รีวิว ซีรีส์เกาหลี Vincenzo Netflix
รีวิว ซีรีส์เกาหลี Vincenzo Netflix ซีรีส์เกาหลีที่มาพร้อมกับงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกระดับฮอลลีวูด
ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2020 นั้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงโดยตรง มีภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องที่จำเป็นจะต้องหยุดการถ่ายทำเอาไว้ก่อนเนื่องจากไม่สามารถออกกองที่มีคนเป็นจำนวนมากในพื้นที่สาธารณะได้เนื่องจากมีความเสี่ยงว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส มีซีรีส์อยู่ 1 เรื่องจากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง Vincenzo แต่พวกเขาตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาดด้วยการใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ามาทดแทนฉากที่ไม่สามารถไปถ่ายในสถานที่จริงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและมีความสนใจเป็นอย่างมากชนิดที่ว่าหากไม่มีใครออกมาเฉลยก็คงไม่รู้เลยว่าพวกนั้นแท้จริงแล้วมันคือฉากกรีนสกรีน
แต่สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจไม่ได้เพียงแค่งานคอมพิวเตอร์กราฟิกเท่านั้นแต่ยังรวมถึงความเข้มข้นของเนื้อเรื่องตามแบบฉบับของซีรีส์เกาหลี มีครบทุกรสชาติ มาพร้อมกับความดันดิ่งถึงใจแต่ก็แฝงไปด้วยความตลกที่ทำให้ผู้รับชมอย่างเราหัวเราะไม่ออก ด้วยความยาวมากกว่าซีรีส์ปกติทั่วไปทั้งจำนวนตอนและเวลาของแต่ละตอนทำให้หลายคนอาจรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะรับชมซีรีส์เรื่องนี้ แต่เราขอแนะนำเลยว่ามันเป็นซีรีส์ที่คุณควรรับชมเป็นอย่างมาก
นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นซีรีส์เกาหลีที่มีกลิ่นอายสดใหม่ไม่เหมือนกับซีรีส์เกาหลีทั่วไปเลยแม้แต่น้อย มีความย้อนแย้งกันในเนื้อเรื่องที่สามารถแตกกระเด็นออกมาได้หลากหลายเลยทีเดียว ไม่ได้มีการเล่าถึงประเด็นเรื่องความรักหรือความตลกเพียงแค่มิติเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่มีความครบรสในตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Vincenzo
Vincenzo เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กชายวัย 8 ขวบที่มีชื่อว่าปาร์คจูฮยอง เดิมทีเขาก็เป็นเด็กชายธรรมดาทั่วไปที่อาศัยอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องสูญเสียครอบครัวไปและกลายเป็นเด็กกำพร้า แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้โชคชะตาสามารถเล่นงานเขาได้แต่อย่างใดเพราะเขาโชคดีเป็นอย่างมากที่ถูกมาเฟียอิตาลีรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมและถูกย้ายไปอยู่อิตาลีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพร้อมกับชื่อใหม่ว่าวินเซนโซ่ ซากาโน่
วินเซนโซ่เติบโตมาท่ามกลางกลุ่มมาเฟียในอิตาลีที่เต็มไปด้วยความอันตรายและความขัดแย้ง เขานั้นเรียนด้านกฎหมายและจบมาทำงานเป็นทนายความพ่วงตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับเหล่ามาเฟียที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังเด็ก ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งเกิดเหตุความขัดแย้งขึ้นระหว่างมาเฟียในแต่ละกลุ่ม ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้เขานั้นต้องเดินทางกลับมายังประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิดเพื่อทำภารกิจบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ
