รีวิวภาพยนตร์ สยองขวัญ Prey คุณคือเหยื่อ
รีวิวภาพยนตร์ สยองขวัญ Prey คุณคือเหยื่อ เป็นหนังระทึกสยองขวัญสำหรับคนชอบดูหนังแนวสยอง โดยการฉายภาพจะไม่เปิดเผยสิ่งที่อยู่บนเกาะว่าปีศาจนั้นคือตัวอะไร เพื่อให้ผู้ชมได้ลุ้นและติดตามหนังเรื่องนี้ เอาใจคนรักหนังระทึกขวัญสยองกันเลยทีเดียว
เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งบนเกาะแห่งหนึ่ง 3 วันคนเดียวและจะเกิดอะไรขึ้นหากเราต้องเอาชีวิตรอดบนเกาะร้าง ที่เต็มไปด้วยปีศาจและอยู่เพียงคนเดียวโดยปราศจากผู้คน และการช่วยเหลือใดๆเราจะเริ่มเข้าเรื่องกันเลย
เริ่มต้นเรื่องมาที่โทบี้เด็กหนุ่มที่ไม่เอาไหนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงและนั้นมันทำให้พ่อของเขานั้น พยายามได้ชวนเขาออกมาซ่อมรถด้วยกันแต่โทบี้ก็ได้ปฏิเสธพ่อของเขาไปมันทำให้พ่อของเขาได้ออกมาซ่อมรถเพียงผู้เดียวและด้วยรถที่พ่อของโทบี้ที่ได้นำเอามาซ่อมนั้นเป็นรถคลาสสิคมีราคาแพงมันจึงทำให้พ่อของเขาถูกฆ่าและรถก็ถูกขโมยไป
และในเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้เขาเป็นโรคซึมเศร้าและไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติบนโลกได้ทำให้แม่ของเขาได้ตัดสินในพาตัวเขาเข้าค่าย Lost And Found เพื่อเป็นการบำบัดให้โทบี้กลับมาเป็นปกติๆได้เหมือนเดิมซึ่งโทบี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธและเข้าร่วมโครงการนั้น
โดยโครงการนี้ก็ได้พาเด็กจากหลายปัญหาและหลายประเทศมารวมอยู่บนเรือเดียวกันที่แถบประเทศมาเลเซียในขั้นตอนสุดท้ายของหลักสูตรที่จะจบโครงการจะมีการจับทุกคนให้แยกไปอยู่คนละเกาะและทุกคนต้องหาวิธีรอดด้วยตนเองเป็นเวลา 3 วัน โดยจะมีอุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกที่จำกัดเช่น ถุงนอน ผ้าใบกันน้ำ เสบียง และพลุจุดขอความช่วยเหลือโทบี้เป็นคนแรกที่ถูกนำมาไว้ที่เกาะร้าง เคพี่เลี้ยงของโทบี้บอกโทบี้ว่าหลังครบ 3 วันให้มาเจอกันที่ชายหาดตอนรุ่งสาง จะมีเรือมารับตัวเขาเพื่อพากลับบ้าน ความสยองเริ่ม
ความลับของเกาะในภาพยนตร์เรื่อง Prey (2019) คุณคือเหยื่อ
หลังจากขึ้นเกาะมาโทบี้ได้เริ่มจากการกางผ้าใบกันน้ำและไปหาฟืนเพื่อก่อไฟพอเขากลับมาถึงเต้นก็พบว่ามีลิงมาขโมยอาหารเขาไปทั้งหมดมันทำให้เขาต้องหาอาหารกินเอง ระหว่างที่เขาจะเดินลงทะเลไปหาปลาทำให้เขาเผลอเหยียบใส่เปลือกหอยจนเลือดออกด้วยความโมโหและหิม มันทำให้โทบี้นำหอยพวกนั้นมากิน