ภาพยนตร์สยองขวัญ Truth or Dare ภาพยนตร์จากค่าย Blumhouse Productions ค่ายภาพยนตร์เล็กๆ ที่เน้นในการสร้างภาพยนตร์แนวสยองขวัญสั่นประสาท พวกเขานั้นมีความเปิดกว้างในเรื่องของไอเดียการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญเป็นอย่างมาก
อย่างเช่นภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดจากการพูดคุยเล่นๆ ว่าจะเป็นอย่างไรหากนำเกมที่นิยมเล่นกันโดยเฉพาะในปาร์ตี้อย่างเกม Truth or Dare มานำเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์สยองขวัญ หลังจากที่ได้โจทย์ไป ผู้กำกับอย่าง Jeff Wadlow ก็ได้ไปคิดหาวิธีการที่จะเล่าเรื่องการเล่นเกมให้ออกมาในรูปแบบของความสยองขวัญ
และในที่สุดมันก็กลายเป็นภาพยนตร์ออกฉายเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 ที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณเพียง 3.9 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้ Box Office ไปได้สูงถึง 95.3 ล้านดอลลาร์
แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่อยู่ในกระแสหรือเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แต่ก็ถือว่ามันประสบความสำเร็จและทำรายได้ได้อย่างถล่มทลายเป็นอย่างมากจากการจุดประเด็นไอเดียเล็กๆในการพูดคุยเล่นกันเท่านั้น ความน่ากลัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกับทุกๆ คน
ภาพยนตร์นั้นไม่ได้มีวิธีการเล่าเรื่องที่เหมือนกับภาพยนตร์สยองขวัญทั่วไปที่เน้นบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจ ใช้การถ่ายทำที่ค่อนข้างจะอึมครึม ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่มันก็มีความสมจริงในการใช้ชีวิตประจำวันของคนทั่วไป มันจึงทำให้เกิดความน่ากลัวตรงที่มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องนี้กับเราทุกคน
สำหรับเกม Truth or Dare วิธีการเล่นสามารถทำได้ง่ายๆ นั่นก็คือการท้ากันว่าจะพูดความจริงหรือทำบางสิ่งบางอย่าง แล้วแต่ว่าคนท้าจะถามหรือท้าให้ทำในสิ่งไหน กฎก็คือเมื่อเลือกแล้วจะต้องทำตามนั้น หากเลือกที่จะพูดต้องพูดเฉพาะความจริง หากเลือกที่จะทำเมื่อถูกทำแล้วก็ต้องทำอย่างไม่มีเลี่ยง
เรื่องราวภายใน ภาพยนตร์สยองขวัญ Truth or Dare
Truth or Dare จะเล่าถึงวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันในประเทศเม็กซิโก ในขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนานอยู่ในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่งหลังจากท่องเที่ยวกันมาอย่างยาวนาน โอลิเวียหนึ่งในหญิงสาวที่อยู่ภายในกลุ่มเพื่อนนั้นก็ได้พบกับชายหนุ่มที่มีชื่อว่าคาร์เตอร์ เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่ทำถ้าเข้ามาเหมือนจะจีบเธอ
หลังจากที่ทั้งสองได้คุยกันชายหนุ่มก็ได้เอ่ยชวนให้เธอไปเล่นเกม Truth or Dare ในโบสถ์ร้างแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางหุบเขา เธอจึงได้ชวนเพื่อนในกลุ่มให้ไปด้วยกันทั้งหมด หลังจากที่ทุกคนได้มาถึงโบสถ์แห่งนั้นแล้วก็ได้เริ่มเล่นเกมทันที ก่อนที่สักพักโอลิเวียนั้นจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่แตกต่างออกไป
เธอจึงได้ซักไซ้ถามชายหนุ่มที่เป็นคนชวนเธอมา ก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงที่คาร์เตอร์ชวนทุกคนมาเล่นเกมนั้นก็เป็นเพราะว่าเขากำลังติดอยู่ในเกมพูดความจริงหรือรับคำท้า เพราะก่อนหน้านี้เขาและกลุ่มเพื่อนเคยมาเล่นเกมดังกล่าวยังสถานที่แห่งนี้มาก่อนและต้องพบเจอกับเรื่องราวสยองขวัญมากมาย
วิธีการที่จะช่วยยืดระยะเวลาการตายให้ยาวออกไปนั่นก็คือหาผู้เล่นมาเพิ่ม สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญนั่นก็คือนิมิตภาพสยองที่จะออกมาท้าพวกเขาให้ทำบางสิ่งบางอย่างหรือพูดความจริง หาพวกเขาไม่สามารถทำได้หรือเลือกที่จะโกหกสิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายก็คือชีวิต