เขาไม่รู้เลยว่าการมาในครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดการตั้งแต่การพบกับทนายความสาวอย่างชายองที่มีความสามารถเป็นอันดับ 1 ของบริษัทกฎหมาย เธอนั้นเป็นคนที่มีทั้งความพยายามและความทะเยอทะยานที่จะทำทุกอย่างในการชนะคดี ทั้งสองคนจะต้องร่วมมือกันในการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นให้ได้ไม่ว่าพวกเขาจะต้องใช้วิธีการใดก็ตาม
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Vincenzo
Vincenzo เป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวในฐานะของซีรีส์เกาหลีใต้เพราะมันมีความตลกร้ายแฝงอยู่ในตัวอย่างมาก เริ่มตั้งแต่การที่ตัวละครหลักของเราอย่างวินเซนโซ่นั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มมาเฟียในความเป็นจริงแล้วเป็นกลุ่มคนผิดกฎหมายที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคนดีหรือชอบการพยุงความยุติธรรมแต่อย่างใด แต่เพราะเป็นทนายทำให้เขาดันกลายเป็นคนรักความยุติธรรมแต่ก็สามารถใช้วิธีการทวงความยุติธรรมที่หลากหลายมากกว่าทนายทั่วไปได้ ยิ่งได้เข้าคู่กับทนายความสาวนางเอกเทศยอมทำทุกอย่างเพื่อทวงคืนความยุติธรรมยิ่งทำให้เรื่องราววุ่นวายไปกันใหญ่
ในช่วงแรกนั้นเราจะรู้สึกได้ถึงความคอมเมดี้แบบจัดเต็ม เพราะด้วยความที่มันเป็นซีรีส์แนวตลกร้ายทำให้การแสดงออกของตัวละครนั้นค่อนข้างที่จะมีความเกินจริงไปมาก แต่หลังจากที่เรื่องราวเข้าสู่องค์หลักทุกอย่างก็เริ่มทวีความจริงจังมากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังคงมีความสนุกสนานสอดแทรกเข้ามาอยู่เป็นระยะๆ ไม่ให้เนื้อเรื่องโดยรวมรู้สึกตึงเครียดมากจนเกินไป
อีกหนึ่งสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้สามารถทำได้เป็นอย่างดีก็คือในส่วนของนักแสดงสมทบที่แต่ละคนนั้นจะมีคาแรคเตอร์ชัดเจน สามารถทำได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรก มีเป็นจำนวนมากแต่ไม่มีใครเลยที่หายไประหว่างการเล่าเรื่องและทุกคนนั้นก็มีความสำคัญในระดับที่เท่าเทียมกัน อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดประเด็นความอยุติธรรมในสังคมออกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามจุดด้อยก็ยังมีเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นมุขตลกที่ค่อนข้างฝืดในบางครั้ง ฉากคอมพิวเตอร์กราฟิกบางจากนั้นยังดูไม่สมจริงเท่าที่ควร การนำเอาความตลกมาผสมผสานเข้ากับความจริงจังก็ทำให้หลายครั้งบรรยากาศของเรื่องไม่เป็นไปในทิศทางที่ถูกที่ควร แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังคงเป็นซีรีส์คุณภาพที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองรับชม
ตัวอย่างซีรีส์เกาหลี Vincenzo
รีวิว ซีรีส์เกาหลี Vincenzo บางส่วนจาก beartai
เมื่อความอยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม ทนายมาเฟียสุดโหดจากอิตาลี จึงจำใจมาเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมเอาไว้เอง
เรื่องราวของ วินเชนโซ กาซาโน (Song Joong-Ki) ทนายความที่ปรึกษามาเฟียชาวอิตาลี หลังจากทำภารกิจสุดท้ายที่ทำให้มาเฟียอิตาลีต้องจดจำเขาไปชั่วชีวิตแล้ว เขากลับไปยังบ้านเกิดที่เกาหลี และเรื่องราวที่นั่นทำให้เขาต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องราวที่ต้องต่อสู้ด้วยกฎหมาย กับบาเบลกรุ๊ปกลุ่มบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ และตกกระไดพลอยโจนต่อสู้เพื่อความยุติธรรม โดยร่วมมือกับ ทนายสาว ฮงชายอง (Jeon Yeo-Bin)