ส่งผลให้เขาท้องเสียทำให้เขาต้องเดินเข้าป่าไปเพื่อปลดทุกข์และมันก็ทำให้เขาไปพบตัวอะไรบางอย่างพุงเข้าหาทำให้เขารีบกลับมาที่เต้นท์เพื่อหยิบพลุขึ้นมายิงและด้วยอาการท้องเสียและอาการขาดน้ำมันทำให้เขาสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็พบลูกมะพร้าวที่ถูกปลอกไว้แล้ววางอยู่รอบตัวทำให้เขาหยิบลูกมะพร้าวขึ้นมาดื่มน้ำของมัน ซึ่งมันก็เป็นฝีมือของผู้หญิงที่ได้ทำการช่วยเหลือเขาไว้นั้นเอง และนั้นทำให้เขาเลือกเดินตามหญิงสาวคนนั้นไป แต่หญิงสาวคนนั้นกลับพูดขึ้นมาว่าเขาอยู่ที่นี้ไม่ได้ แต่เพราะความหิวเขาเลยขอร้องให้หญิงสาวช่วยหาของกินให้เขา หญิงสาวเลยได้จับสัตว์ป่ามาทำให้เขากินและทั้งคู่เลยได้พูดคุยกันและสนิทกันมากขึ้น และทำให้เขาได้รู้ว่าหญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า มาเดลีน อาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนี้ เธอได้กำชับไห้โทบี้พักอยู่แค่บริเวณเขื่อนแห่งนี้และเธอก็รีบเดินจากไปก่อนพระอาทิตย์ตก
และในคืนนั้นโทบี้ก็ได้ฝันถึงพ่อของเขาและโจรเหล่านั้นเพราะเขายังคงไม่ลืมเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น เขาเลยได้ลุกขึ้นไปจุดไปและได้ยินเสียงฝีเท้าทำให้เขาคิดว่าเป็นมาเดลีน เลยเดินตามไป แต่พบว่าสิ่งที่เขาเจอนั้นเป็นสัตว์ประหลาด เช้าวันรุ่งขี้นมาเดลีนได้มาทำอาหารให้โทบี้ทาง โทบี้เลยได้ถามเธอว่าเคบพบเห็นสัตว์ประหลาดแบบนี้ไหม เมเดลีนไม่ตอบนั้นเลยทำให้โทบี้เปลี่ยนเรื่องไป แล้วหันกลับมาถามเธอว่าเธออยู่ที่นี้กับใคร ซึ่งเธอก็ได้เล่าว่าเธออยู่ที่นี้กับพ่อและแม่ตั้งแต่เกิด แต่พ่อนั้นได้เสียไปแล้ว
ต่อมาเธอได้พาโทบี้ไปเก็บสมุนไพรมาใส่แผลขอโทบี้และทำให้แผลของโทบี้หายไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ และความสนิทสนมของทั้งคู่นั้นก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ พอพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน มาเดลีนก็ขอตัวกลับที่พักของเธอแต่โทบี้ได้พยายามยื้อเธอไว้เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เขาทั้งคู่จะได้เจอกันและนั้นก็ทำให้ทั้งคู่เสียใจเป็นอย่างมาก
เมื่อถึงตอนเช้ามืดก็ได้มีเรือมารอรับโทบี้ตามนัด แต่โทบี้ก็ไม่ได้มาตามนั้นทำให้เคต้องออกไปตามหาโทบี้ แต่ระหว่างนั้นก็มีปีศาจตาสีฟ้ากระโจนเข้ามาหาเธอ พอเช้าโทบี้ก็ได้ตื่นมาและเดินไปหาเคตามที่ได้นัดกันไว้แต่ก็ไม่พบเจอใครเขาได้ทำการมองไปรอบๆทำให้พบสัมภาระที่ลอยอยู่ในทะเล รวมถึงเรือที่พลิกคว่ำทั้งลำ และศพของเคที่อยู่ใต้ท้องเรือ