แต่ความจริงแล้วเงื่อนไขมีมากกว่านั้นเมื่อพวกเขาได้เล่นไปเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนต้องร่วมมือกันค้นหาวิธีการที่จะหยุดเกมบ้าๆ นี้ลง สิ่งเหนือธรรมชาติในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีการนำเสนอออกมาแบบตรงๆ ให้เห็นได้ชัด
ความรู้สึกจะคล้ายคลึงกับการรับชมภาพยนตร์เรื่อง Final destination ที่เริ่มมีคนทยอยเสียชีวิตไปเรื่อยๆ ส่วนคนที่ยังรอดชีวิตอยู่ก็ต้องหาหนทางที่จะทำให้ตนเองนั้นสามารถรอดชีวิตไปได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเรื่องของความสัมพันธ์ฉันชู้สาวและความสัมพันธ์ของเพื่อนที่สั่นคลอนและเต็มไปด้วยปมขัดแย้งมากมาย
แต่ด้วยความที่เรทของภาพยนตร์นั้นอยู่ที่ pg-13 ดังนั้นในเรื่องของฉากที่มีความรุนแรงจึงไม่ได้มีการนำเสนอออกมาอย่างเต็มที่มากนัก ทำให้ภาพยนตร์เหมือนจะไปไม่สุดสักทาง แต่หากคุณต้องการไปรับชมเพื่อซึมซับบรรยากาศความสยองขวัญถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ไม่น้อย
Truth or Dare ภาพยนตร์ที่สามารถสร้างความกลัวให้กับผู้รับชมได้แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นก็ตาม
ส่วนใหญ่แล้วภาพยนตร์วัยรุ่นที่เรามักจะเห็นกันนั้นถ้าเป็นแนวสยองขวัญก็จะออกแนวที่ไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่ผู้กำกับมักจะใส่ความเกินจริงเข้าไปจนทำให้เราผู้รับชมไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน
หากยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Final destination เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่สามารถนำเสนอสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ในชีวิตของทุกคนออกมาดังนั้นมันจึงค่อนข้างน่ากลัวเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่สามารถทำออกมาได้สมจริงและมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะหากคุณเป็นคนที่เชื่อในเรื่องราวเหนือธรรมชาติ
ภาพยนตร์ไม่ได้ใส่มาแค่ความสยองขวัญเท่านั้นแต่ยังมีในเรื่องของความรุนแรงที่เกิดขึ้นอีกด้วย เนื่องจากคำท้าที่ตัวละครจะต้องประสบพบเจอนั้นบางครั้งก็มีเรื่องที่ทำให้ผู้รับชมรู้สึกหวาดเสียวหรือเจ็บแทน
วิธีการนำเสนอมันจึงแตกต่างออกไปจากภาพยนตร์สยองขวัญที่มักจะนำเสนอในบรรยากาศที่น่ากลัว อึมครึม ไม่น่าไว้วางใจ ต่างกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่แสดงออกมาแบบตรงๆ ว่าตัวละครกำลังประสบกับอะไรอยู่ถึงแม้ว่ามันจะมีปริศนาในส่วนของที่มาที่ไปก็ตาม
จังหวะในการนำเสนอนั้นถือว่าสามารถทำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ภาพยนตร์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกมมาค่อนข้างน้อย มันทำให้เรากดดันและไม่รู้เลยว่าหวยจะไปออกที่ใคร ใครที่จะโดนท้าหรือโดนถาม แม้แต่การพลั้งปากพูดไปก็จำเป็นที่จะต้องทำจริงๆ หากคุณโดนท้า
ดังนั้นตัวละครส่วนใหญ่ภายในเรื่องจึงค่อนข้างที่จะมีความระมัดระวัง แต่ก็มีบางตัวละครเช่นเดียวกันที่บางทีไม่ทันคิดจนทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น เป็นภาพยนตร์ที่รับชมได้ง่ายไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนมากนัก หากคุณต้องการเสพความสยองขวัญอย่างเต็มที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น่ารับชมไม่น้อย
Director: Jeff Wadlow
Writers: Michael Reisz (screenplay by), Jillian Jacobs (screenplay by)
Stars: Lucy Hale, Tyler Posey, Violett Beane
Final Destination ภาพยนตร์ที่เมื่อดูจบคุณจะใช้ชีวิตระวังมากยิ่งขึ้น Yangdu-Duyang.com จะพาทุกท่านไปพบกับ การรีวิว แนะนำหนัง ภาพยนต์ ซีรีส์ ทั้งไทยและต่างประเทศ เกาหลี Netflix ที่น่าดู น่าติดตาม บอกได้เลยว่าทุกท่านต้องห้ามพลาด