายดราม่าให้พัฒนาเรื่องราวไปพร้อมความโกลาหล กลับพบว่าทำได้ไม่ค่อยน่าสนใจนักอาจเพราะตัวละครหลักถูกสร้างมาแบบพวกนิสัยเอื่อยเฉื่อย ไม่ค่อยแสดงออก หรือทื่อซื่อ จนมันขยับดราม่าไม่ค่อยได้มากนัก บางช่วงทำเอานึกถึงซีรีส์นักเรียนจากไต้หวันในแง่ที่ไม่ค่อยพัฒนาเรื่องหลักเลยด้วยซ้ำ