รีวิวซีรีส์ The Queen’s Gambit
รีวิวซีรีส์ The Queen’s Gambit เป็นมินิซีรีส์ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ Walter Tevis ในปี 1983 สร้างโดย Scott Frank และ Allan Scott สตรีมบน Netflix นำแสดงโดย Anya Taylor-Joy
ซีรีส์เริ่มต้นด้วย เบธ ฮาร์มอน เด็กกำพร้า วัย 9 ขวบ เป็นคนเงียบขรึม บึ้งตึง และด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เธออยู่ในเหตุการณ์ที่แม่ของเธอฆ่าตัวตาย และพยายามที่จะฆ่าเธอด้วยการทำให้รถประสบอุบัติเหตุ แต่เธอรอดชีวิตมาได้ จึงทำให้เธอต้องไปอยู่สถานสงเคราะห์เลี้ยงเด็กกำพร้า ที่นั่น ให้ยากล่อมประสาทเด็กๆ ทุกคน เพื่อให้เด็กๆ เชื่อง
นั่นคือที่ๆ เธอ เริ่มต้นเล่น เกมหมากรุก กับภารโรงในห้องใต้ดิน เขาสอนกฎการเล่นให้เธอ และรู้สึกทึ่งกับพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอ เธอใช้เวลาทั้งคืนหลังจากกินยา และจินตนาการถึงเกมหมากรุกบนเพดานห้อง เธอค้นพบอย่างรวดเร็วว่าการกักตุนยาเหล่านี้ไว้ และการรับประทานยาหลายเม็ดต่อครั้ง ทำให้ประสาทสัมผัสของเธอคมชัดขึ้น ความคิดของเธอชัดเจนขึ้น เธออ่านเกมหมากรุกได้อย่างเฉียบขาดเวลากินยา
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นเธอได้รับการอุปการะจากครอบครัวอุปถัมภ์ คู่แต่งงานที่ไม่มีความสุข ในขณะที่สามีใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการ “เดินทางเพื่อทำธุรกิจ” ที่ตะวันตก เบธ ค่อยๆผูกพันกับแม่ใหม่ ของเธอแอลมา ซึ่งเป็นคนที่ติดแอลกอฮอล์ เบธ ชนะการแข่งขันหมากรุกในท้องถิ่น และหลังจากที่ Alma ค้นพบว่าลูกสาวคนใหม่ของเธอ สามารถทำเงินได้เท่าไหร่ เธอก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทน และผู้จัดการของเบธ นับแต่นั้น เธอได้เข้าชิงแชมป์ US Open ตอนอายุ 16 ปี เธอต้องต่อสู้อย่างยากลำบากในยุค 1960 ยุคที่ผู้หญิงยังไม่เป็นที่ยอมรับ และเธอยังเป็นนักหมากรุกหญิงคนเดียวของวงการ
ซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้ สนุก ดูเพลิน การเล่าเรืองของซีรีส์ทำได้อย่างลงตัว เหมือนเรากำลังติดตามชีวิตของเธอ ตั้งแต่เด็ก จนโต และจุดที่เธอได้เป็นมาสเตอร์ ไม่ต้องกลัวว่าเล่นหมากรุกไม่เป็น แล้วจะดูไม่รู้เรื่อง เราจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหมากรุก ผ่านทางตัวละคร เน้นไปที่อารมณ์ของนักแสดง และความสำคัญของการแข่งขัน นักแสดงก็สื่ออารมณ์ให้เราได้ทราบ ถึงเวลา แพ้ หรือ ชนะในการแข่งขัน รวมถึงมุมกล้องเท่ๆ ของแต่ละฉาก ทำให้ยกอารมณ์ของซีนนั้นๆ ได้ออกมาอย่างดี
ความคิดเห็นบางส่วนจากผู้ชม หลังจากได้ดูมินิซีรีส์เรื่อง The Queen’s Gambit
เทย์เลอร์ – จอยซึ่งเปลี่ยนมาเป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดในอาชีพการงานในวัยเยาว์ที่โด่งดังของเธอ ใบหน้าที่แสดงออกและการเคลื่อนไหวของมือที่แสดงออกมากขึ้นเป็นส่วนสำคัญของสิ่งที่ทำให้การแข่งขันหมากรุกชวนให้หลงใหล เธอเข้ากับแฟชั่นและกิริยามารยาทในยุค 60 ได้อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งเธออาจเกิดมาในทศวรรษที่ผิด
https://www.nytimes.com/
นักแสดงสมทบก็ยอดเยี่ยมเช่นกันโดยเฉพาะ Heller ในฐานะ Alma ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งตัวเปิดใช้งานและระบบสนับสนุนสำหรับลูกสาวบุญธรรมที่ฉลาดอย่างน่าประหลาดใจของเธอ โดยส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักจากผลงานของเธอในฐานะผู้กำกับ (“A Beautiful Day in the Neighborhood”) เฮลเลอร์ทำให้แอลมาเป็นมากกว่าแค่แม่บ้านที่ไม่แยแสคนอื่น ผู้มาใหม่โมเสสอินแกรมผู้รับบทเป็นโจลีนเพื่อนที่ดีที่สุดของเบ ธ จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็โดดเด่นด้วยเวลาฉายที่ จำกัด
https://www.nytimes.com/
มีภาพยนตร์และรายการทีวีมากมายเกี่ยวกับอัจฉริยะและภาระและต้นทุนของจิตใจที่ยิ่งใหญ่ แต่มีเพียงไม่กี่เรื่องที่มีเรื่องราวของผู้หญิงเป็นศูนย์กลาง เบธ เป็นคนยุ่งเหยิงใจร้ายและในที่สุดก็ยอดเยี่ยมเหมือนกับจอห์นแนช (รัสเซล โครว์ใน “A Beautiful Mind”) หรือ Will Hunting (Matt Damon ใน “Good Will Hunting”)
https://www.nytimes.com/
Frank รวบรวมทุกอย่างไว้ในแพ็คเกจที่ชาญฉลาดราบรื่นและรวดเร็วเหมือนสินค้าที่ตัดเย็บอย่างประณีต การผลิตมีการผสมผสานระหว่างสไตล์ Rat Pack ย้อนยุคเข้าด้วยกันในการตกแต่งและตัวเลือกดนตรีด้วยเนื้อครีมในการแสดงและการถ่ายภาพยนตร์ซึ่งชวนให้นึกถึงผลงานชิ้นอื่นในยุค Netflix อย่าง“ The Crown” (ความเชื่อมโยงนี้ได้รับการเสริมแรงจากนักแสดงชาวอังกฤษจำนวนมากที่รับบทเป็นชาวอเมริกันรวมถึงเทย์เลอร์ – จอยและในฐานะที่ปรึกษาสามคนและคู่แข่งสำหรับความเสน่หาของเบ ธ โธมัสโบรดี – ซังสเตอร์, จาค็อบฟอร์จูน – ลอยด์และแฮร์รี่เมลลิ่ง)