เรื่องนี้ถูกจั่วหัวไว้แต่แรกแล้วนะคะว่าเป็นซีรีส์แนว Black Comedy ก็คือ ซีรีส์ที่มีความตลกและเสียดสีอยู่ในเนื้อหา เปิดเรื่องมาด้วยความสาแก่ใจเข้มปึ้ดของ วินเซนโซ พระเอกของเรื่องกันเลยทีเดียวจ้ะ กับมาดสุดเหี้ยม ฉลาด เด็ดขาดในการกำราบคู่ต่อสู้ ในฐานะทนายของกลุ่มมาเฟียตระกูลกาซาโน ที่ทำงานอย่างภักดีและเฉียบขาดให้พ่ออุปถัมภ์ ณ จุดนี้คนดูตบเข่าฉาด โอ้โห แค่เริ่มต้นก็เข้มข้นขนาดนี้
หลังจากพ่ออุปถัมภ์ได้ตายไป ปัญหาขัดแย้งกันเองในตระกูลมาเฟียก็เกิดขึ้น ฮีก็ทิ้งความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน ไว้ให้มาเฟียอิตาลีแล้วกลับเกาหลีเลยจ้ะ ไม่ได้สำนึกรักบ้านเกิดแต่อย่างใด แต่เป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียวคือการระเบิดตึก คากึมพลาซ่า เพื่อนำทองคำที่ซ่อนไว้ไปเสพสุข จากความตั้งใจเดิมที่จะมาเพียงสิว ๆ โกยทองแล้วจากไป ก็เริ่มผิดไปจากที่คิดตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบแผ่นดินเกาหลีใต้เลยทีเดียว จากทนายมาเฟียสุดโหดที่จัดการปัญหาแบบไม่กะพริบตา ต้องมากะพริบตาถี่ ๆ จากการต้อนรับของมิจฉาชีพเกาหลีซะได้
ฮาาา เสียงฮาแบบปัดโธ่เอ้ย เริ่มนับจากนี้เป็นต้นไปกันเลย เป็นความฮาที่ต้องร้องว่า วินเซนโซ หนูจะมาเสียท่าแบบนี้ไม่ได้นะลูก!! คืออยู่ ๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์กันดื้อ ๆ บินหรูมาดเข้มบนเครื่องบินอยู่ดี ๆ พอเท้าแตะถึงพื้นเท่านั้นแหละ ทนายของเราก็เสียกระบวนไปเล็กน้อยค่ะเมื่อมาเจอกับผู้เช่าสุดเพี้ยน ที่ไล่ไม่ยอมไปแห่งตึก คากึมพลาซ่า จุดนี้ซีรีส์ใส่มุกตลกหน้าตายของพระเอก ความเรื่องมาก ขี้เก๊ก เจ้าระเบียบและปากร้ายอย่างที่สุด เสริมทัพด้วยตลกพกถาดของบรรดาผู้เช่าทั้งหลาย ที่พระเอกของเราต้องอดทนกับปัญหาของพวกเขา เพื่อภารกิจขนทองให้สำเร็จ จะทำเหี้ยมโหดแบบในอิตาลีก็ไม่ได้อีก มันน่าเห็นใจอยู่ไหมล่ะ
สำหรับใครที่คาดหวังว่าจะได้เห็นฉากที่ วินเซนโซฟาดฟันอย่างถึงพริกถึงขิงตามแบบฉบับซีรีส์มาเฟียแดนคนดุ สองตอนแรกยังไม่ขนาดนั้น แต่บททำให้เรามั่นใจได้ว่าเราจะได้พบเห็นอะไรแบบนั้นแน่ ๆ ด้วยแอกติ้งของซงจุงกิและฝีมือจัดการอันธพาลที่เก่งกาจ ฉับไวจนต้องอ้าปากค้าง สองตอนแรกจะเป็นการปูพรมที่ผูกปมตะปุ่มตะป่ำไว้ตามทางเดิน ปมวินเซนโซในวัยเด็ก ปมของการตัดสินใจในเส้นทางสายยุติธรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ปมความคิดและตัวตนที่แท้จริงของวินเซนโซ และเหตุของการร่วมมือกันกับ ฮงชายอง นางเอกของเรื่อง
เป็นออร์เดิร์ฟ 2 ตอนยาว ๆ ที่ไม่น่าเบื่อแต่อย่างใด เพราะเนื้อหาส่วนนี้จะใส่ความเป็นดราม่าให้รับรู้ถึงความคิดความรู้สึก ของตัวละครแต่ละตัว พระเอกที่เย็นชา นางเอกที่ทำงานเพื่อเงิน แต่สุดท้ายกลับมาร่วมมือกัน ตัวร้ายที่ร้ายสุด ๆ ชนิดที่เผยตัวตนจนกลายเป็นซีรีส์ที่ รวมทุกอารมณ์ไว้หมดแล้วจ้ะ ขำ ๆ อยู่น้ำตารื้น กำลังซึ้งอยู่ดี ๆ ก็เกิดจะฮากันขึ้นมา ซีรีส์ปล่อยไหลไปกับความต้องการของวินเซนโซที่ทำให้เรารู้ว่า เขามาอย่างมีจุดประสงค์และไม่ได้คิดจะยุ่งเกี่ยวกับคดีความของใครเลย แต่สุดท้ายแล้วอะไรทำให้วินเซนโซ ร่วมมือกับ ฮงชายอง นางเอกของเรื่อง จัดการกับกลุ่มอิทธิพลของเกาหลีใต้ในเรื่องจนได้ ซีรีส์เฉลยให้เราได้รู้ใน Ep3 เป็นต้นไปนี่แหละ