โทบี้เลยรีบกลับเข้าชายฝั่งเพื่อตามหามาเดลีนพอเข้าเดินเข้าไปก็พบหญิงสาวคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำและได้จับสัตย์ทะเลไปเป็นอาหาร ทำให้เขาแอบตามเธอไป จบพบกระท่อมที่อยู่กลางป่า และทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ได้เดินเข้ามาในกระท่อมพร้อมกับมาเดลีนทำให้เขาทราบว่าทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน และเขาก็ได้แอบเข้าไปหามาเดลีนและบอกให้เธอไปเจอกันที่ชายหาด
ระหว่างนั้นเขาก็ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อสู้กับแม่มาเดลีนพอทั้งคู่ได้เจอกันโทบี้ก็ได้บอกกับมาเดลีนว่าแม่ของเธอได้ฆ่าคนที่เขาจะมารับโทบี้กลับ ซึ่งมาเดลีนก็ได้บอกกลับไปว่าเธอก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เธอเล่าว่าเธอมาที่นี้พร้อมพ่อและแม่ อยู่มาวันหนึ่งร่างกายและเสื้อผ้าของงแม่เธอก็เต็มไปด้วยเลือด ซึ่งวันนั้นก็เป็นวันเดียวกันกับวันที่พ่อเธอเสียไปเหมือนกัน
โทบี้ได้ยินดังนั้นเลยชวนมาเดลีนหนีซึ่งเธอก็ตอบตกลงและนัดให้มาเจอกันที่ชายหาดพรุ่งนี้เช้า เวลานานหลายชั่วโมงมาเดลีนไม่ได้มาตามนัด และนั้นมันก็ทำให้เขาออกตามหามาเดลีนที่กระท่อมแต่ก็ไม่พบมาเดลีน และทันไดนั้นแม่ของมาเดลีนก็ปรากฎตัวขึ้นมันทำให้เขาวิ่งหลอกแม่ของเธอมาติดกับดักที่เขาได้วางเอาไว้จนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้ถามถึงมาเดลีนว่าอยู่ไหน
แม่ของนางเอกเลยพูดขึ้นมาว่าฉันก็ไม่เคยทำร้ายใคร ทำเพียงแค่ใส่ชุดปีศาจไปหลอกเพียงเท่านั้นเพื่อให้ผู้คนหนีออกไปจากเกาะเพื่อจะได้ไม่ถูกมาเดลีนฆ่าตายเสียก่อน ซึ่งนั้นมันก็ทำให้โทบี้งงมากว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่เชื่อสิ่งที่เธอเล่า
ทำให้แม่ของเธอเล่าว่า เมื่อ 10 ปีก่อนเธอและสามีมาที่เกาะแห่งที่เพื่อเผยแพร่ศาสนามคลิสต์แต่ก็ถูกชาวพื้นเมืองขัดขวาง ระหว่าที่พ่อและแม่ถูกจับตัว มันก็ทำให้มาเดลีนเข้าไปอยู่บนแท่นบูชาปีศาจ และมันก็ทำให้เธอถูกดูดเข้าไปในคำสาป จากนั้นเธอก็กลายร่างและฆ่าทุกคนบนเกาะยกเว้นแม่ของเธอที่รอดชีวิตเพื่อให้อยู่กับความรู้สึกผิดตลาดไป
และหลังเล่าจบเธอก็ได้บอกกับโทนี่ว่าอย่าพาเธอออกนอกเกาะเพราะเมื่อถึงเวลากลางคืนเธอจะกลายร่างและฆ่าคน จากนั้นแม่ของโทบี้ก็ได้ยื่นผลเชอร์รี่มีพิษให้โทบี้เพื่อฆ่ามาเดลีน เนื่องจากเธอไม่สามารถทำใจฆ่าลูกสาวได้และเธอก็จากโลกใบนี้อย่างสงบและนั้นก็เป็นตอนที่ทำให้เขาได้รู้ความจริงว่าปีศาจที่แท้จริงนั้นเป็นใคร สุดท้าย โทบี้ก็ถูกมาเดลีนฆ่าตาย และได้รับความช่วยเหลือขึ้นฝั่งแทนโทบี้
ตัวอย่างภาพยนตร์ PREY Official Trailer (2019) Horror Movie
บทสรุปของภาพยนตร์เรื่อง Prey (2019) คุณคือเหยื่อ
ฉากการแสดงที่เห็นส่วนใหญ่จะอยู่บนเกาะ ตัวละออกมีไม่มาก ฉากส่วนใหญ่จะเป็นฉากมืดทำให้เราได้ลุ้นอยู่ตลอดทั้งเรื่อง การดำเนินเรื่องช้าไปนิดค่อยๆเฉยทำให้เนื้อเรื่องดูน่าเบื่อและไม่ค่อยน่าสนใจ บทจบสุดท้ายเหมือนจะมีการต่อของภาคต่อไป
รีวิวหนัง Prey (2019) คุณคือเหยื่อ
ส่วนหนึ่งของความหวาดกลัวเหนือธรรมชาติ 7/10
ฉันชอบหนังเรื่องนี้ ฉันไม่ชอบตอนท้ายเพราะฉันคิดว่ามันทำให้หนังส่วนที่เหลือเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่หายนะ เรื่องนี้ยากที่จะตรึงไว้ที่ประเภทใดประเภทหนึ่ง มันมีองค์ประกอบของหนังสยองขวัญประเภทต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นหนังสยองขวัญสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติและอื่น ๆ ฉันชอบการแสดงโดยเฉพาะจากนักแสดงนำที่รับบทเป็นโทบี้ นักแสดงหญิงที่เล่น Madeline มีคนเชื่อน้อยกว่า แต่ก็ยังโอเค
ฉากนี้สวยงามและใช้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งเรื่องเพื่อสร้างความตึงเครียดในป่าใต้น้ำหรือในถ้ำ
ประเด็นหลักที่ฉันมีนั้นเกี่ยวข้องกับจุดจบที่จู่ๆตัวละครนำก็กลายเป็นคนที่ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ตัวละครหนึ่งเรียกโทบี้ว่า “แรมโบ้” และฉันคิดว่านี่เป็นลักษณะที่ดี มันมาจากไหนและดูเหมือนไม่จริง
timothygartin-7 October 2019
ธรรมดา 6/10
หนังสยองขวัญปานกลาง ‘เหยื่อ’ ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่มีอะไรดีไปเสียทั้งหมด
โลแกนมิลเลอร์ที่ฉันรู้จักจากวัน ‘The Walking Dead’ ของเขาเป็นผู้นำที่ดี Kristine Froseth รับบทเป็น Madeleine เพื่อผลที่มั่นคง ทั้งสองคนสบายดีฉันเห็นดีขึ้น แต่ฉันไม่มีอะไรในแง่ลบที่จะต้องสังเกตเกี่ยวกับพวกเขา หรือโจลีนแอนเดอร์สันอีกหนึ่งใบหน้าจากโลกโทรทัศน์ใน ‘Harrow’
มันเป็นเพียงการเขียนและการดำเนินการโดยรวมที่ฉันไม่ชอบมากนักพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดกว่าในช่วงครึ่งแรกของหนังซึ่งช้า ควรใช้เวลาดังกล่าวเพื่อเจาะลึกมากขึ้นกับหลักฐาน / ตัวละคร
r96sk-21 April 2020
ภาพยนตร์สยองขวัญที่ไม่ใจจดใจจ่อซึ่งดูเหมือนงดงามมากกว่าน่ากลัว 2/10
การถ่ายทำภาพยนตร์ของ Atleast Robbins ทำให้เกาะอันงดงามทนทาน เหยื่อฝึกลักษณะที่เลวร้ายที่สุดทั้งหมดที่พบในความน่าสะพรึงกลัวในงบประมาณที่ต่ำและไม่ได้พยายามที่จะซ่อนตัวจากการล่อลวงของมันด้วยเหตุนี้จึงทำให้สิ่งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของปี
TheMovieDiorama – 14 November 2019